BBC, AFP และรอยเตอร์สรายงานว่าฝนที่ตกหนักติดต่อกันเป็นเวลา 2 วันในหลายพื้นที่ทั่วเนปาล ทำให้เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่และโคลนถล่มทั่วประเทศในวันนี้ (อาทิตย์ที่ 29 กย.) โดยเฉพาะที่กรุงกาฏมาณฑุและพื้นที่โดยรอบที่มีลักษณะภูมิประเทศเป็นหุบเขา ส่งผลให้ประชาชนจำนวนมากต้องหนีตายไปอยู่บนหลังคา หลังระดับน้ำในแม่น้ำหลายแห่งเพิ่มสูงและไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนหลายพันหลัง รวมทั้งทางหลวงหลายแห่ง ส่งผลให้การจราจรในกรุงกาฎมาณฑุเป็นอัมพาต เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องใช้เรือยางตระเวณให้ความช่วยเหลือประชาชน โดยสามารถช่วยออกมาได้แล้วกว่า 3 พันคน
ขณะที่กระทรวงศึกษาธิการก็สั่งปิดโรงเรียนและมหาวิทยาลัยในพื้นที่ประสบภัยทั้งหมดเป็นเวลา 3 วันเนื่องจากอาคารเรียนได้รับความเสียหาย ขณะที่นักเรียนนักศึกษาก็ไม่สามารถเดินทางมาเรียนได้ ล่าสุดมีรายงานผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 100 คนและสูญหาย 67 คน ซึ่งในจำนวนผู้เสียชีวิตมีนักฟุตบอลจากสมาคมฟุตบอลเนปาลหรืออันฟา (ANFA) รวมอยู่ด้วย 6 คน หลังเกิดเหตุโคลนถล่มลงมาทับศูนย์ฝึกทางตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงกาฎมาณฑุ
ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าฝนที่ตกหนักเกิดจากหย่อมความกดอากาศต่ำในอ่าวเบงกอล ซึ่งผลกระทบทั้งอินเดียและเนปาล และว่าเขาไม่เคยเห็นน้ำท่วมที่รุนแรงขนาดนี้ในเนปาล และว่าสาเหตุสำคัญเกิดจากการระบบระบายน้ำที่ไม่ดี การก่อสร้างที่ไม่มีการวางผังเมืองและไม่มีที่พักน้ำ พร้อมกันนี้ก็เรียกร้องรัฐบาลเนปาลให้ลงทุนเรื่องโครงการก่อสร้างระบบระบายน้ำใต้ดินและทำระบบผังเมืองใหม่