กลายเป็นเรื่อง ตร.จ่อเอาผิด “พ่อแม่-ครู” ปล่อยเด็กนร.เล่นพิเรนทร์วางหินบนรางรถไฟ

กลายเป็นเรื่อง ตำรวจเรียกผู้ปกครอง และ ครู เข้ารับทราบข้อหา และทำทัณฑ์บน กรณีกลุ่มนักเรียน คึกคะนอง ฝ่าแนวกั้น และ สัญญาณเตือน เข้าไปวางหินบนรางรถไฟ ย้ำหากเกิดกรณีซ้ำ ทั้งครูและผู้ปกครอง ต้องถูกดำเนินคดีผิด พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546

กลายเป็นเรื่อง ตร.จ่อเอาผิด “พ่อแม่-ครู” ปล่อยเด็กนร.เล่นพิเรนทร์วางหินบนรางรถไฟ – Top News รายงาน

จากกรณีผู้ใช้บัญชีแอปพลิเคชั่น X ชื่อบัญชี Mr.Hap โพสต์คลิปวินาทีเด็กชายสวมชุดลูกเสื้อสามัญ พากันนำหินมาวางบนรางรถไฟ ขณะที่เครื่องกั้นและสัญญาณเตือนดังขึ้น พร้อมระบุข้อความว่า “จุดทางตัดเครื่องกั้นตรงนี้ค้างบ่อยๆเป็นเวลาหลายปีแล้ว เด็กนักเรียนไม่มีอะไรจะเล่นเอาก้อนหินไปวางรางรถไฟ อันตรายมากๆ” ซึ่งหลังโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่และแชร์ต่อๆกันไป ชาวเน็ตต่างเข้ามาคอมเมนต์วิพากษ์วิจารณ์เป็นวงกว้างถึงความไม่ปลอดภัย

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

วันนี้(24 ก.ย.67) ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ ซอยเอกชัย 23 แขวงบางขุนเทียน เขตจอมทอง บริเวณชาญชาลาวัดไทร ซึ่งเป็นจุดที่รางรถไฟตัดกับถนนเอกชัย 23 ซึ่งใกล้กับชุมชน และโรงเรียน จากการสอบถามชาวบ้านได้ข้อมูลว่า ช่วงเย็นบริเวณนี้จะเงียบและไม่ค่อยมีคนพลุกพล่าน ส่วนกลุ่มเด็กที่ปรากฏในคลิป เป็นเด็กจะกลับบ้านหลังเลิกเรียนเป็นประจำ และเกิดนึกสนุกและคึกคะนอง จึงนำหินไปเรียงบนรางรถไฟ ขณะที่รถเคลื่อนขบวนเข้ามาใกล้ลานชาลา โดยไม่มีใครเข้าไปว่ากล่าวตักเตือน โดยไม้กั้นที่จุดนี้จะเป็นระบบ อัตโนมัตินานๆ จะมีเจ้าหน้าที่มาดูแล จึงมักจะขัดข้องและค้างบ่อยๆ นอกจากนี้ จากการตรวจสอบยังพบว่า แนวไม้กั้นยังมีความยาวเพียงครึ่งของความกว้างถนนเอกชัย จึงเป็นช่องให้รถจยย. หรือคนฝ่าแนวกั้นเข้าไปได้

ด้าน นาวสาวทรงพร อายุ 44 ปี เจ้าของร้านขายของชำ ซึ่งเป็นเจ้าของกล้องวงจรปิดที่บันทึกภาพไว้ได้ เล่าว่า เมื่อวันพฤหัสที่ 19 กันยายน ช่วงเวลาประมาณ 16:00-17:00 น. ตัวเองนั่งอยู่ในร้านและได้ยินเสียงรถไฟทับบดก้อนหินเสียงดังมาก และได้ยินเสียงเด็กๆเล่นกัน จึงไปย้อนกล้องวงจรปิดนอกร้านดู ก็พบว่า มีเด็กนำก้อนหินมาวางบนรางรถไฟ

