นักวิเคราะห์คาด ธนาคารกลางสหรัฐเตรียมลดดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 4 ปีในวันพุธนี้
ในวันพุธนี้ มีการคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟด เตรียมประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 4 ปี หลังจากในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ระดับสูงของธนาคารกลางสหรัฐ รวมถึงเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด ระบุว่าน่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้ เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อลดลงสู่เป้าหมายระยะยาวของเฟดที่ 2 เปอร์เซ็นต์ และตลาดแรงงานส่งสัญญาณชะลอตัว แม้เศรษฐกิจสหรัฐยังคงเติบโต
เฟดได้เน้นย้ำซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่า เฟดจะตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยโดยพิจารณาจากข้อมูลเศรษฐกิจเท่านั้น มีการคาดการณ์ว่า การประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินสหรัฐ หรือ FOMC ซึ่งประกอบด้วยสมาชิก 19 คน ในวันอังคารและวันพุธนี้ น่าจะมุ่งเน้นไปที่หัวข้อว่า การปรับลดดอกเบี้ยครั้งนี้จะอยู่ที่ 0.25 เปอร์เซ็นต์หรือ 0.50 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งนับเป็นการปรับลดครั้งแรกของเฟดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2020 ซึ่งเป็นช่วงการระบาดของโควิด และหลังจากนั้นเฟด เริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2022 เพื่อตอบสนองต่อเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากภาวะขาดแคลนสินค้า หลังการระบาดใหญ่และสงครามในยูเครน โดยเฟดได้คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับสูงสุดในรอบ 20 ปี ที่อัตรา 5.25 ถึง 5.50 เปอร์เซ็นต์ในช่วง 14 เดือนที่ผ่านมา
การปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียงเล็กน้อยที่ 0.25 เปอร์เซ็นต์ เพื่อผ่อนภาวะตึงเครียด ส่วนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างเข้มข้นยิ่งขึ้นที่ 0.50 เปอร์เซ็นต์จะส่งผลดีต่อตลาดแรงงาน แต่ก็อาจเสี่ยงต่อการทำให้เงินเฟ้อกลับมาพุ่งสูงขึ้นอีกครั้ง ซึ่งนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองว่า เฟดจะเลือกปรับลดดอกเบี้ยเพียง 0.25 เปอร์เซ็นต์ในครั้งนี้ ตามด้วยการปรับลดอีก 0.25 เปอร์เซ็นต์ในเดือนพฤศจิกายน
ส่วนคำถามที่ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยทั้งหมดกี่ครั้งนั้น ยังเป็นเรื่องที่ยากแก่การคาดเดา นักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารบางแห่ง รวมถึงโกลด์แมนแซคส์ คาดว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยรวม 0.75 เปอร์เซ็นต์ ในช่วง 3 การประชุมสุดท้ายของปี ในขณะที่ธนาคารอื่นๆ มองว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่รุนแรงกว่า เช่น นักเศรษฐศาสตร์ของซิตี้แบงก์ คาดว่าจะมีการปรับลดดอกเบี้ยอย่างน้อย 1.25 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ นักลงทุนยังมองว่า มีโอกาสมากกว่า 99 เปอร์เซ็นต์ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกอย่างน้อย 4 ครั้งในปี 2568 ซึ่งจะทำให้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้หลักของเฟดลดลงมาอยู่ที่ 3.5 ถึง 3.75 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งต่ำกว่าระดับปัจจุบัน 1.75 เปอร์เซ็นต์