“นักวิชาการ” เตือนระวังข้อมูลผิด แนะสอบให้ครบ 11 บริษัท ส่งออกปลาหมอคางดำ

"นักวิชาการ" เตือนระวังข้อมูลผิด แนะสอบให้ครบ 11 บริษัท ส่งออกปลาหมอคางดำ

“นักวิชาการ” เตือนระวังข้อมูลผิด แนะสอบให้ครบ 11 บริษัท ส่งออกปลาหมอคางดำ

จากกรณีการแก้ปัญหาปลาหมอคางดำยังคงเดินหน้าต่อเนื่อง “จับและกิน” เป็นกิจกรรมหลักและเห็นผลได้จากปริมาณปลาต่อพื้นที่ลดลง แต่สิ่งที่ยังติดอยู่ในใจหลายๆ คน คือ บริษัทผู้ส่งออกปลาหมอคางดำในกลุ่มปลาสวยงามอีก 6 บริษัท กลับเงียบหายเข้ากลีบเมฆ ไม่กล้านำเอกสารการส่งออกปลาหมอคางดำมาชี้แจงกับสังคม ว่า ปลาที่ส่งออกไป 17 ประเทศ ระหว่างปี 2556-2559 เป็นปลาหมอคางดำจริงหรือไม่ หรือเป็นการปลอมแปลงเอกสารทางราชการ เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบหวังทำกำไร แต่เป็นความเสียหายของประเทศ โดยไม่ต้องรับผิดชอบต่อการกระทำ ฤาบริษัทเหล่านี้อยู่เหนือกฎหมาย…

แม้ว่าผู้แทน 5 ใน 11 บริษัทส่งออกปลาหมอคางดำ ได้เข้าชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม ( กมธ.อว.) เมื่อเดือนกรกฎาคม ที่ผ่านมา และยืนยันในทิศทางเดียวกันว่า ไม่เคยส่งออกปลาหมอคางดำ (Sarotherodon melanotheron) ไม่ทราบว่าเกิดความผิดพลาด ส่วนปลาที่ส่งออก คือ ปลาหมอมาลาวีและปลาหลังเขียว พร้อมแสดงเอกสารใบกำกับสินค้าและใบสั่งซื้อสินค้าเป็นหลักฐาน โดยทั้งหมดมอบหมายให้บริษัทชิปปิ้ง ดำเนินการแทนในการกรอกเอกสารส่งออกตามระเบียบของกรมประมง ทำต่อเนื่องเป็นเวลา 4 ปี นี่คือคำชี้แจงของบริษัทเหล่านี้

ปลาหมอคางดำ

ข่าวที่น่าสนใจ

ไม่ว่าจะกรณีใดๆ หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องจำเป็นต้องเรียกผู้ส่งออกทั้ง 11 บริษัท มาชี้แจงข้อเท็จจริงให้ครบถ้วน ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลเหมือนกันหรือต่างกันก็ตาม เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการทำผิดกฎหมายทั้งของกรมประมงและกรมศุลกากร ด้วยการสำแดงเท็จจากปลาหมอมาลาวีและปลาหลังเขียว เป็นปลาหมอคางดำ เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจรับรองสุขภาพปลา (Health Certificate) จากประเทศปลายทางที่ร้องขอ

 

กรณีนี้ ถือเป็นการปลอมแปลงเอกสาร สำแดงเท็จลักลอบส่งออกปลาไม่ตรงกับในกำกับสินค้า คือ แอบอ้างใช้ชื่อปลาหมอคางดำ เพื่อประโยชน์ทางการค้าโดยไม่มีความผิด การตรวจสอบเพียง 5 บริษัท โดยอีก 5 บริษัทได้รับอภิสิทธิ์ไม่ถูกตรวจสอบ ไม่ต้องชี้แจง ก็ไม่ควรอนุมานว่ากรอกเอกสารผิดแบบเดียวกันหมด เพราะแม้แต่ กมธ.อว. ยังตั้งข้อสังเกตแล้วว่า เหตุใดจึงการผิดซ้ำซากและต่อเนื่องเป็นเวลา 4 ปี

 

