“ชวน” ย้ำรัฐบาลต้องซื่อสัตย์สุจริต ทำเพื่อประเทศ อย่าตั้งขรก.ด้วยราคา จะได้คนไม่ดีมาช่วยงาน

"ชวน" ย้ำรัฐบาลต้องซื่อสัตย์สุจริต ทำเพื่อประเทศ-ปชช. แนะอย่าแต่งตั้งข้าราชการด้วยราคา จะได้คนไม่ดีมาช่วยงาน ถามทุกรัฐบาลถวายสัตย์เหมือนกัน แล้วทำไมมีอันเป็นไป ต้องติดคุก หนีคดี

“ชวน” ย้ำรัฐบาลต้องซื่อสัตย์สุจริต ทำเพื่อประเทศ อย่าตั้งขรก.ด้วยราคา จะได้คนไม่ดีมาช่วยงาน

 

ข่าวที่น่าสนใจ

วันที่ 13 ก.ย.67 ที่รัฐสภา ที่มีการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ 2 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) เป็นพิเศษ เพื่อพิจารณาเรื่องด่วน คณะรัฐมนตรีแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ตามมาตรา 162 ของรัฐธรรมนูญ โดยนายวันมูหะมัดนอร์ มะทาเป็นประธานการประชุม

โดยนายชวน หลีกภัย สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ลุกขึ้นอภิปราย นโยบายของรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี ในเรื่องของภาคใต้

 

“ขณะนั้นพูดในฐานะฝ่ายค้าน แต่วันนี้พูดในฐานะรัฐบาล แต่ไม่ว่าผมจะอยู่ในพรรคไหนก็ตาม ความจริงก็คือความจริง ความจริงไม่อาจจะเปลี่ยนไปตามฐานะ จะเป็นอะไร ก็ต้องเป็นความจริง ดังนั้นข้อมูลที่จะพูดถึงกรณีปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งขอย้ำว่า ในครั้งนั้นผมต้องการให้รัฐบาลบรรจุปัญหานี้ แต่ติดขัดที่ขณะนั้นนโยบาย 14 หน้าของรัฐบาลไม่มีเรื่องนี้อยู่เลย”

นายชวน ระบุว่า ขณะนี้รัฐบาลได้บรรจุเรื่องไว้ในหน้าที่ 12 แม้จะเพียง 1 บรรทัด ก็แสดงให้เห็นว่าเรื่องนี้สำคัญ และมีโอกาสได้ติดตามการทำงานต่อไป แต่เหตุที่หยิบยกเรื่องนี้มาเป็นเรื่องสำคัญที่สุด เพราะตนเองถือหลักว่า ชีวิตมีค่ามากกว่าเงิน เราจะผิดพลาดนโยบายเศรษฐกิจ เสียเงินกี่หมื่นแสนล้าน ไม่เท่าชีวิตคน 7,500 กว่าคนที่เสียไปจากความผิดพลาดนโยบายด้านความมั่นคง จึงได้ย้ำเรื่องนี้เป็นพิเศษ

ซึ่งเมื่อเรายอมรับความจริงว่าเหตุทั้งหมดเกิดจากอะไรเช่นเหตุการณ์เมื่อ 8 เมษายน 2544 โชคดีว่าวันนี้มีสมาชิกวุฒิสภาท่านหนึ่ง เป็นอดีตแม่ทัพภาค4 อยู่ในที่นี่ด้วย เชื่อว่าท่านจะเป็นประโยชน์ในการให้ข้อมูล เพื่อเราจะได้แก้ปัญหาภาคใต้ เพราะภาคใต้เป็นแหล่งขวานทอง เป็นแหล่งที่จะทำรายได้ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่จะสนับสนุนประเทศชาติของเราให้เจริญรุ่งเรือง เพราะฉะนั้นเราต้องทำให้เกิดความสงบให้ได้

ส่วนเรื่องนายกรัฐมนตรีได้แถลงนโยบายอารัมภบทไว้ตอนหนึ่งว่าต้องการเห็นความสามัคคี และปองดอง ไม่มีใครไม่เห็นด้วยในเรื่องนี้ แต่จะเกิดความสามัคคีปรองดองได้ สำคัญคือจะต้องปฏิบัติต่อทุกคนอย่างเสมอภาคอย่าเลือกปฏิบัติ จึงขอย้ำสั้นๆกับรัฐบาลว่า กรุณาชดเชยกรณีที่เราเลือกปฏิบัติ ก่อให้เกิดความเสียโอกาส ความจริงแล้วตนได้ขอไว้ตั้งแต่สมัยรัฐบาลของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งพลเอกประยุทธ์ก็ได้เห็นด้วย แต่ก็ยังไม่เป็นรูปธรรมมากนัก จึงขอให้รัฐบาลทบทวนช่วงที่ผ่านมาว่ามีอะไรที่ทำให้เกิดความขัดข้องหมองใจ ทำให้เกิดความขัดแย้งไม่ปรองดอง อันเกิดขึ้นจากที่มีความรู้สึกว่าได้รับความปฏิบัติไม่เสมอภาค

นายชวนยังได้หยิบยกช่วงหนึ่งของคำแถลงนโยบายว่า ‘พร้อมนำพระราชดำรัสมาปรับใช้ในการบริหารราชการแผ่นดิน’ ซี่งพระราชดำรัสที่ทรงพระราชทานคือ ‘ขอให้พรด้วยความยินดี ให้คณะรัฐมนตรีมีกำลังใจ มีความมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติหน้าที่ตามที่ถวายสัตย์ไปแล้ว เพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติและประชาชน’

