“นพ.อนุตตร” ชี้ ฉีดวัคซีนเด็กได้ประโยชน์ ลดป่วย – ตาย

นพ.อนุตตร ชี้ ฉีดวัคซีนในเด็ก ได้ประโยชน์ป้องกันโรค ลดเจ็บป่วย และเสียชีวิต จากโควิดสูงกว่าการเกิดหัวใจอักเสบมาก

พล.อ.ท.นพ.อนุตตร จิตตินันทน์ ประธานราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุข้อความว่า กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบจากวัคซีนโควิด 19 เราน่าจะมีวัคซีนโควิด 19 เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะจะมีวัคซีนชนิดสารพันธุกรรมเอมอาร์เอนเอ (mRNA) ได้แก่ วัคซีนของบริษัทไฟเซอร์และวัคซีนของบริษัทโมเดอร์นา โดยรัฐบาลจัดสรรวัคซีนของบริษัทไฟเซอร์ให้กับเด็กและวัยรุ่นอายุ 12 ถึง 18 ปี ส่วนวัคซีนของบริษัทโมเดอร์นาก็จัดเป็นวัคซีนทางเลือกซึ่งบริหารจัดการโดยโรงพยาบาลเอกชน หลายคนยังลังเลใจที่จะใช้วัคซีน mRNA เนื่องจากทราบว่ามีโอกาสเกิดกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบหลังการรับวัคซีนชนิดดังกล่าว

 

พล.อ.ท.นพ.อนุตตร กล่าวอีกว่า จึงขอนำข้อมูลในสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นประเทศที่มีการใช้วัคซีน mRNA มากที่สุด โดยศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกา (CDC) สรุปไว้ มาให้ทุกท่านทราบกัน ซึ่งกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบได้รับการยอมรับว่าเป็นภาวะแทรกซ้อนที่หายากของวัคซีนชนิดเอมอาร์เอนเอ  จากรายงานของ CDC พบอัตราการเกิดกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบหรือเยื่อบุหัวใจอักเสบ 12.6 รายต่อล้านของการได้รับวัคซีน mRNA เข็มที่สอง ในผู้ที่มีอายุ 12 ถึง 39 ปี  โดยพบว่าเด็กอายุ 12-15 ปีมีโอกาสเกิดกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบสูงกว่ากลุ่มอื่นถึง 4 เท่า  ผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบมักมีอาการเจ็บหน้าอกหรือเหนื่อยหอบเกิดขึ้น 2-3 วันหลังได้รับวัคซีน mRNA เข็มที่ 2 โดยจะพบมีคลื่นหัวใจผิดปกติ ระดับเอนไซม์ของหัวใจ (Troponin-T) เพิ่มขึ้น การวินิจฉัยกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบทำได้ด้วยการตรวจสนามแม่เหล็กไฟฟ้าหัวใจ (MRI)

 

พล.อ.ท.นพ.อนุตตร กล่าวต่อว่า กลไกการเกิดกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบจากวัคซีนโควิด 19 ชนิด mRNA ยังไม่ชัดเจน แต่เชื่อว่าวัคซีนชนิด mRNA กระตุ้นให้เกิดภูมิคุ้มกันที่ผิดปกติที่มีอยู่ก่อนแล้วในบุคคลบางกลุ่ม  ผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย ซึ่งเชื่อว่าที่พบมากในผู้ชายน่าจะเกี่ยวข้องกับความแตกต่างของฮอร์โมนเพศกับการตอบสนองต่อภูมิคุ้มกัน  โดยทั่วไปอาการมักดีขึ้นเร็วหลังจากให้การรักษาและพักผ่อนอย่างเพียงพอ และส่วนใหญ่สามารถกลับไปเรียนหรือทำงานตามปกติได้ในเวลาไม่นาน

 

พล.อ.ท.นพ.อนุตตร กล่าวด้วยว่า หากเปรียบเทียบความเสี่ยงกับประโยชน์ที่ได้รับจากการรับวัคซีนโควิด-19 ชนิด mRNA แล้ว ประโยชน์ที่ได้รับในการป้องกันโรคและลดการเจ็บป่วยกับการเสียชีวิตจากโควิดจะสูงกว่าการเกิดหัวใจอักเสบมาก  และมีการศึกษา phase 3 ของวัคซีน mRNA รายงานถึงประสิทธิภาพและความปลอดภัยของวัคซีนดังกล่าวในผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 12-17 ปี ในขณะที่วัคซีนชนิดอื่นยังไม่มีการรายงานผลในกลุ่มนี้  ดังนั้นผู้เชี่ยวชาญของ CDC จึงแนะนำให้ฉีดวัคซีนโควิด-19 ชนิด mRNA ได้ในผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไป แต่ถ้ามีอาการเจ็บหน้าอก เหนื่อย ใจสั่น หัวใจเต้นเร็วหรือเต้นผิดปกติ ไม่สม่ำเสมอ ภายใน 1 สัปดาห์หลังการได้รับวัคซีนดังกล่าวต้องรีบปรึกษาแพทย์เพื่อให้การดูแลรักษาโดยเร็ว

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

แองเจิล หยิน หวดสถิติใหม่ 28 อันเดอร์พาร์ คว้าแชมป์ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2025 จีโน่-อาฒยา ดีสุดของไทยได้อันดับ 3  แพตตี้-ปภังกร โม-โมรียา อันดับ 4 ร่วม
"พุทธิพงษ์" หนุน "บ้านเพื่อคนไทย" ชี้ควรทำอย่างโปร่งใส กระจายโอกาสถึงผู้มีรายได้น้อยให้ครบทุกภูมิภาค
"อดีตสว.สมชาย" เผย "ท็อปนิวส์" ละเอียดยิบ ขบวนการทุจริต "ฮั้วเลือกสว." ลั่น "ดีเอสไอ" ต้องรับเป็นคดีพิเศษ
"ไทย-กัมพูชา" บุกจับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เมืองปอยเปต พบคนไทยกว่า 100 คน เตรียมส่งกลับประเทศพรุ่งนี้
"จุฬาราชมนตรี" แถลงเตรียมจัดงาน "เมาลิดกลาง แห่งประเทศไทย" ครั้งที่ 59 เริ่ม 18- 20 เม.ย.นี้
จนท.รวบ "หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย" หอบเงิน 15.7 ล้าน เข้าไทย อ้างเล่นพนันได้จากฝั่งปอยเปต
โผล่อีก “หมู่บ้านเขมร” จองแผ่นดินไทย อึ้ง! อุ้มลูกเดินยั้วเยี้ย ตร.เพิ่งจะจับ
งามไส้! “หนุ่มไทย” พกปืน-กระสุนใส่เต็มแม็ก คุ้มกัน “พม่าเถื่อน” เข้าเมือง
ผู้นำสหรัฐเรียกนายกฯแคนาดาว่า” ขี้แพ้”
เพจดังจับโป๊ะพรรคส้ม ขุดยับ “เท้ง-ไอซ์” นำทีมสส.ร่วมทริปกมธ. บินเกาหลีใต้ ใช้งบฯหลักล้านคาใจดูงานแน่เปล่า

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น