สลด ผัวโหดเมียนมา ใช้ค้อนทุบหัวเมียดับ ก่อนเผ่นหนีพร้อมหมา ทิ้งร่างหมกห้อง 5 วัน ตร.เร่งล่าตัว

สามีโหด ใช้ค้อนทุบหัวภรรยาเสีชีวิต ก่อนทิ้งร่างหมกห้อง 5 วัน เพื่อนบ้านได้กลิ่นเปิดดูถึงผงะ เผยวันเกิดเหตุได้ยินเสียงทะเลาะกัน ก่อนมาพบศพ

สลด ผัวโหดเมียนมา ใช้ค้อนทุบหัวเมียดับ ก่อนเผ่นหนีพร้อมหมา ทิ้งร่างหมกห้อง 5 วัน ตร.เร่งล่าตัว – Top News รายงาน

 

ใช้ค้อนทุบหัวเมียดับ

วานนี้ (7 ก.ย. 67) เวลา 19.00 น.  ตำรวจ สน.บางขุนเทียน พร้อมด้วยแพทย์นิติเวช โรงพยาบาลศิริราช กองพิสูจน์หลักฐาน และกู้ภัย เข้าตรวจสอบเหตุพบผู้เสียชีวิตถูกฆาตกรรม ภายในห้องพักของอพาร์ตเมนต์ไม่มีชื่อ ภายในซอยเอกชัย 83/1 ถนนเอกชัย เขตบางบอน กรุงเทพฯ ที่เกิดเหตุเป็นอพาร์ตเมนต์ไม่มีชื่อ สูง 7 ชั้น จุดเกิดเหตุอยู่บริเวณห้องพัก ชั้นที่ 3 ภายในห้องพบศพนางซูตาง ดางงุย อายุ 39 ปี ชาวเมียนมา อาชีพขายกุ้งสดภายในตลาดมหาชัย นอนเสียชีวิตคว่ำหน้าจมกองเลือด มีบาดแผลถูกทุบที่ศีรษะแตกเป็นแผลฉกรรจ์ คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 วัน ห่างจากศีรษะไปเล็กน้อยพบค้อนเปื้อนคราบเลือด ความยาวของด้ามประมาณ 1 ฟุต ตกอยู่ เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

สอบสวนนางสาว บุญชู อายุ 33 ปี ชาวเมียนมา ที่อยู่ห้องเช่าฝั่งตรงข้ามทราบว่า นางซูตาง ผู้เสียชีวิต อาศัยอยู่กับนายทุน ทุน เมี๊ยะ อายุ 43 ปี สามีชาวเมียนมา ทั้งสองมีอาชีพขายกุ้งอยู่ที่ตลาดมหาชัย ซึ่งเธอได้กลิ่นเหม็นเน่าอย่างรุนแรง คิดว่าอาจจะเป็นหมาตายอยู่ในห้อง จึงแจ้งให้เจ้าของอพาร์ตเมนต์ไปตรวจสอบ จนกระทั่งลูกของผู้ตายมาเปิดห้องที่ถูกปิดล็อกจากด้านนอกก็ต้องตกใจที่พบศพของนางซูตาง อยู่ในห้อง ซึ่งก่อนหน้านี้ 4-5 วันก่อน เมื่อเวลา 21.00 น. ได้ยินเสียงทั้งคู่มีปากเสียงทะเลาะกัน จากนั้นก็ไม่ได้ยินเสียง และพบเห็นทั้งสองอีกเลย ส่วนหมาพันธุ์พุดเดิลที่ทั้งสองเลี้ยงไว้ หลังเกิดเหตุสามีผู้ตายได้นำหลบหนีไปด้วย

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานได้เก็บรวบรวมพยานหลักฐานภายในที่เกิดเหตุ พบคราบรอยนิ้วมือ  และคราบรอยเท้าเปื้อนคราบเลือดที่เปรอะอยู่ตามพื้นห้องไว้เป็นหลักฐาน ตรวจสอบกล้องวงจรปิดในช่วงเวลาเกิดเหตุ เพื่อยืนยันตัวผู้กระทำความผิด พร้อมประสานฝ่ายสืบสวน สน.บางขุนเทียน เร่งติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดี ส่วนศพผู้เสียชีวิตมอบให้กู้ภัยนำส่งนิติเวช โรงพยาบาลศิริราช ชันสูตรพลิกศพต่อไป

     

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

กระบะสี่ประตูถอยชนกระบะแคปในปั้มน้ำมันแล้วหนีไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น สาววัย 41 ปี เจ้าของกระบะแคปหวังเพียงคำขอโทษ
ตระกูล "สิงห์โตทอง" ทิ้งกระจาด ข้าวสาร-อาหารแห้ง 1 พันชุด ย้อนรำลึก "อดีตสส.ดรงค์ สิงห์โตทอง" ผู้ก่อตั้งสมาคมกลุ่มอาชีพการเกษตรชลบุรี ในวันชาวไร่อ้อยชลบุรี
สมศักดิ์ เผย มี ปชช. ร่วมนับคาร์บ ลดป่วย NCDs แล้วกว่า 6.4 แสนคน เดินหน้าอีก 16จว.กลาง-ตะวันออก
กรมส่งเสริมสหกรณ์ขอขยายเวลาโครงการสนับสนุนสินเชื่อสถาบันเกษตรกรแปรรูปยางพาราอีก 10 ปี หวังเสริมสภาพคล่องต่อยอดธุรกิจให้สหกรณ์ชาวสวนยาง
ทบ.สั่งย้าย เจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก เซ่นปมทำร้ายร่างกายกำลังพล
บ.สยาม ควอลิตี้ สตาร์ช จำกัด จัดงาน “MODEL SMS 20R” ขยายพันธุ์ต้านทานโรคใบด่างมันสำปะหลัง ภายใน 5 ปี ชัยภูมิต้องปลอดจากการระบาดเป็นจังหวัดแรก
ตร.แจงชัด ติดข้อกม. ยังไม่ได้ตัว "เสี่ยโจ้ ปัตตานี" พ่อค้าน้ำมันเถื่อนใหญ่ พบเบาะแสหนีอยู่กัมพูชา
กลุ่ม ปตท. และกลุ่มฯ โรงกลั่นน้ำมันปิโตรเลียม ส.อ.ท. พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนประเทศไทย ด้วยพลังงานสะอาด และคาดการณ์ราคาน้ำมันในปี 68
เพจดังแฉอีก พรรคส้มแอร์ไลน์ ดูงานจีน “เจี๊ยบ อมรัตน์” โผล่ไปด้วย โดนชาวเน็ตสวน เที่ยวฟรีภาษีประชาชน
เสี่ยใจบุญ มอบทุนพัฒนาบ้านเกิดกว่า 3 ล้านบาท แจกทุนนักเรียนทั้งโรงเรียน คนละ 5,000 บาท

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น