เมื่อสอบถาม นางประเทือง นาคประดิษฐ์ อายุ 76 ปี เจ้าของสุนัขพิทบูล บอกว่า หลังตนได้ยินเสียงหมากัดกันจึงเดินออกไปดู พอเข้าไปดูใกล้ๆ พบ ป้าแก้ว ผู้เสียชีวิต ร้องบอกตนว่าถูกหมากัด ตนจึงเข้าไปจับเชือกที่คล้องคอสุนัขพิทบูล พร้อมตะโกนเรียกลูกชายของป้าแก้ว ให้มาช่วยเหลือ เมื่อลูกชายป้าแก้ว มาถึง จึงรีบเข้าไปอุ้มป้าแก้ว เอาไปไว้บนถนนภายในซอยดังกล่าว

ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปบ้านเลขที่ 42/2 หมู่ 1 ต.เชียงรากน้อย อ.สามโคก จ.ปทุมธานี พบสุนัขสายพันธ์พิทบูลเพศผู้ อยู่ในกรงข้างบ้านรวมกับหมาพันธุ์ไทย จากนั้นได้พูดคุยกับ นางเกียรติกนก แทนแล อายุ 48 ปี เจ้าของสุนัขพิทบูล เล่าใหฟังว่า หมาตัวนี้ชื่อ “โป้ยก่าย” ซึ่งลูกสาวคนโตเอามาเลี้ยงได้ 5 ปีที่แล้ว โดยเลี้ยงรวมกับหมาไทยอีก 6 ตัว ปกติแล้วโป้ยก่าย ไม่เคยกัดใคร แต่มาช่วงหลังได้กัดลุงที่เป็นญาติกัน 2 ราย และลูกสาวคนเล็กเพิ่งถูกกัดได้ไม่นานซึ่งต้องไปล้างแผลทุกวัน ทั้งนี้คาดว่า เจ้าโป้นก่าย น่าจะกระโดดหนีออกจากกรงเพื่อไปเที่ยวเล่น ก่อนเจอป้าแก้ว จึงกัดขย้ำจนเสียชีวิต

ขณะที่น.ส.ญาดารัตน์ นาคประดิษฐ์ อายุ 17 ปี ลูกสาวเจ้าของหมาพิทบูล บอกว่า สุนัขตัวนี้พี่สาวเอามาเลี้ยง ซึ่งตนโดนกัดเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ขระที่ นายประทีป นาคประดิษฐ์ อายุ 55 ปี ยืนยันว่า เคยโดนหมาตัวนี้กัดที่ก้นด้วยเช่นกันแต่นานมาแล้ว

ด้านนายบุญทวี มากผ่อง อายุ 41 ปี ลูกชายผู้เสียชีวิต บอกว่า บ้านของตนกับบ้านที่เลี้ยงหมาพิทบูล อยู่ห่างกันประมาณ 100 เมตร โดยตนอาศัยอยู่กับแม่กับพี่ชาย โดยอยากถามเจ้าของหมาว่า หากรู้ว่าหมาดุ ก็ไม่ควรปล่อยหมาออกมานอกบ้าน และถ้าหากดูแลหมาดีๆ ก็คงไม่เกิดเหตุการณ์เศร้าสลดเช่นนี้

ขณะที่พ.ต.ท.กฤชฐา ปทุมแก้ว สารวัตรสอบสวน สภ.สามโคก กล่าวว่า จากตรวจสอบที่เกิดเหตุ และบันทึกภาพไว้เป็นหลักฐาน ได้ให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิปอเต็กตึ้งนำร่างผู้เสียชีวิตไปให้แพทย์สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ทำการชันสูตรพลิกศพเพื่อสืบหาสาเหตุของการเสียชีวิตที่แน่ชัดอีกครั้ง ก่อนดำเนินคดีกับเจ้าของสุนัขต่อไป