เอาจริง ปราบแข่งซิ่งทั่วไทย ยกเคส ‘บิ๊กไบค์ยกล้อ’ โทษหนักริบรถ
ข่าวที่น่าสนใจ
13 ก.ย. 2567 พลตำรวจโท สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานป้องกัน และปราบปรามการขับขี่รถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย หรือความเดือดร้อนของผู้อื่น แข่งรถในทาง และความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานการประชุมคณะทำงานฯ โดยมี รองผู้บัญชาการ และรองผู้บังคับการ ที่รับผิดชอบงานป้องกันปราบปราม พร้อมหัวหน้าสถานีตำรวจทั่วประเทศ เข้าร่วมประชุม
พลตำรวจโท สำราญ กล่าวว่า ได้สั่งการให้ทุกหน่วยให้ความสำคัญ นำมาตรการแก้ไขปัญหาแข่งรถในทางของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และข้อมูลการรับแจ้งเบาะแสของเด็กแว้นผ่านสายด่วน 191 หรือ 1599 ไปปรับใช้ให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมในแต่ละพื้นที่ และให้ดำเนินการตามกฎหมายให้ครบถ้วนในทุกมิติ ทั้งดำเนินคดีในข้อหาหลักกับผู้กระทำความผิด ถ้าผู้ต้องหาเป็นเด็กและเยาวชน ต้องดำเนินคดีกับพ่อแม่ผู้ปกครองด้วย
รวมถึงเสนอศาลริบรถของกลางทุกกรณี จึงเน้นย้ำให้ทุกหน่วยช่วยประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ให้กับพ่อแม่ผู้ปกครอง รวมถึงเด็กและเยาวชน กับผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นกับครอบครัว หากกระทำผิดเกี่ยวกับการแข่งรถในทางฯ ดังตัวอย่างล่าสุด จากที่ปรากฏในข่าวสื่อสังคมออนไลน์ ที่มีรถจักรยานยนต์บิ๊กไบก์ขี่ยกล้อหน้า ในลักษณะประมาทหวาดเสียว บนถนนเพชรเกษม บริเวณอุโมงค์สนามบิน เขตติดต่อชะอำ-หัวหิน ในพื้นที่ สภ.ชะอำ จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งเป็นการขี่รถในลักษณะประมาทหวาดเสียว และไม่คำนึงถึงความปลอดภัยภายในอุโมงค์สายหลักที่ประชาชนใช้สำหรับสัญจรไป-มา อันอาจจะเกิดอันตรายแก่ผู้ร่วมใช้ทางคนอื่นได้
โดย พันตำรวจเอก สุพมาส บัวลาด รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบุรี ได้สั่งการให้ พันตำรวจเอก สมเกียรติ โฉมฉาย ผู้กำกับการ สภ.ชะอำ สืบสวนตรวจสอบกลุ่มผู้กระทำความผิด พบว่ากลุ่มจักรยานยนต์บิ๊กไบก์ กว่า 10 คัน ได้ขี่เข้ามารวมตัวกันถ่ายรูปภายในบริเวณอุโมงค์ และได้มี 1 คันในกลุ่ม ได้ขี่รถจักรยานยนต์ยกล้อ ต่อมาพนักงานสอบสวน สภ.ชะอำ ได้สืบทราบว่า นายศรัณยู เป็นผู้ขี่รถบิ๊กไบก์ยกล้อ จึงแจ้งข้อหา “ขับขี่รถในลักษณะผิดปกติวิสัยของการขับขี่รถตามปกติฯ / ขับขี่รถโดยประมาทน่าหวาดเสียวฯ / ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยฯ” และได้นำตัวส่งฟ้องศาลจังหวัดเพชรบุรี
โดยศาลพิพากษาจำคุก 1 เดือน ปรับ 4 พันบาท โทษจำคุกรอลงอาญา 2 ปี รายงานตัว 4 ครั้ง เป็นเวลา 1 ปี บำเพ็ญสาธารณประโยชน์ 12 ชั่วโมง ระหว่างรอลงอาญา ห้ามยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด และวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท โดยเด็ดขาด พร้อมริบรถบิ๊กไบก์ของกลางที่ใช้ในการกระทำผิด ส่วนที่เหลืออีก 6 ราย เจ้าของรถจักรยานยนต์ 6 คัน กลุ่มที่อยู่ในที่เกิดเหตุ พนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกนายยศภัทร กับพวกรวม 6 คน มาแจ้งข้อหา “จอดรถในเขตห้ามจอด” ซึ่งเป็นการกระทำความผิดตามกฎหมาย โดยได้เปรียบเทียบปรับ ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก เป็นเงินคนละ 500 บาท ตามอัตราค่าปรับสูงสุดของฐานความผิดดังกล่าว
ทั้งนี้ พลตำรวจโท สำราญ ยังได้กำชับให้คณะทำงานขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ที่ได้รับผลกระทบจากการขับขี่รถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย ทั้งการโพสต์ชักชวน เชิญชวนบนสื่อโซเชียลต่างๆ รวมทั้งการรวมตัวกันบนท้องถนนที่สร้างความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชน โดยพี่น้องประชาชนสามารถแจ้งเบาะแสเหตุได้ที่สายด่วน 191 หรือ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ข่าวล่าสุด
เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น