“อ.เจษฏา” ตั้งข้อสังเกตงานวิจัย “กรมประมง” DNA ปลาหมอคางดำ มีความต่างตามแหล่งน้ำ ชี้จำเป็นต้องหาที่มาให้ชัด

นักวิชาการ อ.เจษฎา ออกมาตั้งข้อสังเกตว่า งานวิจัย กรมประมง ชี้ว่ามีปลาที่ต่างพันธุกรรมกัน แต่ทำไมถึงชี้เป้าไปที่บริษัทที่นำเข้ารายเดียว จึงควรหาข้อมูลให้รอบด้านก่อนสรุป

“อ.เจษฏา” ตั้งข้อสังเกตงานวิจัย “กรมประมง” DNA ปลาหมอคางดำ มีความต่างตามแหล่งน้ำ ชี้จำเป็นต้องหาที่มาให้ชัด – Top News รายงาน

อ.เจษฏา

จากกรณีที่มีผู้ยื่นฟ้อง บริษัทที่นำเข้าปลาหมอคางดำเพื่อการวิจัย ซึ่งเป็นการนำเข้าแบบถูกกฎหมายรายเดียวในประเทศไทย

ล่าสุด รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ ในฐานะที่ปรึกษาคณะอนุกรรมาธิการแก้ปัญหาปลาหมอคางดำ ที่มี นพ.วาโย อัศวรุ่งเรือง เป็นประธาน ได้ตั้งข้อสังเกตุจากงานวิจัยตีพิมพ์ออกมา ตั้งแต่ 2562 – 2565 ของกรมประมง ถึงการระบาดของปลาหมอคางดำ ที่กระจายในหลายพื้นที่ และมีการศึกษาถึงระดับพันธุกรรม หรือ DNA และพบข้อบ่งชี้ว่าปลาแต่ละที่”มีพันธุกรรมที่แตกต่างกันตั้งแต่ต้น”

อ.เจษฎา อธิบายว่า แม้แต่ละพื้นที่จะมีความใกล้ชิดกัน แต่ก็พบที่ต่างกันด้วย อย่างที่สมุทรสงคราม สมุทรสาคร ความสัมพันธ์ค่อนข้างใกล้ชิดกัน แต่ทางด้านฝั่งตะวันออก เช่นระยอง ก็พบว่ามี DNA ห่างและมีความเฉพาะ อีกกรณีปลาที่พบในจังหวัดเพชรบุรีมีความใกล้ชิด แต่เมื่อเทียบกับที่ในจังหวัดประจวบฯจะกระโดดไปอีก จึงตั้งข้อสังเกตได้ว่าปลาอาจสามารถเปลี่ยนพันธุกรรมได้เองหรือไม่ หรืออาจมาจากการบริษัทที่นำเข้าแต่มาทีแรก แต่คำถามที่ตามมาคือ “อาจมาจากคนอื่น ๆ ที่ไม่ได้ขออนุญาตินำเข้ามาก็เป็นไปได้ เพราะธุรกิจเลี้ยงปลาสวยงาม หรือปลาแปลกในประเทศไทยนั้นมีอยู่ และการลักลอบนำเข้าปลาก็เกิดขึ้นจริง” ซึ่งมีหลากหลายชนิด ไม่ใช่เฉพาะแค่ปลาหมอสี จึงก็ไม่ควรตัดประเด็นที่ว่า “อาจหลุดมาจากบริษัทอื่น ๆ ที่ลอบนำเข้ามา” ซึ่งเป็นเหตุผลว่า ไปเจอปลาหมอคางดำที่ต่างพันธุกรรมในระยองและประจวบ และก็เป็นไปได้ว่า มีการนำเข้ามาคนละล็อตกับที่ตกเป็นข่าว

 

