“นายกฯ” นั่งหัวโต๊ะ ถกแก้น้ำท่วมเชียงราย-เชียงใหม่ จ่อลงพื้นที่ 13 ก.ย.นี้ กำชับไม่ต้องมาต้อนรับ ให้อยู่ช่วยประชาชน

"นายกฯ" นั่งหัวโต๊ะ ถกแก้น้ำท่วมเชียงราย-เชียงใหม่ จ่อลงพื้นที่ 13 ก.ย.นี้ กำชับไม่ต้องมาต้อนรับ ให้อยู่ช่วยประชาชน

ที่อาคารรัฐสภา ถนนสามเสน เขตดุสิต กรุงเทพฯ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมหารือการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดเชียงรายและจังหวัดเชียงใหม่ โดยมี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คมนาคม นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตรและสหกรณ์ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม และวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ไปยังหัวหน้าส่วนราชการที่อยู่ในพื้นที่ อาทิ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย

โดย นายกฯ กล่าวว่า วันนี้ได้รับรายงานตั้งแต่เช้าอัพเดทสถานการณ์กับทางรัฐมนตรีตลอด ซึ่งสถานการณ์ทั้งจังหวัดเชียงรายและจังหวัดเชียงใหม่ ตอนนี้ค่อนข้างหนักพอสมควรจึงอยากให้ทางข้าราชการที่เกี่ยวข้องได้รายงานให้ทราบซึ่งตอนนี้น้ำเข้ามาถึงอำเภอเมืองแล้ว และทราบว่าเข้ามาตรงสนามบินด้วย แต่รันเวย์ยังใช้ได้ ตนอยากจะสื่อสารให้ทราบว่ารัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ ที่ผ่านมาหลังจากที่รอการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาเพื่อที่จะสั่งการได้ และรัฐมนตรีและรองนายกฯทุกท่านได้ดำเนินการล่วงหน้าเพื่อเป็นการดูแลประชาชนไปก่อนหน้านี้แล้ว แน่นอนปัญหานี้ไม่ใช่ของคนใดคนหนึ่ง ทุกคนต้องร่วมมือกัน เพื่อที่จะรักษาและทำให้ประชาชนออกจากปัญหาและอุปสรรคเร็วที่สุด

“ขออนุญาตส่งความห่วงใยไปให้พี่น้องภาคเหนือโดยเฉพาะจังหวัดเชียงรายในขณะนี้ และแน่นอนเราจะต้องทำในเรื่องของระบบการเตือนภัยและการเยียวยารักษาต่อไป ซึ่งอยากให้ทางราชการเล่ารายละเอียดให้ฟัง เพื่อที่จะบอกแนวทางการดำเนินการต่อไปจะทำอย่างไร ทั้งนี้ทางรองนายกฯและรัฐมนตรีทุกกระทรวง ถ้ามีคำแนะนำอย่างไร ขอให้เสนอได้เลย เพราะอันนี้เป็นวิชั่นที่เราต้องร่วมมือกัน เพื่อให้ถึงพี่น้องประชาชนให้เร็วที่สุด“

ด้าน นายสุทธิพงษ์ ได้รายงานสถานการณ์ผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์จากจังหวัดเชียงราย ช่วงหนึ่งว่า ได้อยู่กับผู้ว่าราชการจังหวัดและรองผู้ว่าราชการจังหวัด รวมถึงผบ.มณฑลทหารบก ทั้งทุกภาคส่วนในพื้นที่ ซึ่งที่จังหวัดเชียงรายปีนี้ โดยเฉพาะอำเภอแม่สาย สถานการณ์หนักหน่วงที่สุดในรอบ 80 ปี สาเหตุเนื่องจากในปีนี้แม่สายมีน้ำท่วมมา 7 ครั้งแล้ว และครั้งนี้เป็นครั้งที่ 8 นับตั้งแต่เดือน ส.ค.67 จนถึงปัจจุบัน สาเหตุที่น้ำท่วมหนัก ในรอบ 80 ปี ประกอบไปด้วย 2 ส่วน ส่วนที่ 1 ฝนตกหนักมาเป็นระยะ ถึง 7 ครั้ง ทำให้ลำน้ำแม่สาย และพื้นแผ่นดินฝั่งประเทศไทยและฝั่งเพื่อนบ้านชุ่มน้ำ อิ่มน้ำ บวกกับพายุลูกล่าสุด ทำให้กระแสน้ำมีจำนวนมหาศาล ส่งผลให้เกิดความเสียหาย ในวงกว้างของตลาดแม่สาย

นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ด้วยความกรุณาของนายกฯ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้ระดมสรรพกำลังและลงพื้นที่มาอำนวยการบริหารจัดการในภาวะวิกฤตร่วมกับผู้ว่าฯและตนเอง ภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนก็มาช่วยกันเต็มที่ ถึงเวลานี้ที่แม่สายเรามีจุดพักพิงที่มีประชาชนอยู่รวมกันประมาณ 600 คนเศษ และสถานการณ์ต่างๆ ในตัวเทศบาลแม่สายที่เป็นเขตย่านเศรษฐกิจถึงเช้านี้น้ำลดลงไปในระดับที่อยู่ในภาวะที่เริ่มเข้าสู่สีเขียว และมวลน้ำจะทยอยไปท่วมในจุดที่เป็นสีเหลือง โดยวันที่ 12 -13 ก.ย. จะเข้าสู่โหมดการฟื้นฟูดูแลพื้นที่ที่เสียหาย

จากนั้นในช่วงท้ายการประชุมนายกฯได้มีข้อสั่งการ ว่า ต้องเอ่ยถึงปลัดมหาดไทย และผู้ว่าฯเชียงใหม่ ที่ทำงานร่วมกันอย่างแข็งๆ ซึ่งเมื่อวันที่ 11 ก.ย. ที่อาหารยังไปไม่ถึงพี่น้องประชาชน แต่วันนี้อาหารเหลือเฟือแล้ว ฉะนั้นพี่น้องประชาชนสามารถมีอาหารทานได้ 3 มื้อรวมถึงน้ำด้วย ต้องขอบคุณข้าราชการที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย รองนายกฯและรัฐมนตรีที่ส่งกำลังไปแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็วมากๆ และแน่นอนรัฐบาลให้ความสำคัญกับเรื่องน้ำท่วมอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการอพยพพี่น้องประชาชนให้ออกมาอยู่ที่พักพิงที่รัฐบาลจัดไว้ให้ หรือยารักษาโรคต่างๆที่ได้เตรียมไว้ก็พยายามจะเน้นในเรื่องนี้อย่างเข้มข้น และต่อจากนี้ขอให้ทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการต่ออย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ขออนุญาตแบ่งเป็นข้อให้เกิดความชัดเจนว่าหน่วยงานไหนดูเรื่องใด จึงขออนุญาตสั่งการตรงนี้เพื่อแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนให้เร็วที่สุดตอนนี้ ในส่วนของกระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะดูแลในเรื่องของการอพยพประชาชนและสัตว์เลี้ยงให้เกิดความปลอดภัย สนับสนุนเรื่องอาหาร เครื่องดื่ม ให้เพียงพอ และขออาหารของสัตว์เลี้ยงด้วย จะได้มีความปลอดภัยกันทั้งหมด นอกจากนี้ในส่วนของกระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม และกระทรวงสาธารณสุข ได้มีโอกาสคุยกับสส.จังหวัดเชียงราย ทราบว่าตอนนี้สาธารณสุขจัดเรื่องยาเท้าเปื่อยเพิ่ม ซึ่งทางพี่น้องประชาชนขอมา เพราะอยู่ในน้ำนานแล้ว ขึ้นไปอยู่บนหลังคา จึงทำให้มีอาการเท้าเปื่อยเยอะขึ้น ขอฝากทางสาธารณะสุขด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มเปราะบางต่างๆต้องช่วยกันขนย้ายผู้คนออกมาให้เร็วที่สุด

 

 

 

 

