“วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวบ้านน้ำเชี่ยว” ชุมชนท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม

“วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวบ้านน้ำเชี่ยว” ชุมชนท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด

บ้านน้ำเชี่ยว ตั้งอยู่ในตำบลน้ำเชี่ยว อำเภอแหลมงอบ จังหวัดตราด เป็นหมู่บ้านในเส้นทางผ่านไปท่าเรือเกาะช้าง พื้นที่ส่วนใหญ่อยู่ติดทะเล มีป่าชายเลนที่มีความอุดมสมบูรณ์อยู่เป็นจำนวนมาก  และมีคลองขนาดใหญ่ไหลผ่าน ซึ่งคลองนี้มีต้นกำเนิดอยู่ที่เขาวังปลา ที่อยู่ระหว่างอำเภอแหลมงอบ และ อำเภอเมืองตราด เมื่อถึงฤดูน้ำหลาก น้ำในคลองจะไหลเชี่ยวมาก ชาวบ้านจึงเรียกว่า คลองน้ำเชี่ยว จึงเป็นที่มาของชื่อชุมชน “บ้านน้ำเชี่ยว”

 

“บ้านน้ำเชี่ยว” เป็นชุมชนเก่าแก่กว่า 200 ปี เดิมที่นี่เป็นถิ่นที่อยู่ของชาวไทยพื้นที่ และ ชาวจีน ที่ล่องเรือสำเภามาค้าขาย ก่อนลงหลักปักฐานอยู่อาศัย ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 3 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ชาวมุสลิม ที่เรียกตัวเองว่า “แขกจาม หรือ จำปา” ได้อพยพหนีภัยสงครามจากกัมพูชา มาตั้งรกรากอาศัยอยู่เพิ่มเติม ทำให้บ้านน้ำเชี่ยว เป็นชุมชน “ 2 ศาสนา 3 วัฒนธรรม” คือ ศาสนาพุทธ-อิสลาม และ วัฒนธรรม  ไทย-จีน-มุสลิม ที่อาศัยอยู่ร่วมกันอย่างสงบสันติสุขมาช้านาน จนกลายเป็นอัตลักษณ์อันทรงเสน่ห์ ของชุมชนแห่งนี้ ที่สามารถผสมผสานความหลากวิถี ให้รวมกันเป็นหนึ่งเดียวได้อย่างกลมกลืน

 

 

จากการที่บ้านน้ำเชี่ยว เป็นชุมชนริมน้ำ ซึ่งมีป่าชายเลนที่มีความอุดมสมบูรณ์ จึงทำให้ชาวบ้านส่วนใหญ่ประกอบอาชีพประมงพื้นบ้าน โดยชาวบ้าน จะออกเรือไปจับ กุ้ง หอย ปู ปลา นำมาจำหน่าย และ มีการแปรรูปอาหารทะเลเพื่อเพิ่มมูลค่า เช่น กะปิ กุ้งแห้ง ปลาอินทรีย์เค็ม ปลาโคกแดดเดียว ปลาหมึกแห้ง เป็นต้น นอกจากนี้ ในบริเวณใกล้เคียง ยังมีการทำการเกษตรอีกด้วย ได้แก่ การปลูกยางพารา การปลูกสับปะรด และ การทำสวนผลไม้

 

 

ด้วยความโดดเด่น ที่มีวัฒนธรรม 2 ศาสนาอยู่ร่วมกัน และ มีวิถีชีวิตที่อิงอาศัยอยู่กับธรรมชาติ  ในคลองน้ำเชี่ยว ป่าชายเลน และ ทะเลอ่าวไทย ทำให้พื้นที่บ้านน้ำเชี่ยว ริเริ่มทำการท่องเที่ยว แบบโฮมสเตย์ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2547 เป็นต้นมา และ ได้จดทะเบียนเป็น วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวบ้านนํ้าเชี่ยว”  เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2555 และ ดำเนินกิจกรรมอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน โดยมี นางรสริน วิรัญโท เป็นประธานวิสาหกิจชุมชน ซึ่งช่วยขับเคลื่อนให้วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยว บ้านนํ้าเชี่ยว มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จนได้รับรางวัลการันตีคุณภาพมากมาย

