ประชาชน แน่น “ธนาคาร ธ.ก.ส.” แห่ให้ จนท.ผูกพร้อมเพย์กับบัญชีธนาคาร เตรียมพร้อมรับเงินหมื่น

ประชาชน แน่น "ธนาคาร ธ.ก.ส." แห่ให้ จนท.ผูกพร้อมเพย์กับบัญชีธนาคาร เตรียมพร้อมรับเงินหมื่น

Top news รายงาน วันที่ 18 กันยายน 2567 ที่ธนาคารเพื่อการเกษตร และสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส.สาขานครราชสีมา แน่นขนัดไปด้วยประชาชน ทั้งในเขต อำเภอเมืองนครราชสีมา และอำเภอใกล้เคียง เดินทางมาให้เจ้าหน้าที่ธนาคาร ช่วยดำเนินการผูกพร้อมเพย์ เข้ากับบัญชีธนาคาร เพื่อเตรียมรองรับเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ภายหลังจากที่ทางรัฐบาล คาดว่า จะจ่ายเงินงวดแรกให้กับกลุ่มเปราะบาง คือ กลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และ กลุ่มผู้พิการ ตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน 2567 เป็นต้นไป ทำให้ประชาชน กลุ่มเปราะบาง และกลุ่มผู้พิการต่างตื่นตัว เดินทางมาผูกพร้อมเพย์เข้ากับบัญชีธนาคารกันเป็นจำนวนมาก จนทาง ธ.ก.ส.ต้องเปิดจุดบริการเพิ่มอีก 2 จุด จากเดิมที่มีเคาน์เตอร์บริการ 6 จุด ซึ่งไม่เพียงพอ

 

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

นายวิชัย บำรุงเกาะ ผู้จัดการ ธ.ก.ส.สาขานครราชสีมา เปิดเผยว่า หลังจากรัฐบาลได้ประกาศจะจ่ายเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท งวดแรก ทาง ธ.ก.ส.สาขานครราชสีมา ก็เริ่มเปิดให้บริการช่วยเหลือประชาชนในการผูกพร้อมเพย์กับบัญชีธนาคาร ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 16 กันยายน 2567 ที่ผ่านมา ซึ่งพบว่า มีประชาชนกลุ่มเปราะบาง มาใช้บริการกันจนแน่นตลอดทั้งวัน เฉลี่ยวันละกว่า 300 ราย

โดยมีทั้ง เปิดบัญชีใหม่ และผูกพร้อมเพย์ จึงทำให้เคาน์เตอร์บริการทั้ง 6 จุด เต็มตลอดทั้งวัน ไม่เพียงพอต่อผู้มาใช้บริการ จึงได้เปิดจุดบริการเพิ่มอีก 2 จุด แต่ก็ยังไม่พอ ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องทำงานล่วงเวลาถึง 19.00 น. ทุกวัน เนื่องจากกลุ่มที่ยังไม่มีบัญชีธนาคาร ต้องเปิดบัญชีใหม่ ที่จะต้องใช้เวลามากกว่าปกติ ทาง ธ.ก.ส.สาขานครราชสีมา จะเปิดให้บริการผูกพร้อมเพย์ไปจนถึงวันที่ 24 กันยายน 2567 นี้ หรือจนกว่าจะสิ้นสุดโครงการ

 

 

 

 

 

 

ด้านนางรัญจวน บัวบุญ อายุ 58 ปี ชาว อ.เมืองนครราชสีมา หนึ่งในประชาชนที่มาใช้บริการ กล่าวว่า ตนเองมีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐอยู่แล้ว แต่ยังไม่ได้ผูกพร้อมเพย์ กับบัญชีธนาคาร จึงมาขอให้เจ้าหน้าที่ธนาคารทำให้ เพื่อรอรับเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ซึ่งเงินส่วนนี้ ตนเองวางแผนไว้ว่า จะนำไปใช้จ่ายซื้อของ อุปโภค บริโภค ในครอบครัว ที่มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 4 คน รวมทั้งจะนำไปจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ ซึ่งแต่ละเดือนเฉพาะค่าไฟ ก็เกือบ 2,000 บาทแล้ว ดังนั้นเงินจำนวนนี้ถือว่า สามารถช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับครอบครัวของตนเองได้เป็นอย่างมาก ขอบคุณรัฐบาลที่จ่ายเงินจำนวนนี้มาให้ตนเองได้ดำรงชีวิตดีขึ้นกว่าเดิม

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"แกนนำภูมิใจไทย" ผนึกกำลังหาเสียง หนุน "ไสว" ชิงเก้าอี้ เลือกตั้งซ่อมสส.นครศรีฯ มั่นใจผลงานพรรค
"ดีเอสไอ" จ่อเรียกสอบ 40 วิศวกร คดีตึกสตง.ถล่ม
"ฉก.ลาดหญ้า" ยันเหตุปะทะในประเทศเมียนมา ยังไม่มีผลกระทบชายแดนไทย
บางจาก ศรีราชา และ GISTDA ผนึกกำลังกับสวนสัตว์เปิดเขาเขียว ร่วมสร้างอนาคต นกกาฮัง และ การฟื้นฟูความหลากหลายทางชีวภาพ
“กรมอุตุฯ” เตือนรับมือ "พายุฤดูร้อน" ฉบับ 2 ถล่มไทยตอนบน 26 เม.ย.- 1 พ.ค.นี้
“ดร.เฉลิมชัย” ลงพื้นที่ติดตามโครงการศึกษา สำรวจและพัฒนาแหล่งน้ำบาดาลในพื้นที่เสี่ยงกร่อยเค็ม ตำบลอุ่มเม้า อำเภอธวัชบุรี จังหวัดร้อยเอ็ด แก้ปัญหาให้ประชาชน 15 หมู่บ้าน กว่า 7,200 คน มีน้ำกินน้ำใช้ตลอดปี
"ผอ.สปภ." เผย ตึกสตง.ถล่ม ลดซากเหลือ 7 เมตร จนท.ตัดเหล็กขนย้ายได้เร็วขึ้น คาดเสร็จสิ้นเดือนเม.ย.นี้
แฉกลโกงออนไลน์! ใช้ชื่อ ‘ธนินท์’ ลวงซ้ำ – ซีพีเอาผิดไม่เว้น
DITP โชว์ผลงานจัดกิจกรรมส่งออก 7 เดือน สร้างรายได้เข้าประเทศ 36,921 ล้าน ผู้ประกอบการได้ประโยชน์ 42,409 ราย
"กระทรวงยุติธรรม" เปิดตัวโครงการ "รวมพลังอาสาสมัครราชทัณฑ์ คืนคนดีสู่สังคม"

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น