เฮซฯโคตรแข็ง ผู้นำถูกสังหารไม่สะเทือน จรวดแสนลูกซุกอุโมงค์ใต้ดินรอสางแค้น

แหล่งข่าวใกล้ชิดกับปฏิบัติการฮิซบอลเลาะห์ เปิดเผยกับรอยเตอร์ว่า หลังสูญเสีย อาคิล และแกนนำอาวุโสคนอื่นๆ จากการโจมตีของอิสราเอล ก็มีการแต่งตั้งคนขึ้นมาแทนอย่างรวดเร็ว ซึ่งสอดคล้องกับที่ฮัสซัน นัสรัลเลาะห์ ผู้นำกลุ่ม ปราศรัยเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม ก่อนตัวเค้าจะถูกสังหารเสียชีวิตว่า ฮิซบอลเลาะห์มีตัวตายตัวแทน สามารถเติมช่องว่างได้ทันที เมื่อใดก็ตามที่แกนนำถูกสังหาร

เจ้าหน้าที่คนหนึ่งของฮิซบอลเลาะห์ กล่าวเสริมว่า การโจมตีผ่านอุปกรณ์สื่อสารระเบิด ทำให้นักรบไม่สามารถปฏิบัติงานได้กว่า 1,500 คน เพราะได้รับบาดเจ็บ โดยจำนวนมาก ตาบอด หรือมือขาด แต่นี่ก็เป็นเพียงเศษเสี้ยวเดียวของกำลังพลที่มี ซึ่งตามรายงานของสภาคองเกรส สหรัฐ ประเมินว่า กองกำลังนี้มีนักรบ 4 – 5 หมื่นคน แต่นัสรัลเลาะห์ อ้างว่ามีเป็นแสนคน

นับจากเริ่มยิงโจมตีข้ามชายแดนใส่อิสราเอล เพื่อสนับสนุนฮามาส ในกาซา เมื่อเดือนตุลาคม ปี 66 ฮิซบอลเลาะห์ยังเสริมนักรบเข้าไปในพื้นที่ชายแดนทางใต้ และใกล้กับซีเรีย อีกทั้งยังเร่งรีบนำจรวดเข้าไปในเลบานอน เพราะคาดได้ว่า ศึกข้ามชายแดนครั้งนี้จะยืดเยื้อ แต่แหล่งข่าวไม่ลงรายละเอียดว่า มีอาวุธอะไรบ้าง ที่พวกเขานำเข้าไป

ด้าน แอนเดรียส ครีก นักวิชาการด้านความมั่นศึกษา คิงส์ คอลเลจ กล่าวว่า การโจมตีสัปดาห์ที่ผ่านมา อาจทำให้ปฏิบัติการฮิซบอลเลาะห์สะดุด แต่ด้วยโครงสร้างที่มีการจัดองค์กรและเครือข่ายอย่างรัดกุม ช่วยให้ฮิซบอลเลาะห์ตั้งตัวได้ไว และยังเป็นศัตรูที่น่ากลัวที่สุดสำหรับอิสราเอล ไม่ใช่แค่จำนวนนักรบและอาวุธที่มี แต่ยังรวมถึงในแง่ของการฟื้นคืนชีพด้วย

ทั้งนี้ เมื่อวันพุธที่ 25 กันยายนที่ผ่านมา ฮิซบอลเลาะห์โจมตีพุ่งเป้าสำนักงานใหญ่มอสสาด หน่วยข่าวกรองของอิสราเอล ใกล้กรุงเทลอาวีฟ ห่างจากชายแดนเลบานอน กว่า 100 กิโลเมตร เสียงไซเรนดังขึ้นทั่วเมือง ขณะระบบป้องกันทางอากาศ เดวิดส์ สลิง ยิงสกัดขีปนาวุธลงสู่พื้น ฮิซบอลเลาะห์อ้างว่า การโจมตีครั้งนี้ ใช้ขีปนาวุธทิ้งตัว เคเดอร์-วัน มีพิสัยทำการ 190 กิโลเมตร ติดหัวรบ 500 กิโลกรัม เพื่อแก้แค้นที่อิสราเอลโจมตีอุปกรณ์สื่อสารเมื่อสัปดาห์ก่อน

ทั้งนี้ เชื่อกันว่า การที่ฮิซบอลเลาะห์ยิงอาวุธออกไป ทั้งที่มีแนวโน้มสูง ที่อีกฝ่ายจะสกัดได้ เพื่อต้องการส่งสัญญาณว่า ยังมีอาวุธที่ทรงพลังกว่านั้น และยังไม่ได้นำมาใช้ อีกทั้งยังสามารถโจมตีได้อยู่ เพราะสายการบังคับบัญชายังทำงานได้ตามปกติ นอกจากนี้ แหล่งข่าวอ้างว่า ฮิซบอลเลาะห์ยังสื่อสารถึงกันได้ ผ่านเครือข่ายสายโทรศัพท์พื้นฐาน และอุปกรณ์อื่นๆ เช่น เพจเจอร์รุ่นเก่า ที่นักรบจำนวนมากใช้อยู่ ไม่ได้รับผลกระทบจากการโจมตีเมื่อสัปดาห์ก่อน และผู้ที่บาดเจ็บจากเพจเจอร์ระเบิดส่วนใหญ่ อยู่ในเบรุต ไกลจากแนวรบ และหากสายบังคับบัญชามีช่องโหว่ คนใดคนหนึ่งหายไป นักรบแนวหน้าก็ผ่านการฝึกฝน ให้ปฏิบัติการแบบคลัสเตอร์อิสระ ใกล้ชายแดน สามารถสู้รบปรบมือกับอิสราเอลแบบยืดเยื้อได้