 

 

 

“วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวบ้านน้ำเชี่ยว” ได้รับการพิจารณาคัดเลือกให้เป็นวิสาหกิจชุมชนดีเด่นระดับจังหวัด และ ส่งผลงานเข้าประกวดวิสาหกิจชุมชนดีเด่น ระดับเขต และ ระดับประเทศ จนได้รับรางวัลชนะเลิศ การประกวดวิสาหกิจชุมชนดีเด่นระดับประเทศ ประจำปี 2561 ซึ่งนับเป็นรางวัลแห่งความสำเร็จและ เป็นแรงผลักดันให้วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวบ้านน้ำเชี่ยว มีการดำเนินกิจกรรมและการพัฒนากลุ่มอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน

 

 

วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวบ้านนํ้าเชี่ยว นอกจากจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวโดยชุมชนชั้นนำของไทยแล้ว ที่นี่ ยังให้ความสำคัญกับการลดปริมาณคาร์บอนอย่างเป็นรูปธรรม ทำให้สามารถคว้า รางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย (Thailand Tourism Awards) หรือ รางวัลกินรี ครั้งที่ 14 ประจำปี 2566 ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ในประเภท “แหล่งท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำเพื่อความยั่งยืน ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นในการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม ควบคู่ไปกับการดำเนินกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ของชาวชุมชนได้เป็นอย่างดี

 

 

นางรสริน วิรัญโท ประธานวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวบ้านนํ้าเชี่ยว กล่าวว่า การทำกิจกรรมท่องเที่ยว โดยชุมชน ได้ช่วยพลิกฟื้นทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่บ้านน้ำเชี่ยวให้ดีขึ้น จากเดิม ที่น้ำในคลอง น้ำเชี่ยวเริ่มเน่าเหม็น ส่งกลิ่นรบกวน เมื่อนักท่องเที่ยวเริ่มมาเยือน ชาวบ้านได้ช่วยกันแก้ไขฟื้นฟู จนน้ำในลำคลองกลับมาใสสะอาดดังเดิม สัตว์น้ำในคลองที่เคยหายไปเพราะน้ำเน่าก็เริ่มกลับมา ชาวประมงก็หาปลา และ จับสัตว์น้ำได้ง่ายขึ้น ไม่ต้องออกทะเลไปไกลเหมือนช่วงที่น้ำในคลองเน่าเหม็น และ มีการจัดตั้งกลุ่มอนุรักษ์ป่าชายเลน เพื่อรักษาป่าชายเลน จากการลักลอบตัดไม้ ส่วนชาวบ้านที่ เคยลักลอบตัดไม้ในป่าชายเลน ก็หันกลับมาร่วมมือ กับ กลุ่มอนุรักษ์ด้วย จนป่าชายเลนที่บ้านน้ำเชี่ยว   ได้ชื่อว่า เป็นป่าชายเลนที่สมบูรณ์ที่สุดอันดับต้นๆ ของประเทศ นอกจากนี้ การท่องเที่ยวยังสร้างรายได้ให้กับคนในชุมชน อาทิ จากการขับเรือนำเที่ยว การเป็นนักเล่าเรื่อง การทำบ้านพักโฮมสเตย์ การทำอาหารและเครื่องดื่ม การสาธิตภูมิปัญญาพื้นบ้าน และ ศิลปะวัฒนธรรมของชุมชน รวมถึง การจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชน ของฝาก และ ของที่ระลึกให้กับนักท่องเที่ยว เป็นต้น ซึ่งส่งผลให้ชาวบ้าน  มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และ เกิดความรักความหวงแหนในชุมชนบ้านเกิดของตนเองมากขึ้น ในการทำ การท่องเที่ยวโดยชุมชนของบ้านน้ำเชี่ยว  เราเข้าใจ และ ยอมรับต่อการเปลี่ยนแปลง และมีการปรับตัว ให้เข้ากับสังคมยุคใหม่  แต่ยังคงรักษาอัตลักษณ์ และ เรื่องราวของชุมชนที่จะสื่อสารออกไปสู่นักท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่องควบคู่กันไปด้วย