สำหรับ 5 บริษัทที่เข้าชี้แจง กมธ.อว. ประกอบด้วย 1.บริษัท ไทย เฉียน หวู่ จำกัด 2.บริษัท แอดวานซ์ อควาติก จำกัด 3.หจก. สมิตรา อแควเรียม 4.บริษัท พี.แอนด์.พี อควาเรียม เวิลด์ เทรดดิ้ง จำกัด และ 5.บริษัท เอเชีย อะควาติคส์ จำกัด ขณะที่อีก 5 บริษัทไม่สามารถติดต่อได้ คือ 1.หจก.ฉาง ซิน เอ็นเตอร์ไพร์ จำกัด 2.หจก.ซีฟู๊ดส์ อิมปอร์ต – เอ็กซ์ปอร์ต จำกัด 3.บริษัท นิว วาไรตี้ จำกัด 4.บริษัท สยาม ออร์นาเมนทอล ฟิช จำกัด 5.หจก. วี อควอเรียม ขณะที่บริษัท หมีขาว จำกัด ปิดกิจการไปแล้ว

 

ทั้ง 11 บริษัทมีการส่งออกปลาหมอคางดำในลักษณะปลาสวยงามมีชีวิตช่วงปี 2556-2559 รวม 326,240 ตัว ไปยัง 17 ประเทศ ได้แก่ ปากีสถาน ตุรกี คูเวต อาเซอร์ใบจาน ออสเตรเสีย รัสเซีย โปแลนด์ อิหร่าน ซิมบับเว แคนาดา อียิปต์ เลบานอน ญี่ปุ่น อิสราเอล สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ มาเลเซีย และสหรัฐอเมริกา

 

นอกจากนี้ ในช่วงเวลาดังกล่าว กรมประมงตรวจสอบพบว่าการกรอกข้อมูลส่งออกในระบบมีความผิดพลาดคลาดเคลื่อน 212 ครั้ง จากการส่งออกปลาสวยงามทั้งหมดมากกว่า 24,000 ครั้ง เมื่อมีการเรียกร้องให้มีการพิสูจน์ความผิดชอบของบริษัทเอกชนที่นำเข้าปลาหมอคางดำเพื่อการวิจัยและพัฒนาสายพันธุ์ปลาแล้ว สังคมควรกระตุ้นหน่วยงานภาครัฐให้มีการตรวจสอบความถูกต้องของการส่งออกปลาหมอคางดำในกลุ่มปลาสวยงาม เพราะจนถึงวันนี้ยังไม่มีบริษัทใดในกลุ่มผู้ส่งออกที่สามารถยืนยันได้ว่าปลาที่ส่งออกไปประเทศปลายทางเป็นปลาชนิดใด ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งหลักฐานสำกคัญในการไขข้อสงสัยที่ยังถกเถียงกันเรื่องการแพร่กระจายของปลาหมอคางดำในประเทศไทย

สมสมัย หาญเมืองบน นักวิชาการอิสระ

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ทบ.สั่งย้าย เจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก เซ่นปมทำร้ายร่างกายกำลังพล
บ.สยาม ควอลิตี้ สตาร์ช จำกัด จัดงาน “MODEL SMS 20R” ขยายพันธุ์ต้านทานโรคใบด่างมันสำปะหลัง ภายใน 5 ปี ชัยภูมิต้องปลอดจากการระบาดเป็นจังหวัดแรก
ตร.แจงชัด ติดข้อกม. ยังไม่ได้ตัว "เสี่ยโจ้ ปัตตานี" พ่อค้าน้ำมันเถื่อนใหญ่ พบเบาะแสหนีอยู่กัมพูชา
กลุ่ม ปตท. และกลุ่มฯ โรงกลั่นน้ำมันปิโตรเลียม ส.อ.ท. พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนประเทศไทย ด้วยพลังงานสะอาด และคาดการณ์ราคาน้ำมันในปี 68
เพจดังแฉอีก พรรคส้มแอร์ไลน์ ดูงานจีน “เจี๊ยบ อมรัตน์” โผล่ไปด้วย โดนชาวเน็ตสวน เที่ยวฟรีภาษีประชาชน
เสี่ยใจบุญ มอบทุนพัฒนาบ้านเกิดกว่า 3 ล้านบาท แจกทุนนักเรียนทั้งโรงเรียน คนละ 5,000 บาท
ตำรวจท่องเที่ยว ผนึกกำลังทุกภาคส่วน ยกระดับการดูแลความปลอดภัย และป้องกันการหลอกลวงเอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยว สร้างความชื่อมั่น รับไฮซีซั่น
"ทนายอาคม" รับทำคดีให้เฉพาะ "เดือน" ภรรยาทนายตั้ม ชี้เจ้าตัวไม่รู้สำนึก ดื้อดึงสู้หัวชนฝา
ประเด็นร้อน ! ข้อถกเถียงเรื่องภาษีบุหรี่ไฟฟ้า คุ้มค่ากับสุขภาพของคนไทยหรือไม่
ศาลออกหมายจับ "เอกภพ สายไหมต้องรอด" ปมพยานเท็จดิไอคอน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น