ยำใหญ่ประเด็นร้อน “พรรคส้ม” ลุยสุดซอย จะไปแคร์เพื่อ?

ยำใหญ่ประเด็นร้อน "พรรคส้ม" ลุยสุดซอย จะไปแคร์เพื่อ?

TOP News เช็กท่าที่ผู้นำจิตวิญญาณพรรคส้ม “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” ประธานคณะก้าวหน้า  ลุยต่อสุดซอย! แก้รัฐธรรมนูญรายมาตรา ลดมาตรฐานจริยธรรม ปลดอาวุธ 2 องค์กรอิสระ นั้นคือ ศาลรัฐธรรมนูญและคณะกรรมการป้องกันและปรามปราบการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. เนื่องจากเห็นว่า ไม่ควรให้อำนาจองค์กรอิสระเพื่อมากำหนดอนาคตทิศทางของประเทศมากเกินไป จึงควรลดอำนาจขอบเขตขององค์กรอิสระ ทั้ง ศาลรัฐธรรมนูญ และ คณะกรรมการป้องกันและปรามปราบการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. รวมถึงการใช้จริยธรรมตัดสินอนาคตทางการเมือง และ องค์กรอิสระต่างๆ ที่ดำรงอยู่ตามรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560  จำเป็นต้องมีการตรวจสอบถ่วงดุล พร้อมกับเห็นด้วยให้แก้รัฐธรรมนูญรายมาตรา หรือ รายประเด็นมากกว่า  เพราะการแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับความหวังริบหรี่ ไม่น่าจะผ่านรัฐสภาชุดนี้ไปได้  สอดคล้องกับไส้ในร่างแก้รัฐธรรมนูญฉบับ “พรรคส้ม” ตัดทิ้งมาตรฐานจริยธรรม ,  ตัดอำนาจ ป.ป.ช.มีอำนาจไต่สวนกรณีฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมออกไป หรือ ลดโทษตัดสิทธินักการเมืองจาก 10 ปีเหลือ 5 ปี

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ส่วนที่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากสังคมในการแก้รัฐธรรมนูญเกี่ยวกับจริยธรรมว่าเป็นการแก้เพื่อประโยชน์ของนักการเมืองไม่ใช่เพื่อประโยชน์ของประชาชน  “ประธานคณะก้าวหน้า” มองว่า ปัญหาในตอนนี้คือการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับดูแล้วยังติดขัดและไม่รู้จะไปในทิศทางไหน ในเมื่อการแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับติดขัดมองไม่เห็นอนาคต  หากดูปฏิทินแล้วโอกาสที่จะผ่านภายในสภาชุดนี้ หรือภายในปี 2570 นั้นยาก ดังนั้นจึงอาจต้องโฟกัสไปที่การแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2560 แบบรายประเด็น ซึ่งในหลายประเด็นแน่นอนว่ามีเรื่องขององค์กรอิสระ เรื่องของอำนาจ และ เรื่องของจริยธรรม

ทั้งนี้ “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” แก้เกี้ยวเรื่อง กระแสความนิยมของพรรคประชาชนลดลงภายหลังมีการปรับทัพใหม่ “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” ยืนยันทุกคนคุณภาพคับแก้ว และ ทุกตำแหน่งมีความเหมาะสม โดยเฉพาะ สายตรงผู้นำจิตวิญญาณได้เป็นใหญ่เป็นโต นั้นคือ “ปิยรัฐ จงเทพ” สส.กทม.อดีตหัวหน้าการ์ด “วีโว” ที่มาเป็นรองเลขาธิการพรรค ถึงขั้นทำให้ “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” การันตีไม่ใช่สายตรงตนเอง เพราะ เจอกันแค่ปีละครั้งหรือเปล่าไม่รู้  แทบไม่ได้คุยกัน ทั้งนี้ไม่มีสายตรงแต่เป็นกระบวนการของพรรค ในฐานะ “ประธานคณะก้าวหน้า” ทำได้เพียงแต่ให้กำลังใจ ส่งกำลังใจช่วยและให้คำปรึกษาคำแนะนำหาก สส. หรือแกนนำพรรคคนไหนปรึกษาหารือในเรื่องต่างๆ