 

นางรสริน วิรัญโท ประธานวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวบ้านนํ้าเชี่ยว

นายวินัย ขยันยิ่ง เกษตรจังหวัดตราด เผยว่า “วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวบ้านน้ำเชี่ยว” เป็นวิสาหกิจชุมชนที่มีความเข้มแข็ง มีการดำเนินกิจกรรมมาอย่างต่อเนื่อง มีการบริหารจัดการกลุ่มที่ดี และ สามารถเป็นต้นแบบให้กับวิสาหกิจชุมชนอื่น มาเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งสำนักงานเกษตรจังหวัดตราด    ในฐานะเลขานุการ คณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชนจังหวัดตราด ได้บูรณาการ การทำงานร่วมกับหน่วยงานภาคีที่เกี่ยวข้อง อาทิ  การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานตราด องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท. สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดตราด อุตสาหกรรมจังหวัดตราด สาธารณสุขจังหวัดตราด  วิทยาลัยชุมชนตราด สภาเกษตรกรจังหวัดตราด เป็นต้น โดยดำเนินการส่งเสริม และ พัฒนาศักยภาพของวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวบ้านน้ำเชี่ยว  อย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านการพัฒนาศักยภาพของคณะกรรมการ และ สมาชิกวิสาหกิจชุมชน การพัฒนาศักยภาพ และ ปรับปรุงภูมิทัศน์ของพื้นที่ ให้มีความพร้อมในการต้อนรับนักท่องเที่ยว  การสร้างมาตรฐานด้านการท่องเที่ยวของวิสาหกิจชุมชน การพัฒนาและยกระดับมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน ตลอดจน  การประชาสัมพันธ์กิจกรรมการท่องเที่ยวของวิสาหกิจชุมชน ให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายมากขึ้น

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

สำหรับผู้ที่สนใจมาท่องเที่ยว สัมผัสวิถีชีวิต ของชุมชนบ้านน้ำเชี่ยว กับ “วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวบ้านน้ำเชี่ยว” จะมีกิจกรรมให้ทำหลากหลาย ดังนี้

เริ่มจาก คลองน้ำเชี่ยว เส้นเลือดหลักของชาวชุมชน ซึ่งเราสามารถเดินเล่น เที่ยวชมวิถีความเป็นอยู่ที่มากไปด้วยรอยยิ้มและน้ำใจไมตรีของชาวบ้านน้ำเชี่ยวได้อย่างเพลิดเพลิน คลองน้ำเชี่ยว มีไฮไลท์ ที่เป็นภาพจำของชุมชนบ้านน้ำเชี่ยวคือ สะพานวัดใจ เป็นสะพานข้ามคลองโครงเหล็กโค้งสูง ยามสะท้อนต้องเงาน้ำ จะมองเห็นเป็นรูปวงรีสวยงาม ดูคล้ายดวงตา จึงได้รับฉายาว่าเป็น ดวงตาแห่งบ้านน้ำเชี่ยวซึ่งเป็นโลเคชั่นยอดฮิตที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูป      เช็กอิน

 

“สะพานวัดใจ” ซึ่งได้รับฉายาว่าเป็น “ดวงตาแห่งบ้านน้ำเชี่ยว” ไฮไลท์ที่ห้ามพลาดเช็คอิน

 

 

