“พร้อมพงศ์” หอบหลักฐาน “บิ๊กป้อม” ลาประชุม 84 ครั้ง จ่อร้อง ป.ป.ช. สอบต่อ หลังพบโฉบมาสภาฯ ใช้คนเสียบบัตรเข้าประชุมแทน ตะเพิดแรงให้ลาออก

"พร้อมพงศ์"หอบหลักฐาน "พลเอกประวิต" ลาประชุม 84 ครั้ง ฝังลูกนิมิตร-จัดงานวันเกิด-เชียร์วอลเลย์ จ่อร้อง ป.ป.ช.หลังพบโฉบมาสภาฯ แบบพญาอินทรี ใช้คนเสียบบัตรเข้าประชุมแทน ไล่ให้ลาออก เปิดทางคนรุ่นใหม่ทำหน้าที่

“พร้อมพงศ์” หอบหลักฐาน “บิ๊กป้อม” ลาประชุม 84 ครั้ง จ่อร้อง ป.ป.ช. สอบต่อ หลังพบโฉบมาสภาฯ ใช้คนเสียบบัตรเข้าประชุมแทน ตะเพิดแรงให้ลาออก – Top News รายงาน

พร้อมพงศ์

 

วันที่ 25 ก.ย.67 ที่รัฐสภา นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีต สส.พรรคเพื่อไทย เดินทางมายื่นหนังสือต่อนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ตรวจสอบวันลาประชุมของพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ เป็นไปตามรัฐธรรมนูญและข้อบังคับของสภาผู้แทนราษฎร รวมถึงการปฎิบัติตนก่อนปฎิบัติหน้าที่หรือไม่

นายพร้อมพงศ์ ยืนยันว่าไม่ได้มีอคติหรือเรื่องโกรธแค้น ไม่ใช่เรื่องใส่ร้ายป้ายสี เป็นเรื่องข้อเท็จจริงที่มีผู้ร้องมายังตนเอง สอดคล้องกับเอกสารที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร์มอบให้ โดยเรื่องนี้เป็นการตรวจสอบที่ทำตามหน้าที่และรัฐธรรมนูญ ในฐานะประชาชนคนหนึ่ง ตนเองใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 40 (2) เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของรัฐ

ขอขอบคุณนายชวน หลีกภัย อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎรที่ได้ออกระเบียบของสภาผู้แทนราษฎรเรื่องการประชุมเมื่อปี 2562 ซึ่งนายชวนเป็น สส.มาหลายสมัย อาวุโส และมีประสบการณ์ทางการเมืองมากมาย ซึ่งมีการร้องเรียนถึงขั้นมี สส.ที่ใช้บัตรแทนกัน โดนคดีต้องถูกตัดสิทธิและถูกจำคุก

ข้อบังคับว่าด้วยจริยธรรมของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและกรรมาธิการ 2563 ระบุว่าก่อนเข้าประชุมทุกครั้งให้สมาชิกผู้มาประชุมลงชื่อในเอกสารที่จัดเตรียมไว้ให้ บริเวณหน้าห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชั้น 2 และใช้บัตรที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรออกให้เพื่อแสดงตนบันทึกในเครื่องอ่านบัตร ซึ่งคนอื่นคงไม่สามารถทำแทนได้ นอกจากนี้สมาชิกจะต้องอุทิศเวลาให้กับการประชุม โดยคำนึงถึงการตรงต่อเวลา และไม่ขาดการประชุมโดยไม่จำเป็นเว้นแต่กรณีเจ็บป่วยหรือมีเหตุสุดวิสัย ซึ่งพลเอกประวิตร นอกจากจะขัดข้อบังคับการประชุมสภาฯ และจริยธรรมแล้ว ยังขัดข้อบังคับของพรรคพลังประชารัฐด้วย

จากข้อมูลวันลาของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ตั้งแต่วันที่ 3 ก.ค.66-19 ก.ย.67 พบว่ามีการประชุมรวม 95 ครั้ง พลเอกประวิตร ขาดประชุมแล้ว 84 ครั้ง โดยใช้บัตรลงทะเบียนลงชื่อมาประชุม 11 ครั้ง คิดเป็น 88.42% หากดูในรายละเอียดตั้งแต่วันที่ 3 ก.ค.67-19 ก.ย.67 มีการประชุม 27 ครั้ง พลเอกประวิตรมาประชุมเป็นศูนย์ โดยตั้งคำถามว่าการลาเป็นฉากบังหน้าเพื่อฉ้อฉลหรือไม่

โดยระหว่างวันที่ 4 ก.ค.66-26 ต.ค.66 มีการประชุม 32 ครั้ง พลเอกประวิตรมาประชุม 7 ครั้ง ลา 25 ครั้ง จากนั้นวันที่ 13 ธ.ค.66-3 เม.ย.67 มีการประชุม 33 ครั้ง พลเอกประวิตรมาประชุมเพียง 4 ครั้ง ลาประชุม 25 ครั้ง ส่วนใหญ่ในใบลาอ้างว่าติดภารกิจ

