ทรัมป์เดินหน้าหาเสียง ชูนโยบายเศรษฐกิจ ลั่นจะยึดงานผลิตจากโรงงานประเทศพันธมิตรและจีน พร้อมฟื้นฟูการผลิตในสหรัฐ ด้วยการหั่นภาษีและดึงดูดบริษัทต่างชาติ
เมื่อวันอังคาร ในงานหาเสียงที่จัดขึ้นในรัฐจอร์เจีย ที่เป็นศูนย์กลางผลิตรถยนต์ที่สำคัญ และยังเป็นรัฐที่ทั้งสองพรรคแข่งขันกันอย่างดุเดือด อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ตัวแทนผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรครีพับลิกัน ให้คำมั่นว่าการฟื้นฟูภาคการผลิตจะเป็นหัวใจสำคัญของแผนเศรษฐกิจของเขา และกล่าวว่าจะดึงดูดบริษัทต่างชาติให้มาตั้งโรงงานผลิตในประเทศ ด้วยการเสนอภาษีที่ต่ำและกฎระเบียบที่น้อยที่สุด
ทรัมป์ระบุว่า ด้วยวิสัยทัศน์ที่จะสรุปในวันนี้ไม่เพียงแต่จะหยุดไม่ให้ธุรกิจของเราออกไปสู่ต่างแดนเท่านั้น แต่ภายใต้การนำของเขา เรายังจะไปแย่งงานจากประเทศอื่นอีกด้วย เราจะไปแย่งโรงงานทั้งจากพันธมิตรอย่างเกาหลีใต้ และเยอรมนี หรือแม้กระทั่งจากคู่แข่งอย่างจีน เราจะนำธุรกิจหลายพันราย และความมั่งคั่งนับล้านล้านดอลลาร์กลับคืนสู่สหรัฐ นั่นคือสิ่งที่เราจะทำ และทำอย่างรวดเร็ว
จากนั้นทรัมป์กล่าวถึงนโยบายลดภาษีธุรกิจว่า จากสมัยที่แล้วที่เขาลดภาษีลงเหลือร้อยละ 21 ในครั้งนี้เขาจะลดภาษีลงอีกเหลือร้อยละ 15 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในโลก แต่ภาษีระดับนี้จะเป็นแรงจูงใจ สำหรับบริษัทที่ผลิตสินค้าในสหรัฐเท่านั้น ในทางกลับกัน บริษัทที่ไม่ผลิตสินค้าในสหรัฐ จะถูกขึ้นภาษีศุลกากรในอัตราสูงลิ่ว โดยเขาประกาศจะเรียกเก็บภาษีศุลกากร 100 เปอร์เซ็นต์ สำหรับรถยนต์ทุกคันที่ข้ามแดนมาจากเม็กซิโก ซึ่งวิธีเดียวที่จะยกเลิกภาษีนี้ได้คือต้องตั้งโรงงานในประเทศ
ทรัมป์ทิ้งท้ายว่า ภายใต้แผนของเขา แรงงานชาวอเมริกันจะไม่ต้องกังวลเรื่องการถูกต่างชาติแย่งงานอีกต่อไป แต่ต่างชาติต่างหากที่จะต้องกังวลว่าจะเสียงานให้อเมริกาแทน อีกทั้งให้คำมั่นว่า นโยบายนี้จะนำเงินหลายแสนล้านดอลลาร์เข้าคลัง และนำเงินนั้นไปใช้เพื่อประโยชน์ของพลเมืองอเมริกัน และจะไม่ทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อ
การขึ้นปราศรัยของทรัมป์ครั้งนี้ถือเป็นการประกาศนโยบายเศรษฐกิจที่สำคัญครั้งที่ 2 ในเดือนนี้ ขณะที่เขาและกมลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดี ซึ่งเป็นคู่แข่งจากพรรคเดโมแครต กำลังแข่งขันโน้มน้าวผู้มีสิทธิเลือกตั้งในรัฐสมรภูมิอย่างจอร์เจียว่า พวกเขาจะเป็นผู้ดูแลเศรษฐกิจของสหรัฐได้ดีที่สุด ซึ่งผลโพลชี้ว่า ค่าครองชีพที่สูงและการจ้างงานเป็นปัญหาสำคัญที่สุดสำหรับชาวอเมริกัน
หากพูดถึงนโยบายเศรษฐกิจ ขณะนี้ทรัมป์ยังคงนำแฮร์ริสอยู่ ตามผลสำรวจของ รอยเตอร์/อิปซอส ที่เผยแพร่เมื่อวันอังคาร เมื่อถามว่า ผู้สมัครคนใดมีแนวทางที่ดีกว่าเกี่ยวกับเศรษฐกิจ การว่างงาน และการจ้างงาน ผู้มีสิทธิเลือกตั้งประมาณ 43 เปอร์เซ็นต์เลือกทรัมป์ และ 41 เปอร์เซ็นต์ เลือกแฮร์ริส ซึ่งแฮร์ริสเตรียมขึ้นปราศรัยนโยบายเศรษฐกิจในวันนี้ที่รัฐเพนซิลเวเนีย