“อัษฏางค์” เฉ่ง “แก้วตา” ปมปภิปรายเห็นใจพม่า ชี้ยังไม่เข้าใจเรื่องสวัสดิการอย่างลึกซึ้ง โยนภาระให้รัฐฝ่ายเดียว คนไทยอาจเสียภาษีเพิ่ม เพื่อนำงบประมาณไปดูแล ลามกระทบโครงการพัฒนาประเทศ
ข่าวที่น่าสนใจ
19 กันยายน 2567 นายอัษฏางค์ ยมนาค โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเรื่อง แก้วตาของพรรคประชาชนพม่า โดยระบุรายละเอียดตอนหนึ่งว่า ธิษะณา ชุณหะวัณ สส.กทม.พรรคประชาชน อภิปราย ในสภาฯ ในมุมที่เห็นอกเห็นใจชาวเมียนมาว่าควรมีการรับรองอย่างเป็นระบบ
นายอัษฏางค์ เห็นว่า แรงงานต่างชาติมีทั้งผลดีและผลเสียต่อระบบเศรษฐกิจของชาติ ผลดีต่อระบบเศรษฐกิจ เช่น แรงงานต่างชาติที่เข้ามาทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมายจะต้องชำระภาษีให้แก่รัฐ ซึ่งช่วยเพิ่มรายได้ให้กับรัฐบาลสำหรับการจัดสรรงบประมาณไปใช้ในโครงการสาธารณะต่างๆ อย่างไรก็ตามหากรัฐบาลต้องใช้งบประมาณจากภาษี เพื่อครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการศึกษาและการรักษาพยาบาลสำหรับแรงงานต่างชาติ อาจทำให้ภาระภาษีของคนไทยเพิ่มขึ้น เนื่องจากต้องจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติม นอกจากนี้ยังมีผลกระทบต่อการจัดสรรงบประมาณสาธารณะ งบประมาณที่ถูกใช้เพื่อดูแลแรงงานต่างชาติ อาจกระทบต่อการจัดสรรงบประมาณสำหรับโครงการอื่นๆ เช่น การพัฒนาสาธารณูปโภค การศึกษา และการรักษาพยาบาลของคนไทยเอง
นายอัษฏางค์ ระบุต่อว่า การสร้างนโยบายที่ให้สิทธิพิเศษกับแรงงานต่างชาติอาจมีข้อดี แต่ควรพิจารณาในบริบทของการจัดการงบประมาณที่สมดุล ไม่ให้เป็นภาระเกินไปต่อประชาชนไทยผู้เสียภาษี เช่นเดียวกับนโยบายในประเทศพัฒนาแล้ว ที่มักจะกำหนดข้อจำกัดหรือเงื่อนไขสำหรับแรงงานต่างชาติในการเข้าถึงสิทธิประโยชน์เหล่านี้ ที่สำคัญวิธีการที่เหมาะสมในการดูแลสุขภาพของแรงงานต่างชาติ คือการจัดให้มี “ระบบประกันสุขภาพ“ ที่แบ่งภาระค่าใช้จ่ายระหว่างแรงงาน นายจ้าง และรัฐบาล คือการให้ทั้ง 3 ฝ่ายช่วยเฉลี่ยกันจ่ายเงินเข้าระบบประกันสุขภาพ ซึ่งมีประโยชน์ในหลายแง่มุม ทั้งการลดภาระทางการคลังของรัฐ และการทำให้แรงงานต่างชาติสามารถเข้าถึงการรักษาพยาบาลได้อย่างเพียงพอ
นายอัษฏางค์ ทิ้งท้ายว่า การอภิปรายของธิษะณา ชุณหะวัณ ในเรื่องเสนอสวัสดิการแก่แรงงานพม่ามีข้อบกพร่องหลายส่วน อาจเป็นเพราะไม่มีความเข้าใจที่ลึกซึ้งต่อประเด็นดังกล่าว สวัสดิการสำหรับแรงงานพม่าเป็นสิ่งที่ควรคำนึงถึงและควรจัดการให้เหมาะสม เพราะแรงงานพม่าส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมไทย แต่ต้องทำให้ถูกต้อง ดังเช่นในประเทศที่พัฒนาแล้ว แรงงานต่างชาติยังต้องมีส่วนรับผิดชอบในสวัสดิการนั้น มิใช่โยนให้เป็นภาระของรัฐแต่ฝ่ายเดียว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง