“ศาลนราธิวาส” ออกหมายจับ 6 บิ๊กขรก. “คดีตากใบ”

ศาลนราธิวาสออกหมายจับจำเลย 6 คนคดีตากใบ ไม่มาตามนัด ขณะ พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 ปัจจุบันอายุ 74 ปี ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ได้รับความคุ้มกันตามเอกสิทธิ์ ศาลส่งหนังสือด่วนที่สุดไปถึงประธานสภาฯขออนุญาติจับกุมและนัดใหม่ 15 ตุลาคม นี้

“ศาลนราธิวาส” ออกหมายจับ 6 บิ๊กขรก. “คดีตากใบ” – Top News รายงาน

ศาลนราธิวาส

เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2567 ที่ศาลจังหวัดนราธิวาส  ผู้พิพากษาได้นั่งบัลลังก์พิจารณาคดีที่ ศาลจังหวัดนราธิวาส นัดจำเลย 7 คน ในคดีตากใบ มาสอบคำให้การ หลังจากเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2567 ศาลจังหวัดนราธิวาส มีคำสั่งรับฟ้องคดีอาญาตากใบ ในข้อหา ฆ่าผู้อื่น,พยายามฆ่าผู้อื่นและร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยว ซึ่งครอบครัวผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บ 48 ราย เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง จากเหตุการณ์สลายการชุมนุมที่หน้า สภ.ตากใบ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2547 โดยมีการเคลื่อนย้ายผู้ชุมนุมขึ้นรถทหารไปยังค่ายอิงคยุทธบริหาร จ.ปัตตานี ในลักษณะให้นอนซ้อนกันทำให้มีผู้เสียชีวิต 78 ราย จากการขาดอากาศหายใจ และ 7 ราย เสียชีวิตจากการสลายการชุมนุม โดยศาลเห็นว่า คดีมีมูลตามที่โจทก์ยื่นพยานหลักฐาน และมีเหตุการณ์สลายการชุมนุมและการเคลื่อนย้ายเกิดขึ้นจริง

โดยศาลได้นัดหมายเวลา 09.00 น. แต่ จำเลยที่ 3 จำเลยที่ 4 จำเลยที่ 5 จำเลยที่6 จำเลยที่ 8 และจำเลยที่ 9 ยังไม่เดินทางมาศาล

เวลาประมาณ 11.00 น.ศาลแถลงว่า ศาลได้สอบถามจากทนายความจำเลยที่ 8 และ 9 ที่มาศาลทราบว่า ไม่สามารถติดต่อจำเลยได้ ตั้งแต่วันที่ศาลมีคำสั่งฟ้อง จึงไม่ทราบว่า จะให้เป็นทนายต่อไปอีกหรือไม่ และศาลได้ติดต่อไปก็ไม่สามารถติดต่อได้ได้เช่นกัน ศาลจึงมีคำสั่งออกหมายจับ จำเลยที่ 3 พล.อ เฉลิมชัย วิรุฬห์เพชร อดีตผู้บัญชาการพล.ร.5 ปัจจุบันอายุ 73 ปี , จำเลยที่ 4 พล.ต.อ.วงกต มณีรินทร์ อดีตผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า ปัจจุบัน อายุ 73 ปี , จำเลยที่ 5 พล.ต.ท.มาโนช ไกรวงศ์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 9 ปัจจุบัน อายุ 77 ปี , จำเลยที่ 6 พล.ต.ต.ศักดิ์สมหมาย พุทธกูล อดีตผู้กำกับสถานีตำรวจภูธร อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ปัจจุบัน อายุ 70 ปี , จำเลยที่ 8 นายศิวะ แสงมณี อดีตรองผู้อำนวยการกองอำนวยการเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้และอดีตรองปลัดกระทรวงมหาดไทย ปัจจุบันอายุ 78 ปี , และจำเลยที่ 9 นายวิชม ทองสงค์ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ปัจจุบันอายุ 78 ปี