ซึ่งนายกรัฐมนตรีบอกว่าจะนำไปปรับใช้ในการปฏิบัติต่อไป แต่ประเด็นที่ต้องปฏิบัติในการบริหารคือ ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ปฎิบัติหน้าที่เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนและรักษาไว้ปฏิบัติตามซึ่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทุกประการ เมื่อคณะรัฐมนตรีเข้าบริหารประเทศนั้น เรามีข้าราชการที่รองรับอยู่ทุกหน่วยงาน คนเหล่านั้นไม่ใช่มาแบบพวกเรา แต่มาจากการไต่เต้าจากระดับเล็กขึ้นมาระดับสูงตามลำดับ ซึ่งเขาเก่งพอที่จะสอบราชการได้ เราก็ต้องให้เกียรติข้าราชการ ที่ตนต้องเรียนเรื่องนี้เพราะ ความซื่อสัตย์สุจริตในการแต่งตั้งเราก็จะได้ผล ถ้าเราแต่งตั้งข้าราชการโดยซื่อสัตย์สุจริต ไม่เอาตำแหน่งมาเป็นราคา

“ผมจะฝากว่า ในฐานะนักการเมืองฝ่ายบริหารนั้น เราจะต้องปฏิบัติตามหลักธรรมาภิบาล คือหลักคุณธรรมจริยธรรม ให้โอกาสคนเหล่านั้นขึ้นมาด้วยความสามารถ ไม่ใช่ด้วยราคา ไม่เช่นนั้น เราจะได้คนไม่ดีมาทำงานกับเรา เราจะสำเร็จได้ก็ต่อเมื่อได้คนดีช่วยงาน” ชวนกล่าว

อีกประเด็นคือ การปฏิบัติหน้าที่เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน แต่ขณะนี้ระบบการปกครองของเรามีข้อหย่อนยาน ทำให้เกิดความรู้สึกต่อระบบนี้ ประหนึ่งว่ามือใครยาวสาวได้สาวเอา จึงขอฝากคณะรัฐมนตรีว่า การบริหารไม่ใช่เพื่อประโยชน์ของพรรคการเมืองหรือเขตเลือกตั้งของท่าน แต่ต้องคิดถึงประโยชน์ของประเทศและประชาชน องค์กรใดที่เกี่ยวกับการบริหารประเทศ จะต้องไม่รับใช้พรรคการเมืองและนักการเมือง

ประการสุดท้าย คือการปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ นายชวน กล่าวว่า หลักนิติธรรมเป็นหัวใจของการปกครอง ในเรื่องปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ หากเรายึดหลักนิติธรรมตั้งแต่ต้น ปัญหาจะไม่เกิด แต่บังเอิญช่วงหนึ่งเราใช้ฝ่ายบริหารเป็นศาล คือตัดสินว่าคนตายเดือนละกี่คน จึงเป็นที่มาของทุกวันนี้ แต่หากยึดมั่นในหลักนิติธรรมแล้ว จะไม่มีเหตุการณ์ใดเป็นพิษภัยต่อประชาชน

คำถามคือ การปฏิญาณตนดังที่กล่าวมานี้ รัฐบาลอื่นๆ ไม่ปฏิญาณหรือ ข้อความไม่เหมือนกันหรือ รัฐธรรมนูญปี 2540 2550 2560 ข้อความปฏิญาณเหมือนกัน รัฐบาลทุกชุดต้องปฏิญาณ แล้วทำไมปฏิญาณแล้วถึงมีปัญหา มีอันเป็นไป ถูกดำเนินคดี ต้องหนีคดี ถูกจำคุก เพราะอะไร คำตอบก็คือ แม้ปฏิญาณไปแล้ว แต่ไม่ปฏิบัติ

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ปัญญารัตน์" สส.นนทบุรี อวดคลิปขอบคุณทหาร มาช่วยตัดกิ่งไม้ให้ปชช. ชาวเน็ตรีบห่วง หวั่นเจอพรรคเฉ่ง
“จักรภพ” โต้ “ด้อมส้ม” ตอบชัดเจน ปมหนีคดีลี้ภัย
"อุตุฯ" เตือน 51 จังหวัด รับมือฝนถล่มหนัก กทม.โดนด้วย ร้อยละ 70 ของพื้นที่
สสจ.กรุงเก่ามอบป้ายโรตีสายไหมปลอดภัย 42 ร้าน
"สพม.สระแก้ว" ประกาศเลื่อน "พนักงานราชการ" เข้ารายงานตัว รอผลสืบสวน "ครูเบญ" ชื่อหายเสร็จสิ้น
"กสร.สมุทรปราการ" จ่อสอบ "หัวหน้างาน" ชี้แจงปมสั่ง "พนักงานป่วย" ทำงานจนเสียชีวิต
"วัน อยู่บำรุง" ยัน "บิ๊กป้อม" อารมณ์ดี ไม่ซีเรียส ปมคลิปเสียงหลุด
บางละมุง-พัทยา ส่ง ธารน้ำใจช่วยพี่น้องคนไทยน้ำท่วมเมืองหนองคาย
ทบ.จัดกำลังพล ใช้ล่อขนเครื่องอุปโภค บริโภค ช่วยปชช. ดินสไลด์ ปิดเส้นทาง 4 หมู่บ้านเชียงราย
"นายแพทย์สาธารณสุข" สมุทรสาคร ยืนยัน "รพ.กระทุ่มแบน" รักษา 2 ทารกฟรี

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น