ข่าวที่น่าสนใจ
จึงไม่แปลกช่วงตั้งไข่รัฐบาล “แพทองธาร” 1 ถึงใช้เวลานานมากกว่าคัดตัวรัฐมนตรีได้ ที่นานไม่ใช่เพราะไปเฟ้นหาตัวรัฐมนตรีระดับหัวกะทิ แต่ต้องไปตรวจสอบคุณสมบัติกันละเอียดยิบไม่ให้มีประวัติด่างพร้อยต่างหาก /หรือแม้แต่ล่าสุดการประชุมคณะรัฐมนตรี นัดแรกที่มี “แพทองธาร ชินวัตร” นั่งหัวโต๊ะ ยังไม่ได้ทำคลอดทีมโฆษกรัฐบาล ทั้งที่มีข่าวออกมาแล้วว่าจะวางตัว “จิรายุ ห่วงทรัพย์” นักการเมืองฝีปากกล้าหัวไวประเด็นการเมืองเป็น “โฆษกรัฐบาล” ต้องเลื่อนออกไปก่อน
โดยเฉพาะตัว “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี ยังไม่ทันได้โชว์ฟอร์มปั๊มผลงานให้เตะตา โดนร้องปมจริยธรรมนับสิบคดี อย่างเช่นคดีเผลอตัวทำท่าขิคุ “มินิฮาร์ท” เข้าทางฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล “เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ” ร้องเอาผิดปมจริยธรรม หวังหักขาเก้าอี้นายกรัฐมนตรีล้างแค้นให้กับเจ้าสำนักบ้านป่าฯ หวังทุบกล่องดวงใจ “นายใหญ่เพื่อไทย” ต้องเร่งปิดเกมเร็ว ถึงขนาดคาดการณ์กันว่าจะให้อยู่ไม่ถึงสิ้นปีเสียด้วยซ้ำไป
เช่นเดียวกับฝ่ายรัฐบาลเพื่อไทย เดินเกมใช้ปมจริยธรรมเป็นเครื่องมือทางการเมืองเอาคืนฝ่ายตรงข้ามเช่นกัน ชนิดที่เรียกว่า “เกลือจิ้มเกลือ” หัวหมู่ทะลวงฟัน คือ “เด็จพี่” “พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์” บุกไปรัฐสภายื่นหนังสือให้วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ตรวจสอบ “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้ทำหน้าที่ตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญและข้อบังคับว่าด้วยประมวลจริยธรรมของ ส.ส.หรือไม่ อาทิ โดดประชุมสภากี่ครั้ง , โหวตกฎหมายสำคัญกี่ฉบับ แต่ที่ชัดเจนคือ “ลุงป้อม” ไม่มาทำหน้าที่ สส.โหวตนายกรัฐมนตรี ถึง 2 ครั้ง นั้นคือ “เศรษฐา ทวีสิน” และ “แพทองธาร ชินวัตร” เพราะหากทำงานไม่คุ้มค่าภาษีประชาชน ไม่สมควรเป็น สส.
ทั้งหมดจึงเป็นเหตุให้ “ชูศักดิ์ ศิรินิล” รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มือกฎหมายรัฐบาลอาสาเป็นเจ้าภาพ จุดพลุประเด็นแก้รัฐธรรมนูญฉบับปราบโกง ปิดทางฝ่ายแค้นใช้เป็นเครื่องมือเช็กบิลนายกรัฐมนตรี ต้องมาตายน้ำตื้นด้วยเรื่องขี้ผง เสนอให้มีการตีกรอบความผิดจริยธรรมต้องชัดเจน และ การถอดถอนนายกรัฐมนตรี ควรใช้มติศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างมากเด็ดขาด เช่น 9 ต่อ 0 เพราะอย่าลืมว่ากรณี “เศรษฐา ทวีสิน” พ้นตำแหน่งนายกรัฐมนตรีด้วยมติ 5ต่อ4 เป็นต้น
การแก้ไขรัฐธรรมนูญในครั้งนี้ 2 องค์กรอิสระที่ตกเป็นเป้า นั้นคือ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ในฐานะคนชงเรื่อง และ ศาลรัฐธรรมนูญ ในฐานะ “เปาบุ้นจิ้น” สั่งประหาร นักการเมืองต้องมลทิน
ดังนั้นการแก้รัฐธรรมนูญปมกับดักจริยธรรม ถือเป็นการรวมกันเฉพาะกิจระหว่างฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล ยกเว้น “พรรคพลังประชารัฐ” ของ “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคประกาศชัดเจน คัดค้านไม่ร่วมสังฆกรรมแก้รัฐธรรมนูญฉบับปราบโกง ปมกับดักจริยธรรม จึงต้องรอดูว่า พรรคร่วมรัฐบาลกับฝ่ายค้านพรรคก้าวไกลเดิม จะแก้รัฐธรรมนูญสำเร็จหรือไม่ และสภาสูง “วุฒิสภา” 200 คน จะเล่นด้วยหรือไม่ ในการริบอำนาจ ศาลรัฐธรรมนูญ ตรวจสอบนักการเมืองต้องมลทินไม่ให้ตายน้ำตื้น และ ไม่ให้นำไปใช้เป็นเครื่องมือหรือประเด็นแก้แค้นกันทางการเมือง จะทำสำเร็จหรือไม่ ต้องติดตามอย่าคาดสายตา!
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
