นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีแถลงผลประชุมครม.ว่า วันนี้ครม.มีมติเห็นชอบมาตรการบรรเทาบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ อนุมัติงบกลางปี 64 จำนวน 27,005.66 ล้านบาท สำหรับกองทุนประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคมเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายขยายระยะเวลามาตรการบรรเทาภาระค่าน้ำ ค่าไฟให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเดิมต่อไปอีก 12 เดือนตั้งแต่ต.ค. 64 ถึงก.ย.65 วงเงิน 2,018 ล้านบาท ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในส่วนค่าไฟ 1.9 ล้านครัวเรือน ค่าน้ำประปา 186,625 ครัวเรือน
พร้อมกันนี้ครม.จัดสวัสดิการแห่งรัฐผู้ที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจำนวน 13.56 ล้านคนวงเงิน 18,815 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในครัวเรือนเช่น ค่าก๊าซหุงต้ม ค่าใช้จ่ายในการเดินทางและเบี้ยความพิการสำหรับผู้ที่มีบัตรประจำตัวคนพิการ ครม.เห็นชอบให้ดำเนินโครงการลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ วงเงิน 1,642 ล้านบาท สำหรับการลงทะเบียนรอบใหม่เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการระบุตัวผู้มีรายได้น้อยซึ่งเป็นกลุ่มตกหล่นที่ไม่สามารถเข้าถึงและไม่ผ่านคุณสมบัติในรอบที่ผ่านมาการจัดสรรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่วงเงิน 4,530.66 ล้านบาท จะทำให้มีผู้เข้าถึงสวัสดิการแห่งรัฐมากขึ้น
ครม.มีมติลดอัตราเงินสมทบประกันสังคมมาตรา 33เป็นเวลา 3 เดือนตั้งแต่เดือน ก.ย – พ.ย. 64 จากเดิมที่นายจ้างลูกจ้างต้องส่งเงินสมทบฝ่ายละ 5 เปอร์เซ็นต์ลดลงเหลือ 2.5 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนั้นผู้ประกันตนตามมาตรา 39 จากเดิมส่งเงินสมทบ 432 บาทลดลงเหลือเดือนละ 235 บาท เป็นเวลา 3 เดือน ก.ย.-พ.ย.64
ขณะเดียวกันครม.เห็นชอบปรับเกณฑ์มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โครงการ เราเที่ยวด้วยกันเฟส 3 และโครงการทัวร์เที่ยวไทย ขยายระยะเวลาสิ้นสุดทั้ง2โครงการ ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565 ใช้สิทธิ์ได้ ในเดือนตุลาคม 64 ถึง 31 ม.ค.65 ให้ททท.เร่งรัดการเบิกจ่ายภายใน 1 เดือน โครงการทัวร์เที่ยวไทยขยายให้สามารถเดินทางข้ามจังหวัดได้