วันที่ 17 กันยายน 2567 นายตี๋ (นามสมมุติ) อายุ 33 ปี ชาวกัมพูชา ได้ร้องเรียนกับสื่อมวลชนว่าถูกกลุ่มนักเลงคนไทยส่งข้อความมาข่มขู่ทำร้ายร่างกาย หลังจากจับได้ว่า น.ส.แอน อายุประมาณ 25 ปี แฟนสาวชาวลาว เล่นชู้คบหากับนักการเมืองท้องถิ่นเมืองพัทยา อีกทั้งแฉขถึงบวนการอินเดียเจ้าของร้านอาหาร บังคับแฟนสาวค้าประเวณี
นายตี๋ ผู้ร้อง เปิดเผยว่า ได้คบหากับแฟนสาวมาประมาณ 6 เดือน กระทั่งวันหนึ่งได้ทั้งคู่ได้เข้าไปทำงานร้านอาหารกึ่งผับแห่งหนึ่งในเมืองพัทยา โดยมีชาวอินเดียเป็นเจ้าของ จากนั้นเจ้าของร้านได้เห็นว่าแฟนสาวรูปร่างหน้าตาดี ชักชวนให้ค้าประเวณี หากไม่ทำตามโดนข่มขู่จะแจ้งตำรวจมาจับ เพราะว่าแฟนสาวเป็นแรงงานผิดกฎหมาย
อีกทั้งยังพูดหว่านล้อมหากทำตามข้อตกลง ทางร้านจะดำเนินการพาแฟนสาวไปทำบัตร และเอกสารให้ถูกต้องตามกฎหมาย โดยมีสาวทำงานเป็นแม่ครัวที่ร้านคอยทำหน้าที่เป็นแม่เล้าจัดลูกค้า และจะแบ่งรายได้กันเป็นทอดๆ ซึ่งทางร้านยังมีการให้แฟนสาวชักชวนเพื่อนสาวต่างด้าวมาค้าบริการที่ร้านอาหาร หากสามารถชวนมาได้จะเงินค่าหัวคิว
ต่อมาวันหนึ่งซึ่งยังคบหากันอยู่ ตนได้บอกแฟนสาวให้เลิกทำงานแบบนี้ และจับได้ว่าแฟนสาวในแชทมีการส่งข้อความเสียงพูดคุยนัดเจอกับนักการเมืองท้องถิ่นในเมืองพัทยา ซึ่งเชื่อว่าน่าจะซื้อบริการและจนคบหากันเชิงเมียน้อย ครั้งหนึ่งนักการเมืองคนดังกล่าว เคยมารับถึงหอพัก ซึ่งตนพยายามจะเข้าไปถาม แต่แฟนสาวได้ห้ามและเตือนว่าอย่าคิดทำแบบนั้นเด็ดขาด หากเข้าไปยุ่งจะได้รับอันตราย
โดยแฟนสาว ยังบอกด้วยอีกว่า สาเหตุที่ยอมเป็นเมียน้อยนักการเมืองคนดังกล่าว เนื่องจากนักการเมืองสามารถ ทำให้ได้ทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นคอนโดเป็นที่พักอาศัย มีเงินเดือนให้ใช้ ส่งเสียเลี้ยงดู และยังจะทำบัตรให้เธอกลับมาให้ถูกต้องตามกฏหมาย และให้ตนตัดความสัมพันธ์ของเราสองคนเพียงเท่านี้
ภายหลังจากที่เรื่องดังกล่าวเริ่มแดง ตนได้ถูกทางร้านวางแผนรวมหัวกับแฟนสาวใส่ร้ายว่าตนไปขโมยของลูกค้า ถึงขั้นไปแจ้งความจับตน ต่อมายังได้รับข้อความจากกลุ่มนักเลง ซึ่งคาดว่าเป็นลูกน้องนักการเมืองท้องถิ่น ลักษณะข่มขู่ทำร้ายร่างกายหมายเอาชีวิต จึงร้องเรียนสื่อมวลชนให้ตรวจสอบนักการเมืองคนดังกล่าว และขบวนการต่างด้าวต่างประเวณีในเมืองพัทยา