ขณะที่อิสราเอลและฮิซบอลเลาะห์ โจมตีตอบโต้กันรายวันกันมานานเกือบ 1 ปี และคุกรุ่นหนักในสัปดาห์นี้ หลังจากอิสราเอลส่งสัญญาณหลายอย่างว่า เตรียมขยายปฏิบัติการทางทหารในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง เพื่อพาพลเมืองกลับบ้านที่ชายแดนทางเหนือ ไม่มีใครคาดคิดว่า ฮิซบอลเลาะห์ ที่ใช้วิธีสื่อสารแบบโลว์เทคยอดฮิตในอดีต อย่างวิทยุติดตามตัว หรือ เพจเจอร์ จะถูกโจมตีแบบที่ก่อความหวาดกลัวและสับสนไปทั่วขนาดนี้ได้
สมาชิกฮิซบอลเลาะห์หลายคน ถูกเพจเจอร์ที่กลายเป็นกับระเบิดเล่นงานราวกับหนังไซ-ไฟ บางคนโดนแรงระเบิดจนล้มหงายหลัง ขณะกำลังซื้อของในซูเปอร์มาร์เก็ต บางคนบาดเจ็บขณะอยู่บนถนนหนทาง ในรถ ที่บ้าน บางรายโดนขณะอยู่ใกล้ลูก ๆ มีภาพสยดสยองที่ชายหนุ่มคนหนึ่งกลายเป็นร่างไร้วิญญาณบนเก้าอี้ตัดผม ใบหน้าชุ่มเลือด
การโจมตีอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน ไม่มีคำถามว่าใครอยู่เบื้องหลัง ค่อนข้างแน่นอนว่าเป็นผลงานของอิสราเอล เพราะไม่มีกลุ่มใด หรือประเทศไหนในโลก ที่จะมีแรงจูงใจ หรือศักยภาพพอที่จะทำอะไรแบบนี้ได้ และเป็นเรื่องปกติที่อิสราเอลไม่ยอมรับหรือปฏิเสธ ทุกครั้งที่ปฏิบัติการลับหรือปฏิบัติการทางทหารที่ซับซ้อนเหนือชั้น รวมถึงการลอบสังหารหัวหน้าฮามาสในกรุงเตหะราน เมืองหลวงอิหร่าน เมื่อสองเดือนก่อน
แต่คำถามสำคัญในระยะ 48 ชั่วโมงข้างหน้า ก็คือ เพจเจอร์ระเบิดเล่นงานฮิซบอลเลาะห์ทั่วเลบานอน จะเป็นการโหมโรงปฏิบัติการทางทหารครั้งใหญ่ หรือเป็นการส่งสาส์นดัง ๆ ถึงฮิซบอลเลาะห์เท่านั้น
แม้ว่าฮิซบอลเลาะห์ประกาศว่า จะเอาคืนอย่างแน่นอน แต่เชื่อว่าขวัญกำลังใจของเหล่าสมาชิกคงสะเทือนไม่น้อย เมื่อความภาคภูมิใจในการรักษาความปลอดภัยระดับสูง และรักษาความลับผ่านอุปกรณ์โลว์เทค บนความเชื่อว่าไม่สามารถแกะรอยได้แบบสมาร์ตโฟน กลับถูกทำลายครั้งใหญ่ และอย่างน่าอับอาย ยังไม่นับรวมกำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก พวกเขาอาจมีคำถามแล้วว่า การติดต่อกับเพื่อนสมาชิกต่อไปนี้ จะยังปลอดภัยอยู่หรือไม่
นักวิเคราะห์ที่ให้ความเห็นกับ CNN ส่วนใหญ่มองว่า ปฏิบัติการครั้งนี้น่าจะมีเป้าหมายเขย่าขวัญในหมู่สมาชิกฮิซบอลเลาะห์ ลดทอนขีดความสามารถในการระดมพล กัดเซาะความเชื่อมั่นในตัวผู้นำ ตลอดจนความสามารถในการรักษาความปลอดภัย
ขณะเดียวกัน หากมองเชิงยุทธศาสตร์อีกฝั่งหนึ่งก็มีความสมเหตุสมผล ที่อิสราเอลจะอาศัยช่วงโกลาหล เปิดฉากปฏิบัติการทางทหารครั้งใหญ่
นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล เพิ่งกล่าวเมื่อไม่กี่วันก่อนว่า อิสราเอลจำเป็นต้องเปลี่ยน “ดุลอำนาจ” ที่ชายแดนด้านเหนือติดกับเลบานอน หลังจากที่ชาวอิสราเอลหลายหมื่นคน ต้องอพยพจากบ้านเรือนของตัวเองไปนานเกือบปีแล้ว หลังจากสงครามกาซ่าเริ่มขึ้นได้ไม่นาน
ด้าน โยฟ กันแลนต์ รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล กล่าวระหว่างพบหารือกับ อามอส โฮคสไตน์ ทูตพิเศษสหรัฐฯ ว่า เวลาสำหรับการทูตเพื่อปลดชนวนปะทะกับฮิซบอลเลาะห์ ได้ผ่านไปแล้ว มีแต่ปฏิบัติการทหารเท่านั้น เป็นหนทางที่ยังเหลืออยู่ ผ่านไปวันเดียว โครงสร้างพื้นฐานการสื่อสารของฮิซบอลเลาะห์ก็โดนเล่นงาน เพจเจอร์ที่มีรายงานว่า ฮิซบอลเลาะห์เพิ่งได้มาไม่กี่เดือน เกิดระเบิดในเวลาไล่เลี่ยกัน
และเมื่อวานนี้ ยังเป็นครั้งแรกที่รัฐบาลอิสราเอล ปรับเพิ่มเป้าหมายสงครามกาซ่า โดยใส่ภารกิจการพาพลเมืองกลับบ้านในชุมนุมชายแดนทางเหนือ เป็นอีกเป้าหมายหนึ่งอย่างเป็นทางการ ยิ่งเพิ่มความเป็นไปได้ที่ความรุนแรงกับฮิซบอลเลาะห์จะถูกยกระดับ รวมถึงการบุกภาคพื้นดินเพื่อสร้างเขตกันชน แต่จนถึงขณะนี้ (18 กันยายน) ยังไม่มีสัญญาณการเสริมกำลังที่ชายแดนทางเหนือแต่อย่างใด