CNN รายงานเมื่อวานนี้ (เสาร์ที่ 21 กย.)ว่าแฮร์ริสได้ตอบรับคำเชิญของสำนักข่าว CNN หลังได้รับคำเชิญให้เข้าร่วมการดีเบตรอบที่สองกับทรัมป์ในวันพุธที่ 23 ตุลาคมที่จะถึงนี้ โดยเจน โอแมลลี่ ดีเลิน หัวหน้าทีมหาเสียงของแฮร์ริสแถลงว่ารองประธานาธิบดีแฮร์ริสพร้อมที่จะขึ้นเวทีประชันวิสัยทัศน์อีกรอบกับทรัมป์ พร้อมกล่าวในเชิงท้าทายว่าหวังว่าทรัมป์จะไม่มีปัญหาในขึ้นดีเบตครั้งนี้
อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ได้ออกมาปฏิเสธที่จะเข้าร่วมดีเบตรอบสองกับแฮร์ริส โดยบอกว่าช้าไปแล้ว เพราะชาวอเมริกันบางส่วนได้เข้าคูหาใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้าใน 3 รัฐแล้ว
การดีเบตครั้งแรกระหว่างทรัมป์กับไบเดนที่สตูดิโอของ CNN เมื่อวันที่ 27 มิถุนายนกลายเป็นจุดพลิกผันสำคัญของศึกเลือกตั้งสหรัฐ ทำให้ไบเดนถอนตัวจากการแข่งขันและแฮร์ริสกลายมาเป็นคู่ชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีแทน
CNN ได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงถึงเหตุผลที่จัดดีเบตรอบที่สองระหว่างทรัมป์กับแฮร์ริสว่าเพื่อให้ชาวอเมริกันได้รับฟังนโยบายและข้อมูลที่ต้องการจะรู้แต่ยังไม่รู้เพื่อใช้ในการตัดสินใจในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนที่จะถึงวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐวันที่ 5 พฤศจิกายน
ทั้งนี้นักวิเคราะห์ชี้ว่าแม้แฮร์ริสจะมีคะแนนตีตื้นจนขึ้นมาเทียบเท่าและบางช่วงก็สูงกว่าทรัมป์ แต่ดูเหมือนว่าแฮร์ริสยังไม่ได้ตอบคำถามในสิ่งที่ชาวอเมริกันจำนวนมากอยากรู้ เวลาปราศรัยหรือดีเบต แฮร์ริสมักจะพูดถึงนโยบายในภาพใหญ่ๆ โดยไม่ชี้แจงถึงรายละเอียดหรือโรดแม็พ โดยเฉพาะนโยบายเศรษฐกิจ ยกตัวอย่างการสัมภาษณ์เมื่ออังคารที่แล้ว เมื่อผู้ดำเนินรายการถามว่าแฮร์ริสจะช่วยลดภาระครอบครัวชาวอเมริกันที่ต้องเลี้ยงดูบุตรและพ่อแม่อย่างไรภายใต้สภาพเศรษฐกิจที่บีบรัดแบบนี้ แฮร์ริสตอบว่าเธอจะช่วยให้แต่ละครอบครัวรับภาระค่าใช้จ่ายเหล่านี้ไม่เกิน 7% ของรายได้ แต่ไม่ได้ชี้แจงว่าจะทำอย่างไรและจะหาเงินที่ไหนมาสนับสนุน อีกประเด็นคือสงครามอิสราเอล-ฮามาส ที่แฮร์ริสสามารถพูดได้ฉะฉานและมีพลังว่าจะต้องยุติสงครามให้ได้ และเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยจะต้องบรรลุข้อตกลงหยุดหยิงและแลกเปลี่ยนตัวประกัน แต่ไม่บอกรายละเอียดและขั้นตอนว่าจะทำอย่างไร