บริเวณริมคลองน้ำเชี่ยว ยังมี มัสยิดอัลกุบรอ มัสยิดแห่งแรกของภาคตะวันออก อายุเก่าแก่กว่า 200 ปี เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวมุสลิมที่นี่ ขณะที่ศูนย์รวมจิตใจของชาวพุทธที่ตั้งอยู่ไม่ไกลกัน คือ วัดน้ำเชี่ยว วัดเก่าแก่ที่รัชกาลที่ ๕ เคยเสด็จฯ มาประทับในสมัย ร.ศ. 130 ภายในวัด โดดเด่นด้วยพระอุโบสถรูปทรงสวยงาม มีพระบรมสารีริกธาตุ และ พระประจำวันเกิดปางต่าง ๆ ให้พุทธศาสนิกชน ได้กราบสักการะ นอกจากนี้ยังมี ศาลเจ้าพ่อน้ำเชี่ยว ซึ่งเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวไทยเชื้อสายจีน ในชุมชนบ้านน้ำเชี่ยว ด้วยเช่นกัน

 

“มัสยิดอัลกุบรอ” มัสยิดเก่าแก่อายุกว่า 200 ปี แห่งบ้านน้ำเชี่ยว

 

 

 

“วัดน้ำเชี่ยว” ศูนย์รวมใจของชาวไทยพุทธ

 

ศาลเจ้าพ่อน้ำเชี่ยว ศูนย์รวมใจของชาวไทยเชื้อสายจีน

 

ส่วนใครที่เป็นสายธรรมชาติไม่ควรพลาด ศูนย์ศึกษาธรรมชาติป่าชายเลน ที่มีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติทอดยาว นำชมระบบนิเวศป่าชายเลนอันอุดมสมบูรณ์ โดยมีไฮไลท์ เป็น หอดูนก สูงกว่า 12 เมตร ให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปดูนก และ ชมวิวทิวทัศน์ของป่าชายเลนได้ 360 องศา

 

ศูนย์ศึกษาธรรมชาติป่าชายเลนบ้านน้ำเชี่ยว

 

หอดูนกชมวิวทิวทัศน์ของป่าชายเลนบ้านน้ำเชี่ยว

 

จากนั้น ล่องเรือชมวิถีชีวิตริมน้ำ การทำประมงพื้นบ้าน ชมป่าชายเลนบ้านน้ำเชี่ยว ที่อุดมสมบูรณ์ สูดโอโซนให้เต็มปอด  ซึ่งนักท่องเที่ยว สามารถร่วมกิจกรรมธรรมชาติ และ สิ่งแวดล้อมกับกิจกรรม การปลูกป่าชายเลน และ การปล่อยปูคืนสู่ทะเล โดยทางชุมชนมีการทำธนาคารปู และ ห้ามพลาดกิจกรรม การงมหอยปากเป็ดกระจู๋ทะเล และต้องไม่พลาด ลองลิ้มชิมรส ซาซิมิกระจู๋ทะเล เมนูแปลกขึ้นชื่อของชุมชนบ้านน้ำเชี่ยว  ทานกันสดๆ บนเรือ โดยทานคู่กับน้ำจิ้มซีฟู๊ด หรือ น้ำพริกเกลือ ของชาวตราด หากใครได้ลองแล้ว จะติดใจมิรู้ลืม

 

 

กิจกรรมการปลูกต้นโกงกางเพื่ออนุรักษ์ป่าชายเลน

 

กิจกรรมการงมหอยปากเป็ด

 

การงมกระจู๋ทะเล

 

ชิมซาซิมิกระจู๋ทะเลสดๆ จากทะเล

 

กิจกรรมการเรียนรู้หัตถกรรมภูมิปัญญาพื้นบ้านที่สืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น  งอบน้ำเชี่ยว ซึ่งเป็น  ของฝากขึ้นชื่อของอำเภอแหลมงอบ จังหวัดตราด โดย งอบน้ำเชี่ยว ทำมาจากใบจาก ฝีมือประณีตสวยงาม ประกอบด้วย 5 รูปทรงให้นักท่องเที่ยวได้เลือกซื้อ ได้แก่ ทรงกระทะคว่ำ ทรงยอดแหลม ทรงกระดองเต่า ทรงกะโหลก และ ทรงสมเด็จ นอกจากนี้นักท่องเที่ยวสามารถลงมือปฏิบัติ ฝึกเย็บงอบ ด้วยตนเองได้อีกด้วย