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ขณะที่ จำเลยที่ 1 คือ พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 ปัจจุบันอายุ 74 ปี เป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ได้รับความคุ้มกันตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 125 และอยู่ระหว่างสมัยการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ศาลไม่สามารถออกหมายจับได้ และจับกุมไม่ได้ ศาลจึงจะมีหนังสือด่วนที่สุดไปยังประธานสภาผู้แทนราษฎร และสภาผู้แทนราษฎร เพื่อขออนุญาตจับกุม จำเลยที่ 1 และมีหมายเรียก พร้อมมีหนังสือด่วนที่สุดให้จำเลยที่ 1 แจ้งว่าศาลนี้ได้ดำเนินการตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 125 ขอให้จำเลยที่ 1 แถลงต่อสภาผู้แทนราษฎร เพื่อสละความคุ้มกันและมาศาลในนัดหน้า ซึ่งศาลนัดในวันที่ 15 ตุลาคม 2567 ส่วนจำเลย 6 คนที่ถูกออกหมายจับ ให้ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และตำรวจศาล มีอำนาจจับกุมได้ทันทีที่พบตัวภายในอายุความถึงวันที่ 25 ตุลาคม 2567 ที่จะถึงนี้

ส่วนจำเลยที่ 2 พล.ท.สินชัย นุตสถิตย์ อดีตรองแม่ทัพภาคที่ศาล 4 และจำเลยที่ 7 พ.ต.อ.ภักดี ปรีชาชน อดีตรองผู้กำกับการ สภ.อ.ตากใบ ปัจจุบันเป็น รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด ปัตตานี ศาลยกฟ้องในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง

นายรัษฎา มนูรัษฎา ทนายความของญาติและครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุการ์ณตากใบ กล่าวว่า วันนี้จำเลยทั้ง 7 ไม่ได้เดินทางมาร่วมให้ปากคำไต่สวน มีเพียงตัวแทนจำเลยที่ 8 และ 9 ที่มาร่วมสังเกตการณ์ แต่ไม่ได้มีเอกสารสิทธิ์มายื่นแต่อย่างใด โดยจากที่จำเลยทั้ง 7 ไม่เดินทางมาร่วมไต่สวนเพื่อให้การในครั้งนี้ศาลจังหวัดนราธิวาส จึงได้ดำเนินการออกหมายจับ จำเลย 6 คน ยกเว้นจำเลยที่ 1 เนื่องจากมีรัฐธรรมนูญการเป็น ส.ส. ซึ่งศาลจังหวัดนราธิวาสได้จัดทำหนังสือไปยังรัฐสภา เพื่อยกเลิกการคุ้มครอง เพื่อให้จำเลยสามารถมาให้ปากคำกับศาลจังหวัดนราธิวาสได้ ซึ่งในวันที่ 15 ตุลาคม 67 นี้ จะมีการนัดไต่สวนและติดตามคดีเพิ่มเติมหลังจากดำเนินการออกหมายจับไปแล้ว ก่อนที่คดีจะหมดอายุความวันที่ 25 ตุลาคม 2567 นี้

 

นายรัษฎา มนูรัษฎา ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า อยากเรียกร้องให้จำเลยทั้ง 7 มาแสดงตัว เพื่อชี้แจง และสร้างความกระจ่างให้กับประชาชนเนื่องจากประชาชนต่อสู้และรอคอยความยุติธรรมมาตลอดระยะเวลา 20 ปี ซึ่งเมื่อเทียบกับตอนประชาชน 59 คน ที่โดนฟ้องทุกคนยังมาศาลเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ ซึ่งถือเป็นความจริงใจในขั้นต้น หากจำเลยหลบหนีไม่มอบตัว รอจนกว่าคดีหมดอายุความทั้งหมดก็จะยังเป็น จำเลยในใจประชาชน รวมถึงทั่วโลกที่เกิดความไม่เข้าใจเกี่ยวกับการดำเนินการสิทธิมนุษยชน เพราะจำเลยทั้ง 7 ล้วนเป็นผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งในระดับสูง อีกทั้งบางคนยังอยู่ในการระดับบริหารประเทศด้วย  การไม่เดินทางมายังศาลจังหวัดนราธิวาส ในครั้งนี้ ทั้งที่มีการรับหมายนัดทั้งตัวเอง และมีผู้รับจดหมายแล้วนั้น ก็เป็นเรื่องที่ต้องทบทวน ถึงเจตนาแต่ก็ขอให้นึกถึงจิตสำนึกเป็นเรื่องสำคัญ เพราะเหตุการณ์ตากใบมีทั้งคนเสียชีวิต และคนเจ็บต้องมีผู้รับผิดชอบ  ในส่วนของโจทก์ไม่ว่าศาลจะตัดสินอย่างไรทุกคนก็น้อมรับ แต่ขอเรียกร้องให้ทุกคนมาแสดงตัว มารับทราบถึงสิ่งที่ตนเองกระทำไว้