อีกเรื่องร้อนที่ “พรรคก้าวไกลเดิม” หรือ พรรคประชาชน ลุยต่อสุดซอย! นั้นคือ กฎหมายสุราก้าวหน้า โดยมี “เท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร” ส.ส.กทม. พรรคประชาชนเป็นหัวหอก ต้องการให้การกลั่นสุราเสรีโดยไม่ต้องขออนุญาต  แต่โดนฝ่ายรัฐบาลแตะเบรกหัวทิ่ม นั้นคือ “ธนกร วังบุญคงชนะ ” ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ ค้านหัวชนฝา  เพราะเป็นห่วงคุณภาพและมาตรฐานสุรา  เพราะที่ผ่านมาเกิดโศกนาฏกรรม “ยาดองมรณะ” ใช้ส่วนผสมเมทานอล ใช้กับภาคอุตสาหกรรมไม่สามารถนำมารับประทานได้มาผลิตสุรา  ส่งผลให้ผู้ที่ดื่มอาการสาหัส 34 ราย เสียชีวิตนับสิบราย  เพราะว่าคิดสูตรกลั่นสุราดื่มทำกันเอง โดยไม่มีมาตรฐาน และไม่ต้องขออนุญาต รวมถึงจะเป็นการมอมเมาเยาวชนไทย จากการเปิดเสรีกลั่นสุราเองโดยไม่ต้องอนุญาต ดังนั้นร่างกฎหมายสุราก้าวหน้าส่อโดนคว่ำเพราะฝ่ายรัฐบาลไม่เห็นด้วย

อีกเรื่องที่เกี่ยวโยงกับ “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” นั้นคือเรื่องที่ “จักรภพ เพ็ญแข” อดีตแกนนำคนเสื้อแดงผู้มีความรอบรู้ทั้งการเมืองในประเทศและการเมืองโลก/ เนื่องจากเคยเป็นอดีตผู้ดำเนินรายการโทรทัศน์ อดีตนักวิเคราะห์ข่าวต่างประเทศที่มีชื่อเสียง  ประกาศท้าดีเบต กับ 2 ผู้นำจิตวิญญาณ”พรรคส้ม” ประกาศลั่นพร้อมทุกเมื่อขอแค่ “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” นัดวันเวลาและสถานที่  พร้อมกับระบุประเด็นดวลฝีปากแต่สุดท้าย “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” ไม่กล้ารับคำท้า

กระตุกต่อมเผือกเหล่านักวิจารณ์การเมืองตัวยง อย่าง “วิมล ไทรนิ่มนวล” นักเขียนรางวัลซีไรต์ โพสต์ข้อความฝากข้อความถึง “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” ว่า “ไปดีเบตไม่ได้ครับผม มีเงื่อนไขบางประการที่ไม่สามารถบอกได้”  แม้ไม่สามารถบอกได้ แต่คนอยากเห็นการดีเบตรู้ได้ว่า ไม่กล้า ไม่ถนัดดีเบตกับคนที่คิดต่าง  ถนัดดีเบตเฉพาะในฝ่ายเดียวกัน  ถนัดที่สุดคือดีเบตคนเดียวตามโรงเรียนมัธยม จัดหนักจัดเต็มได้เต็มที่ เด็กฟังอย่างเดียว!