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

อ.เจษฎา มองอีกว่า สถานการณ์ที่เร่งด่วนตอนนี้ คือการเร่งกำจัดให้ได้เร็วที่สุด หลัง 10 ปีที่ผ่านมา เราปล่อยมาตลอด ทั้งที่กรมประมงและบุคลากรสายนิเวศวิทยา ต่างก็รู้ว่ามันไม่ดี แต่ชาวบ้านเขาไม่รู้ คิดว่าเป็นปลาหมอเทศ และต่อมาก็ยังแทนที่ปลาอื่น ๆ โดยเฉพาะสัตว์น้ำเศรษฐกิจ แต่ปัจจุบันนี้ ทางกรมประมง ทำได้ดีในการให้ความรู้ประชาชน ข้อติดขัดเรื่องเครื่องมือจับก็แก้กฎระเบียบแล้ว จึงเห็นว่า ผ่านไป 3 เดือน ก็เริ่มมีรายงานว่าบางจังหวัดเจอปลาหมอคางดำลดน้อยลงไปมาก

 

แม้แต่บริษัทใหญ่ที่อ้างถึงในข่าว ก็มีส่วนร่วมในการเข้ามาลงขันรับซื้อโรงงานปลาป่นจนลดน้อยลงมาก และยังช่วยให้ความรู้ รวมถึงชวนนักวิชาการเข้ามาร่วมทำวิจัยมากขึ้น ทำให้สถานการณ์ขณะนี้ดีขึ้น แต่ยังกังวลว่าจะเป็นไฟไหม้ฟาง ที่ปล่อยปะละเลยจนกลับมาระบาดใหม่ได้ อีกทั้งต้องเร่งให้ความรู้กับผู้เลี้ยงกุ้งเลี้ยงปลาบ่อ ต้องรู้จักวิธีการกรอง การเตรียมน้ำ และการฆ่าเชื้อ อาทิการแช่น้ำ”กากชา”ก่อน เป็นต้น

อ.เจษฎา ทิ้งท้ายว่า ปลาหมอคางดำ ขณะนี้ไม่มีทางที่จะหมดไปจากประเทศไทยได้ เพราะเลยเวลานั้นมาแล้ว แต่จะอยู่กันเหมือนกับตอนโรคโควิดระบาด ที่ไม่หายไป แต่ต้องเร่งควบคุมให้ได้เช่นกันนั่นเอง

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ทบ.ขานรับนโยบายปราบยาเสพติด เพิ่มทหาร 6 กองกำลัง วัดเคพีไอ 10 กพ.-10 มิ.ย.
ซีพีเอฟ ซีพี-เมจิ ร่วมหนุนสระบุรีแซนด์บ๊อกซ์ "รวมพลังสร้างเมืองคาร์บอนต่ำแห่งแรกของประเทศไทย”
สละเรือแล้ว! "ผบ.อิสราเอล" ยื่น "ลาออก" เซ่นเหตุ 7 ต.ค. ไล่แทงกันในเทลอาวีฟเจ็บ 5
สุดปัง “นายกฯ” สวมกระโปรงผ้าปาเต๊ะ ร่วมประชุม WEF
ทบ.ยืนยันอีกรอบ! ปมร้อน “แสตมป์” ไม่เกี่ยวกองทัพ พบไม่เคยร้อง 112
ผบ.ทร.เข้าเยี่ยม พร้อมมอบของบำรุงขวัญ สร้างกำลังใจทหารผ่านศึก ขอบคุณเสียสละเพื่อชาติจนทุพพลภาพ
“อัจฉริยะ” ยอมเสี่ยงชีวิต มาขึ้นไต่สวนคดีละเมิดอำนาจศาล พร้อมเปิดแผลผ่าตัดโชว์นักข่าว
"อิสราเอล" บิดหยุดยิง ถล่มเวสต์แบงก์ดับเกลื่อน "ฮามาส" รวมพลด่วน
ตม.4 บุกทลายเว็บพนันฯเกาหลีใต้ ใช้ไทยเป็นฐานบัญชาการควบคุมทั่วโลก เงินหมุนเวียน 100 ล้านบาท
เปิดคำพิพากษา “เต้ มงคลกิตติ์” ทำสัญญาประนีประนอม ยอมขอโทษ หมิ่นกล่าวหา “ศักดิ์สยาม”

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น