“วิโรจน์” จี้ “รบ.อิ๊งค์” สาง 3 ปม แก้ปัญหายาเสพติด เร่งจับตัวใหญ่พร้อมยึดทรัพย์

วิโรจน์ ชี้การแก้ปัญหายาเสพติด ต้องสาง 3 ปม จี้เร่งจับตัวใหญ่พร้อมยึดทรัพย์ ไม่ใช่จับตัวเล็กมาตีตราทำยอด พร้อมนำเงินไปสนับสนุนการบำบัดฟื้นฟูเพิ่ม

“วิโรจน์” จี้ “รบ.อิ๊งค์” สาง 3 ปม แก้ปัญหายาเสพติด เร่งจับตัวใหญ่พร้อมยึดทรัพย์ – Top News รายงาน

 

วิโรจน์

เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2567 นาย วิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน อภิปรายถึงปัญหายาเสพติด โดบมองว่า ที่ผ่านมายังไม่เห็นความชัดเจนใดๆ ในการจัดสรรงบประมาณ และการปฎิบัติอย่างครบวงจรจากรัฐบาลชุดแล้ว จนมาถึงคำแถลงนโยบายของรัฐบาลชุดปัจจุบัน ก็ยังไม่เห็นความแตกต่างที่มีนัยสำคัญ พร้อมไล่เรียงถึงการตั้งเป้าแก้ปัญหายาเสพติดของรัฐบาลชุดที่แล้ว ที่ทำแบบสุขเอาเผากิน สั่งอย่างเดียว จะเอางานเร็ว แต่เงินไม่จ่าย ทำแแบบคิดไปทำไป ล้แวการแก้ไขปัญหาจะคืบหน้าได้อย่างไร ตนหวังเป็นอย่างยิ่งว่า รัฐบาลชุดนี้ที่มีนายกรัฐมนตรี ชื่อนางสาวแพทองธาร ชินวัตร จะได้บทเรียน และไม่ทำเช่นนั้นอีก

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

นายวิโรจน์เสนอว่า การแก้ไขปัญหายาเสพติด จำเป็นต้องคลายปมปัญหา 3 ปม โดยปมแรก การจับกุมผู้เสพ และผู้ครอบครองไว้เพื่อเสพไปเข้าคุก จะเป็นการเติมแรงงานให้กับธุรกิจยาเสพติด การแก้ไขปัญหานี้ ต้องจับตัวใหญ่แล้วยึดทรัพย์ ส่วนตัวเล็กตัวน้อยเอาเข้าสู่การบำบัดฟื้นฟู อย่าหลอกประชาชนด้วยจำนวนคดี และจำนวนผู้ต้องหาที่เพิ่มมากขึ้น แต่เต็มไปด้วยผู้ต้องหาปลาซิวปลาสร้อย ต้องมุ่งไปที่การสนับสนุนด้านงบงบประมาณในการทำงานร่วมกันกับชุมชน ภาคีเครือข่ายต่างๆ เพื่อนำผู้เสพเข้าสู่กระบวนการบำบัดด้วยความสมัครใจ จึงจะเป็นการแก้ไขปัญหายาเสพติดที่มีประสิทธิผลที่ดีกว่า ปมที่สอง การบำบัดฟื้นฟูผู้เสพ ต้องมีความใส่ใจให้มากกว่านี้ ผ่านการสนับสนุนงบประมาณในโครงการชุมชนล้อมรัก ให้ความสำคัญกับชุมชนในการเข้ามามีส่วนร่วมในการบำบัดฟื้นฟูอย่างที่ควรจะเป็น และรัฐบาลควรประกาศว่า สามารถใช้บัตรทอง 30 บาทรักษาทุกที่ได้ ไม่ใช่แค่สั่งอย่างเดียว ต้องจัดสรรงบประมาณด้วย และปมที่สาม รัฐบาลต้องใส่ใจกับการยึดอายัดทรัพย์เครือข่ายของพ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ให้มากกว่าที่เป็นอยู่ จึงจะตัดอุปทานของยาเสพติดอย่างได้ผล เนื่องจากพ่อค้ายาเสพติดไม่กลัวการติดคุก พอถูกจับหัวขบวนก็หาคนมาติดคุกแทนได้ หรือต่อให้ติดคุกก็ไปเป็นขาใหญ่ในคุก ก็ได้รับอภิสิทธิ์ต่างๆ เพราะเงินซื้อได้ทุกอย่าง ซื้อความเป็นอภิสิทธิ์ชนได้ทุกที่ แม้กระทั่งที่เรือนจำ