เช่นเดียวกับ “ดร.เสรี วงษ์มณฑา” นักวิชาการด้านการตลาดและการสื่อสาร ที่ไม่เห็นด้วยกับ “แนวคิดสุดซอย!” ของ พรรคการเมืองหนึ่ง ที่มุ่งมั่นเปลี่ยนแปลงการปกครองของไทยบอกว่าไทยจะต้องเข้าไปแทรกแซงการเมืองในเมียนมา  คิดแบบนี้ได้อย่างไร? ประเทศไทยไม่ควรเข้าไปยุ่งกิจการภายในประเทศเพื่อนบ้านเพราะผิดหลักการของอาเซียน  หรือ พรรคที่เรียกร้องให้รัฐบาลไทยจะต้องจัดงบประมาณไปให้สวัสดิการแก่พลเมืองเมียนมา / โดยเฉพาะด้านการศึกษาแก่ลูกหลานชาวเมียนมา ขณะที่เด็กไทย ยังไม่มีงบประมาณเพียงพอที่จะให้สวัสดิการแก่คนไทยมากพออย่างทั่วถึง  แล้วทำไมต้องดูแลเรื่องสวัสดิการให้ประเทศเพื่อนบ้านด้วย เป็นคำถามที่ “ดร.เสรี วงษ์มณฑา” คาใจ

หรือแม้แต่การตั้งค่ายดูแลพลเมืองเมียนมาหนีภัยสงครามเข้ามาในไทยการดูแลตามหลักสิทธิมนุษยชนเพียงพออยู่แล้ว  ไม่ควรเรียกร้องเกินไปด้วยการให้สัญชาติ หรือการสิทธิการเลือกตั้งเพื่อให้มาลงคะแนนให้กับพรรคของผู้เรียกร้องใช่หรือไม่?  หรือต้องการให้มาร่วมชุมนุมเรียกร้องสิทธิที่ตรงกับแนวคิดทางการเมืองของผู้เรียกร้อง ทั้งเรื่องสิทธิเสรีภาพ การยกเลิกมาตรา 112และ มาตรา 116 ใช่หรือไม่?

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สมาคมสื่อฯเมืองคอนจับมือ สโมสรฟุตบอลนครศรียูไนเต็ดและชมรมคนรักรถจิ๊บ ลุยช่วยเหลือผู้ประสบภัยตลอดแนวริมคลองวังมะพร้าวหมู่ 8 ตำบลโพธิ์เสด็จ อำเภอเมืองจังหวัดนครศรีธรรมราช
หนุ่มสุดช้ำจอง "เหรียญหลวงปู่ศิลา" หวังนำไปบูชา สุดท้ายถูกเชิดเงินเกือบ 3 หมื่นบาท พบผู้เสียหายถูกหลอกอีกเพียบ
เซฟเก็บไว้เลย เบอร์ติดต่อขอความช่วยเหลือน้ำท่วม “สงขลา”
จนท.กู้เพิ่มอีก 1 ร่าง "คนงานเมียนมา" สังเวยชีวิต เหตุเครนถล่ม "พระราม2"
"อัยการศาลแขวง" เลื่อนสั่งคดี “เชน ธนา” ฉ้อโกง 79 ล้าน ไปวันที่ 6 ธ.ค.นี้ รอสอบเพิ่ม
ลูกหลานไทย สำเร็จหลักสูตรพลทหาร ก้าวขึ้นเป็นนักรบต่อสู้อากาศยาน สอ.รฝ.
"อุตุฯ" ออกประกาศฉบับที่ 9 เตือน 9 จังหวัดภาคใต้ รับมือฝนถึงสิ้นเดือน
ชื่นชม “กู้ภัยใจสู้” พักกินข้าวท่ามกลางฝนตกหนัก หลังช่วยขนย้ายผู้ป่วยออกจากรพ. ที่ถูกน้ำท่วม
"นายกฯ" สั่ง ศอบต.บูรณาการน้ำท่วมใต้ ด้าน รมช.กลาโหม ระดมสรรพกำลังเร่งช่วยปชช.
คณะกรรมาธิการการท่องเที่ยวและการกีฬาเยี่ยมชมยอดภูเรือ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวอุทยานฯ ด้านนักท่องเที่ยวแห่ขึ้นรับลมหนาวอุณหภูมิต่ำสุด 8 องศา คึกคัก

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น