ขณะนั้นหากตัวเองเห็นเหตุการณ์จะรีบเข้าไปเตือนเพราะรู้สึกว่าอันตรายมากเพราะจากภาพวงจรปิดจะเห็นว่า เด็กๆวิ่งเข้าไปในรางรถไฟเพื่อวางหินโดยที่ไม่มองรถไฟเลย ซึ่งยังโชคดีที่ตอนนั้นรถไฟวิ่งมากจากทางสถานีตลาดพลู ซึ่งเป็นขาส่งผู้โดยสารจึงขับช้า ส่วนตัวมองว่าไม่ว่าใครเด็กหรือผู้ใหญ่ก็ไม่ควรเล่นหรือเข้าไปในรางรถไฟ จึงอยากให้ทางผู้ปกครองเด็กๆ รวมถึงโรงเรียนคอยเตือนเด็กๆให้ระวัง

ด้านคุณ อุดร ภัสสรวุฒิเลิศ ที่พักอาศัยอยู่ใกล้เคียงบริเวณนั้นเล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ตนเองก็เห็นเหตุการณ์ ขณะเด็กๆวิ่งเอาก้อนหินมาวางตรงรางรถไฟเพื่อให้รถไฟเหยียบ แต่ก็ไม่อยากให้ทำครับ หากเกิดอันตรายต่อประชาชนที่สัญจรไปมาหรือ ทำให้รถไฟล้ม ก็อาจจะเป็นอันตรายได้ เลยอยากฝากบอกผู้ปกครองหรือโรงเรียนช่วยเข้มงวดกวดขันและห้ามปรามเด็กๆไม่ให้ทำอย่างนี้อีกเพราะอันตรายมาก

โดยวันนี้ อาจารย์ ประจำโรงเรียน ของกลุ่มเด็ก และผู้ปกครอง ได้เดินทาง เข้ารับทราบข้อกล่าวหาเบื้องต้น และให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยพ.ต.ต. กฤษฏ์ นพเดชกุลจิรา สารวัตรปราบปราม สน.บางขุนเทียน ให้ลงบันทึกประจำวันและทำทัณฑ์บนกับผู้ปกครองและอาจารย์ ซึ่งหากปล่อยปละละเลยให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ซ้ำอีก ถือว่า ยุยงส่งเสริมซึ่งเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 มาตรา 64 และ 85 ต้องระวังระวังโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือนหรือปรับไม่เกิน 30,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ โดยอาจารย์และผู้ปกครองได้รับทราบข้อหาและลงชื่อไว้เป็นหลักฐานพร้อมรับปากจะดูแลกลุ่มนักเรียนไม่ให้กระทำเช่นนี้อีก

 

ตร.จ่อเอาผิด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ตร.รวบ "นักต้มตุ๋น Apple watch" ก่อเหตุนับไม่ถ้วน ออกจากเรือนจำไม่ถึงปี วนมาก่อเหตุซ้ำอีก
เอาจริง "โคราช" จับ 17 มือเผาก่อฝุ่นพิษ PM2.5 ย้ำชัดห้ามเผาวัชพืชสองข้างทางเด็ดขาด
"ผู้ว่าฯ นครสวรรค์" ขึ้น ฮ.บินสำรวจสถานการณ์ไฟป่าเขาหลวง พร้อมให้กำลังใจ จนท.
ด่วน! "อนุทิน" ส่งหนังสือจี้ถาม "เลขาฯสมช." สอบให้ชัดคู่สัญญา 5 จุดขายไฟฟ้าเมียนมา กระทบความมั่นคงชาติหรือไม่
"ปิยบุตร" หวั่นไหวแทนส้ม แขวะ "ทักษิณ" ช่วยหาเสียงชิงนายกอบจ. อ้างเชื่อมโยงรัฐขัดหลักกระจายอำนาจ
"พิพัฒน์" นำประชุมใหญ่กระทรวง ย้ำนโยบายขยายโอกาสแรงงานไทย ประกาศเป้าธงปี 70 ส่ง 2 แสนคน บินตปท.สร้างรายได้กลับประเทศ
เมียนมาขยายสถานการณ์ฉุกเฉินอีก 6 เดือน
‘เสี่ยวชี’ หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์อวยพรตรุษจีน
ตร.บุกรวบโมเดลลิ่งสาวเก๊ หลอกสาวไทยไปทำงานในเมียนมา สุดท้ายบังคับค้ากาม หากไม่ทำจับขังเดี่ยว
ตร.ไซเบอร์ รวบ 2 ผู้ต้องหา ถ่ายคลิปอนาจารเด็กขาย โดนแจ้งข้อหาหนักฐานค้ามนุษย์

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น