นายวิโรจน์ ย้ำว่า หากการยึดอายัดทรัพย์มุ่งเน้นที่พ่อค้ารายใหญ่ พัฒนาระบบสืบทรัพย์ให้เท่าทันกับเทคนิคในการซุกซ่อนทรัพย์สินที่ซับซ้อนมากขึ้น มูลค่าทรัพย์ที่ยึดได้ในแต่ละปี ควรอยู่ในระดับ 2 หมื่นถึง 3 หมื่นล้านบาทได้แล้ว อีกทั้งหากรัฐบาลสามารถยึดทรัพย์พ่อค้าได้ใหญ่อย่างจริงจัง จะทำให้เงินในกองทุนป้องกันปราบปรามและแก้ไขปัญหายาเสพติดมีเพิ่มมากขึ้น และสามารถนำเงินจำนวนนี้ ไปสนับสนุนการบำบัดฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด การทำงานร่วมกับชุมชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นการจะแก้ไขปัญหายาเสพติด ท่านนายกฯ ต้องจับตัวใหญ่ ไม่ใช่จับตัวเล็ก มาตีตราทำยอด ผู้เสพต้องได้รับการบำบัด ผู้ค้าต้องตามยึดทรัพย์ให้หมด กลายเป็นยาจกให้ได้ ถึงจะแก้ไขปัญหายาเสพติดให้กับประเทศนี้ได้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ลุค อิชิคาว่า" นักแสดงลูกครึ่ง ร้องปอท.ถูกใส่ร้ายผ่านโซเชียลฯ สร้างความเสื่อมเสีย วอนชาวเน็ตอย่าเชื่อพวกหิวแสง
แน่นสำนักพม.ขอนแก่น "ผู้พิการ" แห่ต่ออายุ-ทำบัตรใหม่ รอรับเงินหมื่น
สุดเศร้า "สาวใหญ่" ร้องถูก "ผัวตำรวจ" ซ้อมอ่วม ซ้ำพยายามล่วงละเมิดลูกเลี้ยง ยันขอดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
บริษัทผลิตเพจเจอร์มรณะที่แท้เป็นของอิสราเอล
เลบานอนแบนเพจเจอร์และวอล์กกี้ทอล์กกี้บนเครื่องบิน
“ชนินทร์” จวก “เท่าพิภพ” หยุดเอาดีเข้าตัว ป้ายผู้อื่นเป็นโจรสลัด ชี้ปมร่างสุราก้าวหน้า ถ้าอยากเปลี่ยนแปลง ต้องแสวงหาความร่วมมือ
คุณยายครูเบญเปิดใจทั้งน้ำตา หลังจากที่หลานสาวสอบติดพนักงานราชการแต่ชื่อหาย
"ซีอีโอ TSB" เปิดใจ พัฒนารถเมล์ก้าวสู่ปีที่ 3 พร้อมรับฟัง-นำข้อมูลปรับปรุงทุกจุด ประกาศชัด "รถเมล์คนไทยโตอย่างยั่งยืน"
ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราร่วมกิจกรรมประชุมสภากาแฟครั้งสุดท้าย ก่อนเกษียณอายุราชการ พร้อมปล่อยพันธุ์กุ้งกุลาดำจำนวน 2 แสนตัว เนื่องในวันคล้ายวันสถาปนากรมประมง
"พิพัฒน์-สุรศักดิ์" จับมือ สร้างโอกาส นศ.ทำงานปิดเทอม หมื่นอัตรา

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น