รัฐบาล “อุ๊งอิ๊ง” เหยียบมิดไมล์ ลุยไฟทำเรื่องร้อน ไม่สนแรงเสียดทาน

รวมถึงปมแก้รัฐธรรมนูญสลายกับดักจริยธรรม โดยมี “ชูศักดิ์ ศิรินิล” มือกฎหมายรัฐบาลเป็นเจ้าภาพ แก้รัฐธรรมนูญ 3 เรื่องหลัก คือ 1.ปมจริยธรรมต้นเหตุนักการเมืองมีมลทินตายน้ำตื้น 2.ปมยุบพรรคจากข้อหาครอบงำพรรคจากคนนอก และ 3.ริบอำนาจศาลรัฐธรรมนูญและสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ มีอำนาจล้นฟ้าเกินไปหรือไม่? กระตุกนักวิจารณ์การเมืองตัวยง อย่าง “วิมล ไทรนิ่มนวล” นักเขียนรางวัลซีไรต์ ออกมาฟาดเจ็บว่า “รัฐธรรมนูญ ไม่ได้หนักหัวพลเมือง” มันหนักเฉพาะหัวของนักการเมืองที่โกงชาติ ขายชาติ ล้มเจ้า กับพวกกเฬวรากขี้ข้านักการเมือง  รัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติ แต่เป็นโทษแก่นักการเมือง พวกเขาจึงต้องแก้ หรือร่างใหม่ ไม่ว่าจะต้องใช้เวลาและงบประมาณมหาศาลเท่าใด พวกเขาไม่สนว่าประชาชนกำลังลำบากอยู่ทุกหย่อมหญ้า

เช่นเดียวกับ โครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท เฟส 2 ยังลูกผีลูกคนจะได้แจ้งเกิดหรือไม่?  เพราะเผชิญข้อจำกัดทางงบประมาณและแรงเสียดทานคัดค้านจากผู้เชี่ยวชาญทางเศรษฐกิจ กำลังสั่นคลอนความเชื่อมั่นต่อประชาชนกว่า 30 ล้านคนที่เริ่มไม่มั่นใจแล้วว่าอาจต้องฝันสลาย เพราะรัฐบาลเผชิญปัญหาข้อจำกัดด้านงบประมาณ เพราะการจัดเก็บรายได้ที่ต่ำกว่าเป้า และภาระหนี้สาธารณะที่เพิ่มสูงขึ้น ขณะที่หากขืนเดินหน้าแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตในเฟส 2 ต้องใช้งบประมาณจำนวนมหาศาล  3-4 แสนล้านบาท หากเดินหน้าต่อต้องกู้มาแจก จะได้ไม่คุ้มเสียในขณะที่ภาวะเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวดีนัก

ดังนั้นรัฐบาลแพทองธาร กำลังเหยียบมิดไมล์ เพื่อปั้มผลงานให้กับรัฐบาล ทั้ง เดินหน้าแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท เฟส 1 แก่กลุ่มเปราะบาง แต่เฟส 2 ส่อแววไม่ได้ไปต่อ , หักคอนายจ้างประกาศขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท , ตั้งซูเปอร์กุนซือ “ทักษิณ ชินวัตร” จนถูกวิจารณ์ว่า คืนชีพระบอบทักษิณ และ นโยบาย “ทักษิโณมิกส์”  รวมไปถึงลุยไฟแก้รัฐธรรมนูญริบอำนาจ “องค์กรอิสระ” สลายกับดักจริยธรรมปล่อยนักการเมืองมีมลทินได้เป็นรัฐมนตรี ต้องรอวัดฝีมือ รัฐบาลแพทองธาร 1 ฝ่าแรงเสียดทานทางการเมืองไปได้หรือไม่