BBC และ AFP รายงานว่าพายุบอริสที่พัดถล่มพื้นที่ตอนกลางและตะวันออกของทวีปยุโรปตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (12 กย.) ทำให้มีผู้เสียชีวิต 4 รายแล้วที่โรมาเนีย และทำลายบ้านเรือนพังเสียหายไป 5 พันหลังที่เมืองกาลาติ ทางตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุด ขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้นำเรือและเครื่องบินออกให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยหลายร้อยคนในพื้นที่ 19 แห่งทั่วประเทศ หลังจากน้ำในแม่น้ำดานูบไหลทะลักเข้าท่วมตัวเมือง
ส่วนที่สาธาณรัฐเช็ค ทางการได้ระดมเจ้าหน้าที่กู้ภัยราว 1 แสนคนออกให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมา รวมทั้งเร่งอพยพผู้ป่วยที่โรงพยาบาลเมืองเบอร์โน่เมื่อเช้าวานนี้(เสาร์ที่ 14 กย.) พายุลมแรงยังได้ตัดขาดกระแสไฟฟ้ากระทบบ้านเรือนเกือบ 5 หมื่นหลัง เจ้าหน้าที่ได้แจกจ่ายกระสอบทรายให้ประชาชนไว้ป้องกันบ้านเรือนตัวเอง
ขณะที่ทางการสโลวาเกียซึ่งมีพรมแดนติดสาธารณรัฐเช็คก็ได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่กรุงบราติสลาวาแล้ว
ที่ประเทศโปแลนด์ ทางการได้ประกาศเตือนสถานการณ์น้ำท่วมสูงทางตะวันตกเฉียงใต้ตั้งแต่ช่วงบ่ายและค่ำวานนี้ (เสาร์ที่ 14 กย.) รวมทั้งสั่งปิดจุดผ่านแดนติดสาธารณรัฐเช็ค หลังจากน้ำในแม่น้ำเบียล่าไหลทะลักล้นฝั่งตัดขาดถนนหลายสายและเส้นทางรถไฟเชื่อมระหว่างเมืองปรุ้ดนิก และเมืองไนซ่า ทั้งนี้นางโซเฟีย โอเชียก้า ชาวบ้านวัย 65 ปีบอกว่าน้ำในแม่น้ำเบียล่าเชี่ยวกรากจนน่ากลัว ชาวบ้านวัย 39 ปีอีกคนบอกว่าตั้งแต่เกิดมาครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่สองที่สถานการณ์น้ำท่วมรุนแรงขนาดนี้
ส่วนที่ออสเตรีย ได้เกิดพายุพัดแรง 146 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในพื้นที่ทางใต้ ตัดขาดกระแสไฟฟ้าบ้านเรือนกว่า 4 พันหลัง ขณะที่กรุงเวียนนา เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องเร่งเคลียร์ซากปรักหักพังและกิ่งไม้ที่หักโค่นออกจากถนน รวมทั้งเร่งสูบน้ำออกจากชั้นใต้ดินของบ้านเรือนประชาชน ขณะที่พื้นที่ฝั่งตะวันตกและตะวันออกเฉียงเหนือซึ่งมีลักษณะเป็นภูเขาสูงก็มีรายงานหิมะตกสูง 1 เมตร รวมทั้งหิมะถล่ม ทางการต้องประกาศเขตภัยพิบัติ ซึ่งการที่หิมะตกกลางเดือนกันยายนถึอเป็นเรื่องผิดปกติ และเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาอุณหภูมิก็สูงถึง 30 องศาเซลเซียส