ข่าวที่น่าสนใจ

นายพร้อมพงศ์ เปิดเผยถึงจำนวนเงินที่รัฐต้องสูญเสียให้กับ สส. 1 คน มีมูลค่า 242,560 บาท ครอบคลุมเงินเดือน เงินประจำตำแหน่ง ค่าตอบแทนของผู้ชำนาญการและผู้ช่วย ไม่รวมเบี้ยประชุม ค่าเดินทาง และค่ารักษาพยาบาล จึงตั้งคำถามว่าพลเอกประวิตรทำงานคุ้มค่ากับภาษีประชาชนหรือไม่ คณะกรรมการจริยธรรมสภาผู้แทนราษฎรจะต้องตอบคำถามเหล่านี้

นายพร้อมพงศ์ ยกตัวอย่างวันลาประชุมของพลเอกประวิตร เช่น วันที่ 8 ส.ค.67 อ้างลาเพราะติดภารกิจ แต่กลับเปิดบ้านป่าให้แกนนำพรรคพลังประชารัฐ เข้าอวยพรวันเกิด ทั้งที่สามารถจัดงานในเวลากลางคืน จัดก่อนหน้านั้น หรือหลังจากวันดังกล่าวได้

วันที่ 29 ส.ค.67 ลาประชุมเป็นฉากบังหน้า พบว่าพลเอกประวิตร ไปประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค หรือในวันที่ 14 ก.พ.67 ลาประชุมสภาฯ อ้างติดภารกิจแต่ไปทำบุญฝังลูกนิมิตรที่จังหวัดบุรีรัมย์ หรือลาหลายรอบไปเชียร์วอลเลย์บอล

พลเอกประวิตรต้องตอบทางสังคมให้ได้ เพราะประเทศชาติและประชาชนเสียผลประโยชน์ สมาชิกรัฐสภาไทยเป็นสมาชิกของรัฐสภาโลก หากเขาถามว่ารัฐสภาไทยสามารถลาประชุมได้ 100% ใช่หรืแโดยไม่ โดยยกตัวอย่างของพลเอกประวิตร จะอายหรือไม่ ตนเองอาย จึงอยากให้คณะกรรมการจริยธรรมสภาผู้แทนราษฎรตรวจสอบเรื่องนี้ อย่าให้ “ปลาตัวเดียวเน่าเหม็นทั้งข้อง”

ส่วนที่นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่าพวกตนเองไม่มีหน้าที่ไปตรวจสอบ เป็นยามเฝ้าสภาฯ ตรวจสอบการทำหน้าที่ของพลเอกประวิตรวงษ์สุวรรณใช่หรือไม่ พวกตนเองไม่ใช่ยาม เพราะสภาฯ มีระบบการตรวจสอบทเช่น ระบบการเซ็นชื่อ การสแกนบัตร และการยืนยันตัวตน

นายพร้อมพงศ์ กล่าวต่อว่าการขาดประชุมของพลเอกประวิตรน่าจะมีปัญหา และการเข้าประชุม 11 ครั้งก็น่าจะมีปัญหาหนักกว่า จากข้อมูลที่ตนเองได้รับจากแหล่งข่าวน่าจะชัดเจน

“วันที่มาพลเอกประวิตรโฉบมาแบบพญาอินทรีย์เลย ขับรถมาแล้วมีคนนำสมุดไปให้เซ็นที่รถ ที่สำคัญกระบวนการที่จะยืนยันตัวตนนอกจากเซ็นชื่อที่นายชวนได้ออกแบบไว้แล้วที่ต้องเซ็นหน้าห้องประชุมชั้น 2 แต่พลเอกประวิตรน่าจะเป็นพญาอินทรียที่โฉบให้คนพาไปเซ็นที่รถได้ ก่อนจะมีการประชุมจริงๆ อันนี้ตนถามเดี๋ยวจะมีการตรวจสอบ กล้องวงจรปิด”