 

ด้านนางฮามิยะห์ หะยีมะ มารดาของนายการียา หะยีมะ ซึ่งเสียชีวิตจากการถูกยิงจากเหตุการณ์ตากใบ เป็นโจทก์ยื่นฟ้องจำเลยทั้ง 7 เปิดเผย ทั้งน้ำตาว่า รู้สึกผิดหวังที่จำเลยไม่มาร่วมในการไต่สวน แต่ก็มั่นใจในกระบวนการยุติธรรมที่ศาลมีการออหมายจับ อยากให้คนทั้ง 7 ออกมารับผิดชอบ มาขอโทษ มาให้เห็นหน้าให้รู้ว่าตนเองได้ทำอะไรลงไป ในเหตุการณ์ครั้งนั้น เพราะจากเหตุการณ์ทุกคนยังเสียใจกับเหตุการณ์ครั้งนั้น ยังเป็นภาพติดตา มีแผลในใจ คนในครอบครัวหายไป ตั้งแต่วันนั้นและไม่เจอกันอีกเลย

 

นางสีตีรอกายะห์ สาและ กล่าวว่า เราทนมา 20 ปี ได้ข่าวว่าศาลตัดสินคดีนี้เขารับแล้วรู้สึกดีใจ จริง ๆ แล้วอยากดูหน้าเหมือนกันคนที่ทำผิด อยากให้มาขอโทษด้วย เพราะเราทนมานานแล้ว ลำบากมานานแล้ว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สมศักดิ์ เผย มี ปชช. ร่วมนับคาร์บ ลดป่วย NCDs แล้วกว่า 6.4 แสนคน เดินหน้าอีก 16จว.กลาง-ตะวันออก
กรมส่งเสริมสหกรณ์ขอขยายเวลาโครงการสนับสนุนสินเชื่อสถาบันเกษตรกรแปรรูปยางพาราอีก 10 ปี หวังเสริมสภาพคล่องต่อยอดธุรกิจให้สหกรณ์ชาวสวนยาง
ทบ.สั่งย้าย เจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก เซ่นปมทำร้ายร่างกายกำลังพล
บ.สยาม ควอลิตี้ สตาร์ช จำกัด จัดงาน “MODEL SMS 20R” ขยายพันธุ์ต้านทานโรคใบด่างมันสำปะหลัง ภายใน 5 ปี ชัยภูมิต้องปลอดจากการระบาดเป็นจังหวัดแรก
ตร.แจงชัด ติดข้อกม. ยังไม่ได้ตัว "เสี่ยโจ้ ปัตตานี" พ่อค้าน้ำมันเถื่อนใหญ่ พบเบาะแสหนีอยู่กัมพูชา
กลุ่ม ปตท. และกลุ่มฯ โรงกลั่นน้ำมันปิโตรเลียม ส.อ.ท. พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนประเทศไทย ด้วยพลังงานสะอาด และคาดการณ์ราคาน้ำมันในปี 68
เพจดังแฉอีก พรรคส้มแอร์ไลน์ ดูงานจีน “เจี๊ยบ อมรัตน์” โผล่ไปด้วย โดนชาวเน็ตสวน เที่ยวฟรีภาษีประชาชน
เสี่ยใจบุญ มอบทุนพัฒนาบ้านเกิดกว่า 3 ล้านบาท แจกทุนนักเรียนทั้งโรงเรียน คนละ 5,000 บาท
ตำรวจท่องเที่ยว ผนึกกำลังทุกภาคส่วน ยกระดับการดูแลความปลอดภัย และป้องกันการหลอกลวงเอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยว สร้างความชื่อมั่น รับไฮซีซั่น
"ทนายอาคม" รับทำคดีให้เฉพาะ "เดือน" ภรรยาทนายตั้ม ชี้เจ้าตัวไม่รู้สำนึก ดื้อดึงสู้หัวชนฝา

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น