“เหยื่อ” รองมิสแกรนด์เชียงใหม่ ซิ่งรถชนดะ บุกโรงพักตามความคืบหน้า หลังคู่กรณียังเงียบไม่ติดต่อมา หวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม

ผู้เสียหายที่ถูกรองมิสแกรนด์ฯขับรถชน บุกโรงพักติดตามความคืบหน้าคดี หลังคู่กรณียังเงียบไม่ติดต่อมา กังวลจะไม่ได้รับความเป็นธรรม อ้างตำรวจให้การช่วยเหลือ ด้านตำรวจรีบแย้ง ผู้เสียหายเข้าใจผิดไปเอง

“เหยื่อ” รองมิสแกรนด์เชียงใหม่ ซิ่งรถชนดะ บุกโรงพักตามความคืบหน้า หลังคู่กรณียังเงียบไม่ติดต่อมา หวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม – Top News รายงาน

 

เหยื่อ

 

เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2567 นายสุรเดช มณีไพศาลสกุล หรือเอ็ม อายุ 35 ปี หนึ่งในผู้เสียหาย ที่ถูกนางสาวนภสร พันธุ์เกษม หรือ ลดา อายุ 28 ปี รองมิสแกรนด์เชียงใหม่ปี 2020 และรองอันดับ 2 มิสแกรนด์เชียงราย ปี 2019 ขับรถยนต์เฉี่ยวชนจนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 คน และรถจักรยานยนต์พังเสียหาย 3 คัน เหตุเกิดระหว่างซอยประชาอุทิศ 10 กับ 12 เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ เมื่อเวลา 02.30 น. ของวันที่ 15 กันยายนที่ผ่านมา

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

นายสุรเดช เปิดเผยว่า วันนี้ตนเองมาติดตามความคืบหน้าคดี เพราะตั้งแต่เกิดเรื่องทางคู่กรณี และบริษัทประกันภัยของคู่กรณีก็ไม่ได้ติดต่อมาหาตนเอง หรือผู้เสียหายคนอื่นแต่อย่างใด และตนเองยังสงสัยในการทำงานของตำรวจด้วยว่า ทำไมถึงไม่ตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ของคู่กรณีตั้งแต่ช่วงเกิดเหตุ แต่กลับเชิญให้มาตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในเวลา 06.00 น. รวมทั้งตำรวจยังมีความล่าช้าในการส่งหนังสือให้คู่กรณีไปตรวจหาสารเสพติดในร่างกาย เพราะตำรวจเพิ่งส่งตัวไปตรวจวันที่ 16 กันยายนที่ผ่านมา และเรื่องที่ติดใจมากที่สุดคือ เรื่องของการดูหลักฐานจากกล้องวงจรปิด แต่พนักงานสอบสวน อ้างว่า ให้ดูไม่ได้ เพราะกล้องเสีย

ด้าน พันตำรวจโท ณัฐสิษฐ์ พุทธเจริญ รองผู้กำกับสอบสวน สน.ห้วยขวาง เปิดเผยว่า เบื้องต้นอาจจะมีการสื่อสารที่คลาดเคลื่อน ระหว่างพนักงานสอบสวน และผู้เสียหาย โดยเฉพาะเรื่องของการขอดูกล้องวงจรปิด ซึ่งก็ได้เปิดกล้องวงจรปิด พร้อมกับชี้แจงให้ผู้เสียหายรับทราบไปหมดแล้ว ส่วนเหตุผลที่ไม่ได้ตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในที่เกิดเหตุ เนื่องจากพนักงานสอบสวนต้องรีบเคลียร์สถานที่ และต้องเร่งส่งคนเจ็บไปรักษาที่โรงพยาบาลก่อน ยืนยันว่า ไม่ได้ดำเนินการล่าช้า เพราะหลังจากนั้นก็ได้เรียกคู่กรณีเข้ามาตรวจวัด แต่ปรากฏว่าไม่พบปริมาณแอลกอฮอล์

ส่วนผลการตรวจสารเสพติดในร่างกายนั้น พนักงานสอบสวนได้ส่งหนังสือให้แพทย์ดำเนินการไปแล้วเมื่อวันที่ 16 กันยายนที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลตรวจ ส่วนผู้ก่อเหตุ ขณะนี้ยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหา เนื่องจากยังต้องรอผลตรวจจากนิติวิทยาศาสตร์ก่อน โดยพนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกให้ผู้ก่อเหตุ เข้ามาพบพนักงานสอบสวนในช่วงต้นเดือนตุลาคมนี้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สายสีแดง ชวนเที่ยวแลนด์มาร์คแห่งใหม่ สูดอากาศบริสุทธิ์ สะดวก เดินทางง่าย ติดรถไฟฟ้า
“สาวไทย” โคตรแสบ! ช่วยแฟนผิวสีขนโคเคนเข้าเมือง โดนชาร์จคา ตม.สระแก้ว
‘ผอ.อผศ.’ จัดกิจกรรม นักรบ พบ รด. ปลุกจิตสำนึกเยาวชนต่อความเสียสละของทหารผ่านศึก
ผบช.น. สั่งเอาผิดขั้นเด็ดขาด เก๋งหัวร้อนพุ่งชนไรเดอร์ดับ แจ้ง 2 ข้อหาหนัก-ค้านประกันตัว
"ปอศ.-สรรพสามิต" บุกยึดบุหรี่เถื่อน ลอบนำเข้ามาจากต่างประเทศ มูลค่ากว่า 30 ล้านบาท
"ตำรวจ" เตือน "Jagat" แอปฯล่าเหรียญ สัญชาติอินโดฯ ไม่ได้จดทะเบียนในไทย อันตรายหลายจุด
กรมอุตุฯ เผยไทยอุ่นขึ้น 1-2 องศาฯ อากาศยังเย็นอยู่  กทม.หนาวสุด 19 องศาฯ
"กรมวังฯ" ลงพื้นที่เพื่อตรวจเยี่ยม ติดตามผลการดำเนินงาน โครงการกำลังใจฯ ณ เรือนจำ จ.ภูเก็ต
"เซเลนสกี" อกแตก "ทรัมป์-ปูติน"ส่งซิกหากัน
"บุญสงค์" ฟันไม่เลี้ยง แก๊งปลอมใบตรวจสุขภาพต่างด้าว

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น