คนไข้โวย ร้องสธ.วินิจฉัยโรคผิด จนแพ้ยารุนแรง สภาพหนัก เกือบตาบอด หน้าพุพอง ผิวลอกทั่วตัว

ผู้เสียหายรายแรก อาชีพพนักงานไอที อายุ31ปี เล่าว่า เมื่อประมาณเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ตนเองมีอาการไข้ขึ้น เจ็บคอ จึงไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่งในกรุงเทพ(เปาโลเกษตร)แพทย์ที่รักษา วินิจฉัยว่า มีไข้สูงเพราะต่อมทอลซิลอักเสบ หมอจึงรักษาด้วยการฉีดยาและให้กลับมาพักที่บ้าน ต่อมาวันรุ่งขึ้น อาการเริ่มหนักมีผื่นขึ้นเต็มตัว ตามตัวและใบหน้าพุพอง จึงรีบกลับไปที่โรงพยาบาลเดิม คราวนี้แพทย์วินิจฉัยว่าเป็นอีสุกอีใส จึงได้ฉีดยาเพิ่มให้อีก

แต่ตุ่มเริ่มเยอะขึ้น และมีน้ำไหลออกมา ต้องแอดมิดที่โรงพยาบาล แต่อาการไม่ดีขึ้น แพทย์จึงส่งตัวไปที่โรงพยาบาลเอกชน แห่งที่ 2แพทย์โรงพยาบาลที่ 2 วินิจฉัยว่า เกิดจากการแพ้ยา ต้องหยุดยาทั้งหมด แต่กว่าจะรู้ว่าแพ้ยา อาการก็หนักแล้ว สุดท้ายต้องนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลนานกว่า 3 เดือน และตาเกือบบอดทั้ง 2 ข้าง ปัจจุบันตาข้างขวามองเห็นเพียงไม่ถึง 50% ส่วนตาข้างซ้ายมองไม่เห็น ทำให้ไม่สามารถกลับมาทำงานได้ตามปกติ ผิวหนังตามร่างกายมีอาการลอกและเป็นตุ่มพุพอง จึงออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรม

สิ่งที่อยากร้องเรียน คือ อยากได้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านดวงตา มาช่วยรักษาก่อนที่ตาจะบอดสนิท อยากให้โรงพยาบาล แรกมาคุยถึงแนวทางการรักษา และระหว่างรักษาจะช่วยเยียวยาอะไรได้บ้าง

ส่วนผู้เสียหายรายที่2 อาการเริ่มต้นไม่ต่างกับรายแรก คือ เริ่มมีอาการ และไปหาหมอวันที่ 30 กรกฎาคมที่ผ่านมา เป็นไข้ เจ็บคอ จากนั้นจึงไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ในจังหวัดนนทบุรี หมอได้ฉีดยากินยาฆ่าเชื้อ แต่อาการก็ไม่ทุเลาลง ซ้ำเป็นหนักกว่าเดิม ผิวหนังลอก จึงไปโรงพยาบาลแรก แพทย์ วินิจฉัย ก็ส่งไปที่โรงพยาบาลที่ 2 จนแอดมิด กระทบทำงาน ไม่หาย100% เป็นแผลเป็นครึ่งตัว เล็บเริ่มหลุด