นายกฯกล่าวว่า ในส่วนของกระทรวงกลาโหมได้ขอทางกองทัพเรือ ฝากเรื่องความเป็นอยู่ที่ศูนย์อพยพ อันนี้จำเป็นมากเรื่องการขนย้ายต่างๆ ส่วนเรื่องการกำหนดภารกิจช่วยเหลือประชาชน เช่น การดูแลการดำรงชีพ ตั้งศูนย์พักพิง ประกอบอาหาร ศูนย์การแพทย์สาธารณสุข อุปกรณ์เครื่องมือ แต่ละหน่วยงานให้เกิดประโยชน์สูงสุด ในเรื่องของงบกลางรัฐบาลได้ดันงบกลางที่จะเป็นส่วนในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ไม่ใช่แค่ตอนเยียวยา แต่ ณ ตอนนี้ด้วย อยากให้ทุกฝ่ายเล็งเรื่องของพี่น้องประชาชนเป็นหลัก รักษาชีวิตพี่น้องประชาชนโดยด่วนที่สุด และในเรื่องของงบกลางมีการกันไว้ นี่คือเหตุจำเป็นและเร่งด่วน นี่คือเรื่องของชีวิตพี่น้องประชาชน

นายกฯ กล่าวว่า ในส่วนของกระทรวงมหาดไทย และกระทรวงกลาโหม ยังมีเรื่องของระบบเตือนภัย อย่างที่ทราบกันดีในหลายพื้นที่ได้มีการพูดคุยกันและทราบว่าระบบเตือนภัยสามารถทำงานได้ เราได้รับคอมเม้นท์ในเรื่องของพี่น้องประชาชน ยังไม่อยากออกมาจากบ้าน เพราะบางทีเสียดายทรัพย์สินเราก็เข้าใจ แต่ระบบเตือนภัยได้เตือนแล้ว อยากบอกพี่น้องประชาชนว่าขอรับตรงนี้ ให้ดูเรื่องการเยียวยาดูแลประชาชนให้ตระหนักรักษาชีวิตตัวเองก่อน ออกมาจากพื้นที่ประสบภัยให้เร็วที่สุด ส่วนอย่างอื่นต้องดูว่ารัฐบาลจะสามารถช่วยได้ในรูปแบบไหนบ้าง อันนี้เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะช่วยกันดูแลต่อไปในเรื่องความปลอดภัยพี่น้องประชาชนและทรัพย์สินที่สูญหายไประหว่างเกิดอุทกภัย

นายกฯ กล่าวว่า เมื่อน้ำลดแล้วทุกส่วนราชการขอให้ตรวจสอบในเรื่องความเสียหาย ระบบสาธารณูปโภคต่างๆที่พี่น้องประชาชนได้ใช้ทุกวันไม่ว่าจะเป็นสะพาน ระบบไฟฟ้า ประปา และสร้างความเข้าใจรับฟังปัญหาความต้องการและดำเนินการปรับปรุงให้เข้าสู่สภาวะปกติโดยเร็ว และขอมอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย ช่วยตรวจสอบและเสริมความมั่นคง แข็งแรงเชิงโครงสร้างให้กับคันกั้นน้ำระบบระบายน้ำ โดยเฉพาะในพื้นที่ชุมชน พื้นที่เศรษฐกิจสำคัญ และเร่งรัดปรับปรุงให้สามารถกลับมาใช้งานได้โดยเร็ว ขอให้กรมทรัพยากรธรณีเร่งรัดดำเนินการที่เกี่ยวกับระบบเตือนภัยในพื้นที่ที่เสี่ยงภัยสูงโดยด่วนเพื่อให้ประชาชนได้รับทราบล่วงหน้า และเตรียมการให้ทันเวลา และขอเพิ่มเติมให้มีการซักซ้อมให้ความรู้กับประชาชนด้วยว่าเส้นทางไหนหรือที่พักพิงไหนเมื่อเกิดเหตุการณ์พี่น้องประชาชนควรทำอย่างไรเพื่อให้ง่ายกับความเข้าใจของพี่น้องประชาชน และเนื่องจากประเทศไทยยังอยู่ในช่วงฤดูฝนขอให้ส่วนราชการที่ทำหน้าที่คาดการณ์สภาพอากาศ รวมทั้งจิสด้าติดตามปริมาณของฝนที่เพิ่มสูงขึ้น วิเคราะห์ประเมินสถานการณ์แนวโน้มแจ้งเตือนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการป้องกันและแก้ปัญหา

 

 

 

 

 

