ฝ่ายตรงข้ามรุมดูแคลน รัฐบาล “พท.” พูดไว้แต่ทำจริงคนละเรื่อง

ฝ่ายตรงข้ามรุมดูแคลน รัฐบาล "พท." พูดไว้แต่ทำจริงคนละเรื่อง

TOP News น่าเห็นใจรัฐบาล “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) กระดิกตัวทำอะไรเป็นต้องโดนต่อต้านไปเสียหมด แม้สิ่งที่ทำจะเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนและการบริหารประเทศ  แต่กลับโดนฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองตรวจสอบ และเย้ยหยัน เพราะต้องยอมรับว่า บางนโยบายประกาศหาเสียงไว้อย่างหนึ่งแต่พอทำจริงกลับเป็นอีกอย่างหนึ่ง จึงกลายเป็นจุดอ่อนของรัฐบาลเข้าทางฝ่ายตรงข้าม

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

เรื่องแรก คือ “โครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท” สิ้นสุดการรอคอยจนเหงือกแห้งมากว่า 1 ปี ในที่สุดแจกได้เสียที ประชาชนกลุ่มเปราะบาง 14 ล้านคน กระเป๋าตุง แต่สิ่งที่รัฐบาลเพื่อไทยโดนปรามาส คือ จากเดิมที่ประกาศวาดฝันว่า  จะแจกผ่าน บิตคอยน์ โทเคน เหรียญดิจิทัล สุดท้ายไปไม่ได้รอดกลับมา “แจกเงินสด”  เพราะก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 15 มีนาคม ปี 2565 “นายใหญ่เพื่อไทย” เคยดูแคลนนโยบายแจกเงิน ไว้ว่า การเติมเศรษฐกิจให้แข็งแรงการเอาเงินไปแจก ปัญญาอ่อน แต่ต้องใช้เงินไปสร้างเศรษฐกิจ  จึงไม่แปลกฝ่ายตรงข้ามจึงออกมาดูแคลน นโยบายเรือธงแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 1หมื่นบาท คิดไปทำไป  แต่สุดท้ายกลายเป็นนโยบายเรือเกลือ นานกว่า 1 ปียังทำไม่ได้ในยุค “เศรษฐา ทวีสิน” อดีตนายกรัฐมนตรี  แต่พอถึงรัฐบาล “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี กล้าฟันธง “แจกเงินสด” กระชากเรตติ้งนายกรัฐมนตรีขึ้นมาได้ทันที

นอกจากนี้ยังถูกครหาว่า “แฝงหาเสียง” หรือไม่ “ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล” อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ยิงคำถามถามรัฐบาลและสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ว่า การปฏิบัติตามกฏหมายเลือกตั้ง เนื่องจากเป็นการจ่ายเงินสด โดยไม่มีบล็อกเชนควบคุม จึงไม่สามารถบังคับการใช้จ่ายให้ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ “พรรคเพื่อไทย” กำหนดไว้เดิมได้  รวมทั้งไม่มีผลดีในการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลแม้แต่น้อย  ถามว่า “พรรคเพื่อไทย” ได้คำยืนยันจาก กกต. หรือยังว่า การจ่ายเป็นเงินสดเข้าข่ายเป็น “สัญญาว่าจะให้” หรือไม่

ไม่พลาดขาประจำรัฐบาล “พิชิต ไชยมงคล” แกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศ หรือ คปท. เย้ยหยันการนำเงินภาษีประชาชนมาแจกประชาชน นี่คือ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี มีกิน มีใช้ สะท้อนความเข้าใจว่า อับปัญญาในการเป็นผู้รับใช้ประชาน บ่งบอกว่า เป็นนายกฯไม่ได้เป็นเพื่อรับใช้ประชาชน แต่เป็นเพราะต้องการอำนาจ  ต้องการบารมีในการปกป้อง “ทักษิณ ชินวัตร” หากมีผู้นำที่ไม่เข้าใจประชาชน บ้านเมืองก็ตกอยู่ในอันตราย

ท่ามกลางฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองรุมดูแคลนนโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต1หมื่นบาท  ขณะที่พรรคเพื่อไทย “ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์” รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า นี่คือ นโยบายที่มุ่งเติมออกซิเจนเข้าเส้นเลือดเศรษฐกิจ อย่างถูกที่ ถูกเวลา และถูกรัฐบาล นำโดยนายกรัฐมนตรี “แพทองธาร ชินวัตร” ที่ทำถึงและทำเป็น

เรื่องที่ 2 ที่รัฐบาลเพื่อไทยเสียหน้า  เพราะเดินหน้าลุยไฟแก้รัฐธรรมนูญรายมาตรา ลดมาตรฐานจริยธรรมปล่อยนักการเมืองสีเทาเข้าสภาหรือเข้ามามีตำแหน่งทางการเมือง  รัฐบาลเพื่อไทยไม่กล้าไปสุดซอย เพราะกลัวอยู่ไม่ครบเทอม ซ้ำร้ายโดน 2 พรรคร่วมรัฐบาลลูบคม  นั้นคือ “พรรคภูมิใจไทย” และ “พรรครวมไทยสร้างชาติ” บอยคอตไม่ร่วมวงแก้รัฐธรรมนูญรายมาตราลดมาตรฐานจริยธรรม  ในที่สุด “ภูมิธรรม เวชยชัย” รองนายกรัฐมนตรี คีย์แมน”พรรคเพื่อไทย” ประกาศพับแผนการแก้รัฐธรรมนูญ  ชิ่งหนีคำครหาลดมาตรฐานจริยธรรมทำเพื่อพวกพ้อง  ประกาศรัฐบาลไม่อาสาเป็นเจ้าภาพ โยนเรื่องแก้รัฐธรรมนูญเป็นเรื่องของรัฐสภา  พร้อมกับกางปฏิทิน “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ดูแลปัญหาน้ำท่วมทางภาคเหนือ และเร่งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อไม่ให้ถูกมองว่า ไม่สนใจปัญหาประชาชน เอาแต่สนใจแต่ปัญหานักการเมือง