กรณีที่ สส.ที่เสียบบัตรแทนกัน ยังหาข้อมูลและเอาผิดได้เลย เพราะฉะนั้นตนเองจะนำเรื่องไปยื่น ป.ป.ช. เพราะตนเองตรวจสอบเชิงลึกหมดแล้ว ในการเซ็นชื่อมีเจ้าหน้าที่ประจำห้องประชุมสภาฯ เท่านั้นที่อนุญาต เวลาที่พลเอกประวิตรมา มีคนพยุงซ้ายพยุงขวาพยุงหน้าเป็น 10 คน จะเข้าไปชั้น 2 หน้าห้องประชุมได้หรือไม่ และที่สำคัญเมื่อเซ็นแล้วต้องมีการนำบัตรไปแตะหน้าห้องประชุมเพื่อยืนยันตัวตน นี่คือระเบียบของนายชวน หลีกภัย ที่ต้องชื่นชมเพราะสามารถอุดรอยรั่วเหล่านี้ได้ เพื่อไม่ให้สภาฯ เป็นที่ครหา แต่กรณีนี้จะมีการเอาบัตรไปแตะแทนกันหรือไม่ นี่คือคำถามที่ถามไปยังพลเอกประวิตรต้องตอบให้ดี และตนเองเชื่อว่า 11 ครั้งที่มาน่าจะมีปัญหาเหมือนกัน โดยเฉพาะการเซ็นชื่อที่น่าจะผิดปกติ

ทั้งนี้ตนเองถามเพื่อน สส.หลายคนว่าเคยเห็นพลเอกประวิตร ไปยืนยันตัวตนที่ชั้น 2 ก่อนเข้าห้องประชุมหรือไม่ หลายคนบอกไม่เคยเห็น และการกระทำลักษณะนี้ก็จะเป็นการขัดต่อรัฐธรรมนูญ ผิดกฎหมาย และไม่สามารถไปยืนยันตัวตนแทนกันได้ ส่วนที่เลขาสภาบอกว่าพลเอกประวิตรลาถูกต้องอาจจะต้องไปชี้แจงที่ ป.ป.ช. พร้อมเรียกร้องไปยัง สส. และกรรมาธิการต่าง ๆ ให้ช่วยกันตรวจสอบเรื่องดังกล่าวสภาฯ จะได้สะอาด

“สุดท้ายผมขอเรียกร้อง และวิงวอนถ้าลาอย่างนี้ จาก 95 ครั้งเวลาโดยวิธีพิเศษน่าจะไม่ปกติ ทางกฎหมาย ลาออกเถอะครับ ลาออกจากการเป็น สส. แล้วเลื่อนคนรุ่นใหม่ที่อยู่ลำดับต่อไปขึ้นมาทำหน้าที่ เพื่อสภานิติบัญญัติที่สง่างาม เพราะท่านยังเหลือแครดิเดตนายกรัฐมนตรี ไม่อย่างนั้นท่านจะเป็นโมฆะบุรุษ บุคคลที่ล้มละลายทางการเมือง ถ้าทำแบบนี้” นายพร้อมพงศ์ กล่าว

ส่วนกรณีที่นายไพบูลย์ นิติตะวันเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐจะฟ้องตนเองนั้น ฟ้องมาตนเองก็ฟ้องกลับ ตนเองไม่กลัวอยู่แล้ว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"CPF เคียงข้างยามวิกฤต" ชวนคนไทยส่งต่อพลังแห่งการให้ รพ.รามาธิบดี
"อธิบดีกรมอุทยานฯ" แจงยิบปมเงินรายได้ ยอมรับเตรียมปลด ‘ทราย สก๊อต’ พ้นที่ปรึกษา เหตุทัศนคติไม่ตรงกัน วอนรถทัวร์ดูข้อเท็จจริง
"พิพัฒน์" นำทีมเยี่ยมกลุ่มอาชีพอิสระ เครือข่ายแรงงาน นครพนม รับฟังปัญหา พร้อมเดินหน้ากองทุนหนุนพัฒนาอาชีพ
ATC ยื่นจม.ฉบับ 2 ขอ “นายกฯ” เร่งแจงข้อเท็จจริง ปมตึกสตง.ถล่ม ภายใน 15 วัน
สนามไชย 2 ชู "โครงการพระราชดำริ" มุ่งพัฒนาคน-ชุมชน ยกระดับคุณภาพชีวิต
"ดีเอสไอ" เตรียมเรียก "40 วิศวกร" ร่วมออกแบบ-ก่อสร้าง สอบข้อเท็จจริง ปมตึกสตง.ถล่ม
"นายกฯ“ กราบสักการะพระธาตุประสิทธิ์ นครพนม ขอปชช.มั่นใจ รัฐบาลพร้อมทำเต็มที่ ฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจ
"เสรีพิศุทธ์" เอาคืน "ทักษิณ" ชี้หน้าเครียดคดีรุม แฉหมดใครผิดสัญญา ลั่นเสียหมาเลย ถ้ายอมรับเก้าอี้รองนายกฯ
"นฤมล" ติดตามแก้ปัญหาค้าผลไม้ ไทย-จีน เน้นย้ำคุณภาพ พืชปลอดสารเคมี สร้างเชื่อมั่น มาตรฐานสินค้าเกษตรไทย
ผู้บัญชาการทหารเรือตรวจเยี่ยมการฝึกการดำเนินกลยุทธ์ด้วยกระสุนจริง (CALFEX) ของหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน (นย.) ในการฝึกกองทัพเรือ ประจำปี 2568

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น