 

 

 

นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ที่ชุมชนได้พัฒนาขึ้นมา เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เข้าร่วมกิจกรรม    คือ กิจกรรมการทำเครื่องประดับดินปั้น จากเปลือกหอยเหลือใช้  หรือ หอยคราฟต์เป็นการนำเปลือกหอยเหลือทิ้งจากชุมชน มาแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่า เพื่อลดมลภาวะในชุมชนและสิ่งแวดล้อม ตามหลัก BCG Model โดยนักท่องเที่ยวจะได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์ ในการออกแบบและประดิษฐ์เครื่องประดับ จากปูนเปลือกหอยด้วยตนเอง ซึ่งเป็นกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวชื่นชอบเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ ยังมีของ    ที่ระลึกจากเปลือกหอยเหลือใช้จำหน่ายอีกด้วย เช่น พวงกุญแจ แม่เหล็กติดตู้เย็น แหวน ต่างหู จี้ห้อยคอ และ เข็มกลัด เป็นต้น

นางรสริน วิรัญโท ประธานวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวบ้านน้ำเชี่ยว กล่าวว่า กลุ่มนักศึกษา U2T  ตำบลน้ำเชี่ยว และ คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี นำโดย อ.ดร.นฤมล เลิศคำฟู  ผศ.ภัทรา ศรีสุโข และ อ.ภัทรบดี พิมพ์กิ  ได้ลงพื้นที่ มาถ่ายทอดองค์ความรู้และนวัตกรรม     ในการนำเปลือกหอยเหลือทิ้งในชุมชน มาแปรรูปเพิ่มมูลค่า เป็นผลิตภัณฑ์ของใช้และเครื่องประดับ โดยใช้ชื่อว่า  “หอยคราฟต์” ซึ่งชุมชุมได้มีการพัฒนาต่อยอด เป็นผลิตภัณฑ์ของฝากของที่ระลึก และได้รับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน (มผช.) จากสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดตราด และได้นำมาเป็นหนึ่งในกิจกรรม ที่ให้นักท่องเที่ยวได้ลงมือปฏิบัติเมื่อมาเที่ยวที่ วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวบ้านน้ำเชี่ยว

 

 

 

 

 

กิจกรรมการทำขนม ทองกรอบดอกไม้เป็นการนำภูมิปัญญาพื้นบ้านในการทำขนมทองม้วนมาประยุกต์โดยนำเอาดอกไม้ที่สามารถรับประทานได้ มาเป็นส่วนประกอบของขนม เช่น  ดอกทองอุไร ดอกเฟื่องฟ้า ดอกลีลาวดี ดอกอัญชัน เป็นต้น เพื่อช่วยสร้างสีสันให้ขนมน่ารับประทานมากยิ่งขึ้น  และ ดอกไม้บางชนิดยังมีสรรพคุณทางยาอีกด้วย

 

 

 

 

ขนมทองกรอบดอกไม้

ในปี 2567 วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวบ้านน้ำเชี่ยว ได้เข้ารับการประเมินมาตรฐานวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ภายใต้กิจกรรม การส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของจังหวัดตราด (Trat Wellness & Safety Tourism) และ ยังได้รับรางวัลท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ระดับดีเยี่ยม ในระดับประเทศอีกด้วย โดยวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวบ้านน้ำเชี่ยว มีกิจกรรมด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพที่น่าสนใจ คือ การแช่เท้าสมุนไพรและเมนูอาหารเป็นยา

 

 

 

สำหรับกิจกรรมการแช่เท้าสมุนไพร วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวบ้านน้ำเชี่ยว ได้นำภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย มาประยุกต์ใช้ในการดูแลสุขภาพ โดยนำสมุนไพรที่มีในชุมชนมาต้ม แล้วนำมาใช้   ในการแช่เท้าและมือ ซึ่งมีประโยชน์ในการช่วยคลายกล้ามเนื้อ ขับสารพิษออกจากร่างกาย และช่วยปรับสมดุลร่างกาย  เป็นกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวจะได้ผ่อนคลาย หลังจากที่เหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางไกลหรือความอ่อนล้าจากการทำงาน

