ศึกนี้ “พท.” ถอยกรูด ทิ้ง “ลุงชาญ” ชนักปักหลังเพียบ ปล่อย “บิ๊กแจ๊ส” ชนะน็อค

ยิ่งล่าสุด ศาลอาญาคดีทุจริตเเละประพฤติมิชอบภาค 1 สระบุรี นัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 24 ตุลาคม 2567 คดีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง “ชาญ พวงเพ็ชร์” เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกอบจ.ปทุมธานี กับพวกรวม 7 คน ในข้อหาความผิด  กรณีถูกกล่าวหาว่า ทุจริตในการจัดซื้อถุงยังชีพในโครงการช่วยเหลือแก้ไขปัญหาอุทกภัยใน จังหวัดปทุมธานี จำนวน 2 ครั้ง เมื่อปี 2554 มูลค่าหลายล้านบาท

ดังนั้น “ชาญ พวงเพ็ชร์” มีชนักปักหลังถึง 2 คดี คือ คดีเก่าเรื่องทุจริตจัดซื้อจัดจ้างชะตากรรมร่อแร่ รอดหรือร่วง?  และคดีใหม่สดๆร้อนๆ โดน “กกต.”ฟันซ้ำ เพราะทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง  จึงไม่แปลกเหตุใดการเลือกตั้งครั้งนี้ “ชาญ พวงเพ็ชร์” ไม่ได้รับการสนับสนุนจากพรรคเพื่อไทย  และแม้ “ชาญ พวงเพ็ชร์” ชนะกลับมาชนะเลือกตั้ง ก็ต้องลุ้นระทึกว่าจะรอดหรือร่วงในคดีทุจริต จึงกลายเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้คนปทุมธานีเทคะแนนให้ “บิ๊กแจ๊ส” ดีกว่า

ยิ่งได้ยินคำประกาศชัยชนะ “บิ๊กแจ๊ส” พูดเต็มปากเต็มคำว่า การแข่งขันครั้งนี้ไม่เกี่ยวกับรัฐบาลเพื่อไทย เป็นการห้ำหั่นกันตัวต่อตัวกับ “ชาญ พวงเพ็ชร์” พรรคเพื่อไทยไม่เกี่ยว  เพราะแม้แต่ “ชาญ พวงเพ็ชร์” พูดเองว่า ไม่มีพรรคเพื่อไทยหรือแกนนำมาช่วยหาเสียงแม้แต่คนเดียว เพราะใบเหลืองที่ตนเองได้  จึงไม่อยากดึงให้พรรคเพื่อไทยมาเกี่ยวข้องให้บอบช้ำ  ทำให้คนปทุมธานีเบื่อพรรคเพื่อไทย  รวมถึง “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี ที่เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยและ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกฯ ที่ถูกนำมาพาดพิงในจังหวัดปทุมธานี ว่ามีสส.พรรคเพื่อไทยแค่คนเดียว

ช่วงโค้งสุดท้ายในการเลือกตั้งซ่อม “บิ๊กแจ๊ส” ชูสโลแกน “เลือกผมพร้อมทำงานทันที” เพราะทราบดีว่าการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา “ชาญ พวงเพ็ชร์” ชนะเลือกตั้งมาได้ แต่ถูกร้องเรียนทำผิดกฎหมายเลือกตั้งและมีชนักปักหลังคดีทุจริต จึงทำให้การบริหารจังหวัดปทุมธานี เป็นสุญญากาศถึง 60 วัน จนกระทั่ง “กกต.” แจกใบเหลือง “ชาญ พวงเพ็ชร์” สั่งเลือกตั้งซ่อม ย่อมทำให้คนปทุมธานีเบื่อการเมืองเทคะแนนให้ “บิ๊กแจ๊ส” ดีกว่า เพราะประวัติขาวสะอาดไม่มีชนักปักหลังและทำงานได้ทันที