จับตาพรุ่งนี้ “สายน้ำ” 3 นิ้ว ขึ้นศาลอุทธรณ์ ฟังคำพิพากษา คดี 112 ร่วมม็อบจาบจ้วงสถาบันฯ

จับตาพรุ่งนี้ “สายน้ำ” 3 นิ้ว ขึ้นศาลอุทธรณ์ ฟังคำพิพากษา คดี 112 ร่วมม็อบจาบจ้วงสถาบันฯ

จับตาพรุ่งนี้ “สายน้ำ” 3 นิ้ว ขึ้นศาลอุทธรณ์ ฟังคำพิพากษา คดี 112 ร่วมม็อบจาบจ้วงสถาบันฯ

 

สายน้ำ

ข่าวที่น่าสนใจ

15 กันยายน 2567 เพจเฟซบุ๊กศูนย์ทนายความสิทธิมนุษยนชน ได้โพสต์ข้อความ ระบุว่า 16 ก.ย. 2567 เวลา 09.00 น. ศาลเยาวชนและครอบครัวกลางนัดฟังคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษ แผนกคดีเยาวชนและครอบครัว ในคดีของ “สายน้ำ” นักกิจกรรมเยาวชน ณ ขณะเกิดเหตุอยู่ในวัย 16 ปี ผู้ถูกฟ้องตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 เหตุแต่งเสื้อครอปท็อป (เสื้อกล้ามเอวลอย) เข้าร่วมเดินแฟชั่นโชว์ และเขียนข้อความบนร่างกายในการชุมนุม #ภาษีกู เมื่อวันที่ 29 ต.ค. 2563 ที่บริเวณด้านหน้าของวัดแขก บนถนนสีลม

คดีนี้มี วริษนันท์ ศรีบวรธนกิตติ์ แอดมินเพจ “เชียร์ลุง” เป็นผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษไว้ที่ สน.ยานนาวา และพนักงานอัยการคดีเยาวชนมีคำสั่งฟ้อง “สายน้ำ” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112, ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ มาตรา 34 (6), และ พ.ร.บ.ควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงฯ มาตรา 4

พฤติการณ์ข้อกล่าวหาโดยสรุประบุว่า สายน้ำได้ร่วมเดินบนพรมแดงฝั่งถนนสีลมขาออกโดยแต่งกายด้วยชุดครอปท็อปสีดํา (เสื้อกล้ามเอวลอย) สวมกางเกงยีนส์ขายาวใส่รองเท้าแตะ และเขียนข้อความที่ร่างกายบริเวณแผ่นหลังลงมาถึงเอวว่า “พ่อกูชื่อมานะ ไม่ใช่วชิราลงกรณ์” โดยก่อนที่สายน้ำจะเดินออกมา บุคคลซึ่งไม่ทราบว่าเป็นใครที่ทําหน้าที่พิธีกรได้ประกาศว่า “เตรียมตัวหมอบกราบ” แล้วเมื่อสายน้ำเดินผ่านกลุ่มผู้ชุมนุม มีผู้ชุมนุมได้ตะโกนคําว่า “ทรงพระเจริญ” และ “ในหลวงสู้ๆ”

การสืบพยานโดยรวม ทางพยานโจทก์ได้พยายามกล่าวหาว่าพฤติการณ์ของ “สายน้ำ” มีเจตนาดูหมิ่น หมิ่นประมาทในหลวงรัชกาลที่ 10 เพราะสวมใส่ครอปท็อปเลียนแบบภาพที่มีการเผยแพร่บนโลกอินเทอร์เน็ต แม้พยานหลายปากจะรับว่าเป็นที่รู้กันว่าเป็นภาพตัดต่อก็ตาม ขณะที่กิจกรรมที่เกิดขึ้นก็เป็นการฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ โดยไม่ได้มีการขออนุญาตจากเจ้าหน้าที่

ในชั้นสอบสวนและชั้นศาล สายน้ำยืนยันให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยมีข้อต่อสู้ว่า ตนไม่ได้เป็นผู้จัดกิจกรรม ทั้งการชุมนุมไม่ได้ถึงขนาดเสี่ยงต่อการแพร่โรค และเป็นไปโดยสงบ ส่วนการใส่เสื้อครอปท็อปก็เป็นเสื้อผ้าตามสมัยนิยม ไม่ว่าใครก็สามารถสวมใส่ได้ ไม่ผิดกฎหมายแต่อย่างใด ซึ่งการแต่งกายดังกล่าวจำเลยต้องการเลียนแบบ “จัสติน บีเบอร์” นักร้องชื่อดังเท่านั้น ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก็ไม่ได้มีการเตรียมการหรือเป็นการกระทำร่วมกัน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ลุค อิชิคาว่า" นักแสดงลูกครึ่ง ร้องปอท.ถูกใส่ร้ายผ่านโซเชียลฯ สร้างความเสื่อมเสีย วอนชาวเน็ตอย่าเชื่อพวกหิวแสง
แน่นสำนักพม.ขอนแก่น "ผู้พิการ" แห่ต่ออายุ-ทำบัตรใหม่ รอรับเงินหมื่น
สุดเศร้า "สาวใหญ่" ร้องถูก "ผัวตำรวจ" ซ้อมอ่วม ซ้ำพยายามล่วงละเมิดลูกเลี้ยง ยันขอดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
บริษัทผลิตเพจเจอร์มรณะที่แท้เป็นของอิสราเอล
เลบานอนแบนเพจเจอร์และวอล์กกี้ทอล์กกี้บนเครื่องบิน
“ชนินทร์” จวก “เท่าพิภพ” หยุดเอาดีเข้าตัว ป้ายผู้อื่นเป็นโจรสลัด ชี้ปมร่างสุราก้าวหน้า ถ้าอยากเปลี่ยนแปลง ต้องแสวงหาความร่วมมือ
คุณยายครูเบญเปิดใจทั้งน้ำตา หลังจากที่หลานสาวสอบติดพนักงานราชการแต่ชื่อหาย
"ซีอีโอ TSB" เปิดใจ พัฒนารถเมล์ก้าวสู่ปีที่ 3 พร้อมรับฟัง-นำข้อมูลปรับปรุงทุกจุด ประกาศชัด "รถเมล์คนไทยโตอย่างยั่งยืน"
ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราร่วมกิจกรรมประชุมสภากาแฟครั้งสุดท้าย ก่อนเกษียณอายุราชการ พร้อมปล่อยพันธุ์กุ้งกุลาดำจำนวน 2 แสนตัว เนื่องในวันคล้ายวันสถาปนากรมประมง
"พิพัฒน์-สุรศักดิ์" จับมือ สร้างโอกาส นศ.ทำงานปิดเทอม หมื่นอัตรา

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น