 

 

 

สำหรับ เมนูอาหารเป็นยาเมื่อมาเที่ยวที่ วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวบ้านน้ำเชี่ยว จะได้รับประทานอาหารทะเลพื้นบ้าน ซึ่งใช้วัตถุดิบสดใหม่จากชุมชนที่ปลอดภัยจากสารพิษจากโรงงานอุตสาหกรรม และเมนูอาหาร ที่มาถึงแล้วพลาดไม่ได้ก็คือ เมี่ยงพล่าปลาโคก เป็นเมนูอาหารพื้นบ้าน ที่มีการนำวัตถุดิบเนื้อปลาโคกที่มีเป็นจำนวนมากในชุมชน มาเพิ่มมูลค่า สร้างจุดขายให้น่าสนใจ มีวิธีการรับประทาน คล้ายกับเมี่ยงคำ โดยรับประทานคู่กับผักสมุนไพร และ น้ำพริกถั่วรสชาติจัดจ้านอร่อยลงตัว และ น้ำตะไคร้ใบเตย เครื่องดื่มสมุนไพรเพื่อสุขภาพ ที่มีสรรพคุณ ช่วยลดน้ำตาลในเลือด บำรุงหัวใจ แก้อาการท้องอืดท้องเฟ้อ จุกเสียดในช่องท้อง และ ช่วยให้ระบบย่อยอาหารดีขึ้น จัดเสิร์ฟคู่กับ ขนมทอง  กรอบดอกไม้ หรือ ขนมไทยพื้นบ้านอื่นๆ พร้อมตกแต่งด้วยดอกกุหลาบจากใบเตย และ ใช้หลอดจากต้นตะไคร้ แทน หลอดพลาสติก นอกจากจะรสชาติหอมหวานชื่นใจดีต่อสุขภาพแล้ว ยังรักษ์โลก อีกด้วย

 

 

 

เมนูอาหารเป็นยา “เมี่ยงพล่าปลาโคก”

 

เมนูอาหารเป็นยา “น้ำตะไคร้ใบเตย”

 

ทั้งนี้ วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวบ้านน้ำเชี่ยว เป็นอีกหนึ่งสถานที่ปักหมุด ที่ไม่ควรพลาดสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบธรรมชาติ และ วิถีชีวิตวัฒนธรรม ซึ่งมีกิจกรรมท่องเที่ยวหลากหลายให้เลือกทำ ทั้งแบบ One Day Trip และ การพักค้างแบบโฮมสเตย์ ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวบ้านน้ำเชี่ยว เบอร์โทรศัพท์ 089-2446702 (คุณรสริน ประธานวิสาหกิจชุมชน) และ 061-660 0955 (คุณนาง ฝ่ายประสานงาน) หรือ ติดต่อทางเพจเฟสบุ๊ค “วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวบ้านน้ำเชี่ยว”

 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ออกหมายจับ "หมอบุญ" พร้อมพวกรวม 9 คน “ฉ้อโกง-ฟอกเงิน” ปลอมลายเซ็นอดีตลูกสะใภ้กู้เงิน 8 พันล้าน
ระทึกกลางดึก ไฟไหม้ "ร้านกาแฟ" เผาวอดทั้งหลัง เสียหายกว่า 7 แสนบาท
"อุตุฯ" เผย "เหนือ-อีสาน-กลาง" อากาศเย็นตอนเช้า เตือนใต้ยังรับมือฝนตก
แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนครอบครัวกำลังพล ห่วงใยไปถึงบ้าน เพราะเราคือครอบครัวกองทัพบก
สวนนงนุชพัทยาเปิดเวที CHONBURI PROUD EXPO 2024 หนุน SMEs ชลบุรีสู่ตลาดโลก
“เอกภพ” ได้ประกันตัว ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ปมให้ข้อมูลเท็จดิไอคอน จ่อฟ้องกลับ
สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น