ส่วนผู้ที่ประสงค์จะร่วมบริจาคให้พิจารณาการใช้เงินจากกองทุนและการตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยมอบหมายสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นผู้ดำเนินการให้เป็นไปตามระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป และจากนี้ขอมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ช่วยกันพิจารณาแนวทางแก้ไขปัญหาน้ำในระยะยาวต่อไปในแต่ละพื้นที่

“ส่วนวันที่ 13 ก.ย. ดิฉันและคณะรัฐมนตรีบางท่านได้วางแผนลงพื้นที่จังหวัดเชียงราย ขอให้ผู้ดูแลไม่ว่าจะหน่วยทหารหรือปลัดที่อยู่ตรงนั้น ช่วยพิจารณาประเมินสถานการณ์อีกครั้งว่าเห็นอย่างไร เพราะตอนนี้เชื่อว่าทุกท่านที่อยู่ในคณะรัฐมนตรีเป็นห่วงพี่น้องประชาชน แต่ที่แน่ๆไม่อยากให้ไปแล้วขัดต่อการดำเนินการช่วยเหลือใดๆจริงๆ ย้ำชัดๆขออนุญาตให้ไม่ต้องมาต้อนรับขอให้เป็นเรื่องการนำเส้นทางนิดหน่อยพอ ไม่ต้องจัดอะไรใหญ่ เพราะเป็นเหตุการณ์ที่เข้าใจอยู่แล้วว่าไม่สามารถจะมาต้อนรับอะไรทั้งสิ้น ขอให้ความช่วยเหลือระบบราชการที่เกี่ยวข้องทั้งหมดอยู่หน้างานกับพี่น้องประชาชน ส่วนดิฉันและรัฐมนตรีจะประสานพื้นที่ ลงให้เร็วที่สุดเมื่อสามารถทำได้ และไม่ขัดต่อการช่วยเหลือพี่น้องประชาชน”

ทั้งนี้ ช่วงหนึ่งของการประชุม พล.อ.ทรงวิทย์ ได้เดินไปรายงานสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดเชียงรายกับนายกฯ หลังจากลงพื้นที่ไปด้วยตัวเอง โดยนายกฯได้ลุกจากเก้าอี้และเดินมายืนพูดคุยรับรายงานเป็นการส่วนตัว

 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

แนชั่นแนลจีโอกราฟิกเกาะติดกระแส “หมูเด้ง”
"พิชัย" ลงนาม MOU ยกระดับทางการค้า “ไทย-อังกฤษ” เดินหน้าเจรจา FTA ต่อ
แม่ค้าบางบอน โต้กลับ "ไอซ์ รักชนก" ยันแรงงานพม่าถูกกฎหมาย
นายกพัทยาเร่งฟื้นฟู จัดระเบียบท่าเรือพัทยาใต้ หลังพบใช้พื้น ที่มาขออนุญาต ผู้ประกอบการแย่งแขกกดราม่ากันเองทำเสียหายด้านการท่องเที่ยว
"โสภณ" เผยยกร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ ฉบับ กรรมาธิการศึกษา สำเร็จแล้ว เชื่อเป็น "ฉบับปฏิวัติการศึกษา”
พ่อค้าผ้าไหมถึงกับอึ้ง รถน้ำมันหมด แวะจอดข้างทาง เจอตำรวจจราจรน้ำใจสุดงาม ควักเงิน 200 บาท วิ่งไปซื้อน้ำมันมาช่วยเติมให้ จนได้กลับบ้าน
ธารน้ำใจแฟนข่าว ท็อปนิวส์ มุ่งหน้าสู่หนองคาย นำถุงยังชีพ ช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม
“อนุทิน” ประกาศความสำเร็จมหาดไทยตามเป้าหมาย SDGs พร้อมจับมือทุกเครือข่าย ขับเคลื่อนความยั่งยืน
อุตุฯประกาศฉ.9 ดีเปรสชันทวีกำลังเป็นพายุโซนร้อน “ซูลิก” ขึ้นฝั่งเวียดนามคืนนี้ ไทยรับผลกระทบ ฝนหนัก ลมแรง
อุกอาจ 2 ผู้ต้องหา ทำทีขอยากันยุง-มือถือ ก่อนล็อกคอสิบเวร แหกห้องขังหลบหนี สุดท้ายไม่รอด

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น