เรื่องถัดมา คือ รัฐบาลเพื่อไทย กระชากขึ้นค่าแรง 400บาท แต่ไม่เป็นไปตามแผน เพราะดันไปหักคอภาคเอกชนบีบให้ “นายจ้าง” ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาททั่วประเทศ  แต่ผู้ประกอบการภาคธุรกิจกลับไม่เล่นด้วย รัฐบาลต้องเลื่อนดีเดย์ 1 ตุลาคมนี้ ขึ้นค่าแรง 400บาทออกไปก่อนไร้กำหนด รัฐบาลอดซื้อใจพี่น้องแรงงานทั่วประเทศหลายสิบล้านคนได้เฮ!

เช็กท่าทีอันแข็งกร้าวของ “สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย” ต่างร้องยี้ตัวเลขค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาทไม่เหมาะสม  ส่งผลกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้านที่มีค่าแรงขึ้นต่ำต่ำกว่าประเทศไทย ที่สำคัญถึงรัฐบาลทู่ซี้ขึ้นค่าแรง 400 แรงงานของไทยไม่ได้ประโยชน์ แต่แรงงานต่างด้าวจะได้ประโยชน์ไปเต็มๆ  ประกาศยืนกราน “ไม่เห็นด้วย” วิงวอนให้รัฐบาลฟังเสียง “นายจ้าง” ทั้งนี้ ปัจจุบันที่ประชุม “ลูกจ้าง” เองไม่ได้ต้องการให้ขึ้นค่าแรง 400 บาททั่วประเทศ แต่เสนอให้ปรับไปตามมติคณะอนุกรรมการค่าจ้างขั้นต่ำ หากขืนขึ้นค่าแรง 400 “ธุรกิจเอสเอ็มอี” ตายเรียบโรงงานขนาดกลางและขนาดเล็กมีหวังปิดโรงงานกันระนาว ขณะที่ “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่าขึ้นค่าแรง 400บาทสะดุด ไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้ แต่ยืนยันจะทำให้สำเร็จภายในปี 2567

ดังนั้นไล่ตั้งแต่ ขึ้นค่าแรง 400 บาท เป็นนโยบายเรือธง “พรรคเพื่อไทย” ที่ประกาศหาเสียง จะขึ้นค่าแรง 600 บาทแต่ด้วยข้อจำกัดทางเศรษฐกิจและแรงเสียดทานจากภาคธุรกิจ  จึงดันได้สุดแค่ 400 บาทแต่ก็ยังทำไม่สำเร็จ เพราะถูกต่อต้าน จึงทำให้รัฐบาลเพื่อไทย เสียหน้าและเสียเครดิตที่ได้หาเสียงไว้กับ พี่น้องผู้ใช้แรงงาน  ขณะที่ฝ่ายนายจ้างคัดค้านกลัวว่าจะทำให้ธุรกิจเจ๊ง เพราะแบกต้นทุนค่าจ้างไม่ไหว  หรือ แม้แต่ “แจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต1หมื่นบาท” สุดท้ายไปไม่สุด ต้องกลับมาแจกเงินสด ส่วนเฟส 2 ประชาชนกว่า 20 ล้านคน ยังไร้วี่แววว่าจะได้เงินสด 1 หมื่นบาทด้วยหรือไม่ เช่นเดียวกับ แก้รัฐธรรมนูญลดมาตรฐานจริยธรรม ไปไม่ถึงกลางซอยเสียด้วยซ้ำ ต้องถอยสุดซอย เพราะถูกมองว่าทำเพื่อนักการเมือง  จึงไม่แปลกเหตุใดฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลจึงดาหน้ากันออกมารุมดูแคลนรัฐบาล ขยี้จุดอ่อนรัฐบาล พูดไว้แต่ทำไม่ได้จริง!

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

คนร้ายลอบวางบึ้มรถบัสตำรวจตชด. พลขับบาดเจ็บ 2 นาย
อดีตรมว.กลาโหมขึ้นแท่นนายกฯคนใหม่ของญี่ปุ่น
สพฐ. เร่งสอบ ผอ.โรงเรียนในจ.กาญจนบุรี เบี้ยวเงินทุนนักเรียน ล่าสุดมอบทุนครบแล้ว พร้อมสืบข้อเท็จจริงต่อ
“ดร.ทันกวินท์” ยื่น ป.ป.ช. สอบสส.พรรคส้ม อ้างตำแหน่งกมธ.จัดงานสมัครสมาชิก
"แม่ค้าขายน้ำ" ปลื้มยอดขายพุ่งพรวด เงินหมื่นสะพัด หลังรัฐบาลแจกช่วยกลุ่มเปราะบาง-ผู้พิการ
“ไพบูลย์” ยันไม่จริง “สันติ-วราเทพ” ย้ายซบเพื่อไทย
กรมทรัพยากรน้ำบาดาลจัดกิจกรรมวันพระราชทานธงชาติไทย 28 กันยายน 2567
“รมช.สุชาติ” เผยข่าวดี เจรจา EPA ไทย-เกาหลีใต้ รอบ2 รุดหน้า เป้าสรุปผลในปี 2568
“สนธิญา” ร้องกกต. จี้ปชน.ถอนร่างแก้ไขรธน.ปมจริยธรรม ลั่นหากไม่หยุด เจอยื่นยุบพรรค
มอบทุนการศึกษา “มูลนิธิคุณพุ่ม”ประจำปีการศึกษา 2567

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น