กยศ.แจงชัด ประเด็นดราม่า ยึดทรัพย์สาว อบต. ชี้ขอให้มาปรับโครงสร้างหนี้
ข่าวที่น่าสนใจ
กองทุนได้ตรวจสอบแล้วพบว่า ผู้กู้ยืมรายดังกล่าวถูกดำเนินคดีตั้งแต่ปี 2557 ซึ่งเคยตกลงทำตามสัญญาประนีประนอมยอมความในการผ่อนชำระ 108 งวด เริ่มชำระตั้งแต่งวด 5 สิงหาคม 2557 – 5 กรกฎาคม 2566 ต่อมากองทุนได้มีหนังสือแจ้งหักเงินเดือนผู้กู้ยืมตามจำนวนที่ทำสัญญาประนีประนอมยอมความตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2562 เป็นต้นมา อย่างไรก็ตามเนื่องจากจะครบอายุความบังคับคดี กองทุนจึงหยุดการหักเงินเดือนและได้แจ้งให้ผู้กู้มาติดต่อปรับโครงสร้างหนี้ แต่ผู้กู้ไม่ได้ติดต่อกลับมา กองทุนจึงจำเป็นต้องดำเนินการเตรียมบังคับคดีเพื่อมิให้ขาดอายุความ ทั้งนี้หนังสือที่ผู้กู้ยืมได้รับดังกล่าวเป็นหมายสวมสิทธิเท่านั้น กองทุนฯยังไม่ได้ยึดทรัพย์แต่อย่างใด
นายชัยณรงค์ ระบุอีกว่า ที่ผ่านมา กองทุนฯ ได้ดำเนินการคำนวณหนี้ใหม่ให้แก่ผู้กู้รายนี้แล้ว จากเดิมผู้กู้ยืมรายดังกล่าวมีภาระหนี้คงเหลือประมาณ 120,000 บาท และเมื่อคำนวณหนี้ใหม่แล้วมียอดหนี้คงเหลือ ประมาณ 60,000 บาทเศษ โดยผู้กู้สามารถตรวจสอบภาระหนี้ได้ที่เว็บไซต์ www.studentloan.or.th อีกทั้งผู้กู้ยืมรายดังกล่าว ยังมีสิทธิเข้าทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้เพื่อขยายระยะเวลาผ่อนชำระเงินคืนกองทุนฯ เป็นรายเดือนออกไปอีก 15 ปี เมื่อชำระหนี้งวดสุดท้ายเสร็จสิ้นกองทุนฯ จะให้ส่วนลดเบี้ยปรับเดิมที่ตั้งพักไว้ทั้งหมด 100% และปลดภาระผู้ค้ำประกันทันทีหลังจากทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ หากผู้กู้ยืมรายนี้ประสงค์จะปรับโครงสร้างหนี้ กองทุนฯ จะใช้ยอดหนี้ที่ได้คำนวณใหม่นี้ในการทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้
ทั้งนี้ หากผู้กู้ยืมรายใดที่อยู่ระหว่างกระบวนการดำเนินคดี/บังคับคดี ขอให้มาติดต่อปรับโครงสร้างหนี้ ซึ่งจะส่งผลให้ผู้กู้สามารถกลับมาชำระหนี้ได้ตามปกติ ซึ่งเงินที่ผู้กู้ยืมชำระหนี้คืนกองทุนฯ จะเป็นทุนหมุนเวียนเพื่อส่งต่อโอกาสทางการศึกษาให้แก่นักเรียน นักศึกษา รุ่นน้องต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง