ข่าวที่น่าสนใจ
นางสาวจิราพร เปิดเผยว่า สคบ.จะมีการเชิญผู้ที่ได้รับความเสียหาย ผู้ขายหรือผู้ประกอบการ รวมถึงผู้ให้บริการแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ได้จดทะเบียนขายโดยตรงกับ สคบ.เข้ามาให้ข้อมูลเช่นเดียวกัน
โดยในเวลา 13.00 น. ของวันนี้ สคบ.ก็ได้มีการส่งเจ้าหน้าที่ไปร้านที่เป็นประเด็นดังกล่าว เพื่อเก็บข้อมูลมาเป็นตัวอย่าง รวมถึงสอบถามรายละเอียด เพื่อทำการนัดทุกฝ่ายเข้ามาหารืออีกครั้ง ซึ่งคาดว่าภายใน 1-2 สัปดาห์นี้
สำหรับคนที่ไม่สามารถขายคืนกับร้านได้นั้น นายสาวจิราพร กล่าวว่า ส่วนนี้มีกฎหมายควบคุมอยู่แล้ว คือการคืนสินค้าได้ ภายใน 7 วัน ทั้งกรณีไม่ตรงปก และไม่พอใจสินค้า หากซื้อขายบนแพลตฟอร์มที่จดทะเบียนแบบขายโดยตรงกับ สคบ. ส่วนกรณีหากเกินระยะเวลากำหนด แต่ตรวจพบว่า สินค้าเป็นของที่ซื้อไม่ตรงตามที่โฆษณาไว้ หรือมีฉลากไม่ตรงตามที่ประกาศกฎหมาย ก็จะให้ สคบ.เข้าไปช่วยเหลือตรงนี้เพิ่มเติม เพื่อพิสูจน์ทราบย้อนหลัง
สำหรับกรณีที่ผู้ประกอบการอ้างว่า ไม่เคยระบุว่า เป็นของจริง หรือปลอมนั้น นางสาวจิราพร ย้ำว่า ต้องมีการตรวจสอบเรื่องการโฆษณา ว่ามีการโฆษณาให้เกิดความเข้าใจสารสำคัญของสินค้าหรือไม่ ส่วนการทำโปรโมชั่น ซึ่งมีของแถมนั้น ก็ต้องตรวจสอบว่ามีการทำผิดกฎกระทรวงหรือไม่ หากพบว่าผิดจริง จะมีการดำเนินการทางกฎหมาย
ทั้งนี้ เข้าใจว่ามีผู้เสียหายบางกลุ่ม ได้เข้าไปร้องเรียนกับทางตำรวจแล้ว แต่ผู้เสียหายก็สามารถมาร้องเรียนกับ สคบ.ได้ในหลายช่องทาง อย่างไรก็ตาม คงต้องมีการประชาสัมพันธ์เชิงรุกให้กับผู้บริโภคในการเลือกซื้อทองว่า ควรจะซื้อกับร้านที่มีความน่าเชื่อถือ และต้องมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีนี้ก่อนด้วยว่า ได้ทำตามหลักเกณฑ์การซื้อขายทองหรือไม่ ซึ่งต้องมีการตรวจสอบร้านอื่นๆ ด้วยเช่นกัน
เมื่อถามว่า หากผิดจริงจะมีบทลงโทษอย่างไรบ้าง นางสาวจิราพร ระบุว่า มีทั้งโทษจำคุก และโทษปรับ แต่เรื่องการดำเนินคดีนั้น เป็นเรื่องของสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่จะต้องตรวจสอบต่อไป ย้ำว่า สคบ.พร้อมดูแลผู้บริโภคที่ซื้อบริการที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
