ข่าวดี!! หมอธีระวัฒน์ เผย “สารโมเลกุลมณีแดง” ใกล้พร้อมใช้ในมนุษย์

ผู้เชี่ยวชาญด้านอายุรกรรมทางสมอง โพสต์เรื่องน่ายินดี เผยสารโมเลกุลมณีแดง ใกล้พร้อมใช้ในมนุษย์ ชี้เป็นการก้าวสำคัญในการรักษาผู้ป่วยอาการสมองตายให้ดีขึ้น

จเมื่อวันที่ 30 กันยายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ศาสตราจารย์เชี่ยวชาญทางอายุรกรรมและสมอง โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา Thiravat Hemachudha โดยระบุว่า ข่าวดี สารโมเลกุลมณีแดง ใกล้พร้อมใช้ในมนุษย์ จากการที่ ศ.ดร.นพ. อภิวัฒน์ ได้ปรึกษาหารือเรื่องประสาทวิทยาอยู่เรื่อยๆ ล่าสุดอภิวัฒน์ บอกว่าการศึกษาความเป็นพิษในหนูแรทเกรด GLP ที่เป็นมาตรฐานสำคัญในการทำการศึกษาทางคลินิก ผ่านแล้ว พบว่า ในขนาดยาที่ใช้รักษา สารโมเลกุลมณีแดง ปลอดภัย ไม่ทำให้เกิดความผิดปกติและพยาธิสภาพของร่างกายใด ๆ

นอกจากผ่านการศึกษาความเป็นพิษแล้ว การศึกษาสารโมเลกุลมณีแดงสำเร็จแล้วในทุก ๆ ด้าน ได้แก่ 1.การค้นพบกลไกความชราของดีเอ็นเอ, 2.การผลิตยา ร่วมกับสถานเสาวภา pharmaceutical grade มีระบบ QC เรียบร้อย ,3 การศึกษาในสัตว์ทดลอง เพื่อ หาข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ Senile dementia rat, Alzheimer’s rat, Parkinson’s rat, Lung fibrosis rat, Liver cirrhosis mouse, Insulin resistance rat, Burn สารโมเลกุลมณีแดง รักษาได้ทุกตัว แก้ไขพยาธิสภาพให้หายไปรวมถึง มี การสร้างเซลล์สมองใหม่ (neurogenesis), 4. การศึกษาคุณสมบัติของยา Safety test หรือความปลอดภัย ทำที่ National Primate Research Center of Thailand ลิงแสม > 1 ปี ผลลิงทุกตัวปลอดภัยดี หายแก่ > 40 สัปดาห์

5. Toxicity test ทำ 2 ที่ สถานเสาวภา ทำหลายสปีชี่ mouse, rat, หนูตะเภา กระต่าย ที่ ม. นเรศวร เป็ น GLP rats ผ่านแล้ว ,6 Pharmacokinetic and organ distribution เสร็จแล้ว, 7Storage conditions เสร็จแล้ว ส่วน Clinical trials กำลังเตรียมการ

ข่าวที่น่าสนใจ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ ศาสตราจารย์ ดร.นายแพทย์อภิวัฒน์ มุทิรางกูร ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และคณะ เป็นผู้คิดค้นและพัฒนา ‘โมเลกุลมณีแดง’ มีคุณสมบัติในการย้อนวัยที่ DNA เป็นกลไกสำคัญที่จะใช้แก้ปัญหาสุขภาพในสังคมสูงวัยได้

อย่างไรก็ตามหลังจากที่ได้มีการทดลองใช้มณีแดงศึกษาในสัตว์ทดลอง หนู หมู ลิงแสม และกระต่าย หลายร้อยตัว คณะวิจัยก็พบว่า ‘โมเลกุลมณีแดง’ มีความปลอดภัยสูงจึงน่าที่จะเป็นความหวังในการรักษาคนไข้สมองตาย ในการทดลองครั้งหนึ่งมีการทำให้สมองส่วนทำการเคลื่อนไหวในหนูตาย และพบว่า หนูไม่สามารถขยับตัวได้ แต่เมื่อให้ ‘โมเลกุลมณีแดง’ ปรากฏว่า หนูมีอาการดีขึ้นเรื่อย ๆ จนหายเป็นปกติในเวลา 14 วัน

ทั้งนี้นับเป็นข่าวที่ดียิ่งของมวลมนุษยชาติ เพราะในขณะนี้ได้มีการทดลองใช้ ‘โมเลกุลมณีแดง’ ในมนุษย์แล้ว หลังจากผ่านการทดลองใช้ ‘โมเลกุลมณีแดง’ ในสัตว์ทดลองแล้วหลายร้อยตัวอย่างปลอดภัย โดยได้ใช้ ‘โมเลกุลมณีแดง’ ในการทดลองรักษา ‘น้องการ์ตูน’ นส.ดวงกมล ไชยสายัณห์ ผู้ป่วยหญิง อายุ 28 ปี 11 เดือน ซึ่งเมื่อวันที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2565 ‘น้องการ์ตูน’ มีอาการหัวใจหยุดเต้น หรือสภาวะที่หัวใจทำงานผิดปกติ จนไม่มีการบีบตัวหรือหยุดเต้นทันที โดยไม่มีอาการเตือนล่วงหน้า ทำให้เกิดอาการสมองตาย หรืออาการบาดเจ็บของสมองอันเป็นพิษจากการขาดออกซิเจนในสมองอย่างสมบูรณ์ ทำให้น้องการ์ตูนกลายเป็นผู้ป่วยสมองตายจนอยู่ใน ‘สภาพผัก’

ต่อมาบิดา และมารดาของ ‘น้องการ์ตูน’ ทราบถึงเรื่องราวเกี่ยวกับ ‘โมเลกุลมณีแดง’ จึงได้ติดต่อ ศ.ดร.นพ.อภิวัฒน์ โดยได้ร้องขอที่จะให้ ‘น้องการ์ตูน’ ได้รับการทดลองรักษาด้วย ‘โมเลกุลมณีแดง’

จากการรักษาพบว่า น้องการ์ตูน’รับ ‘โมเลกุลมณีแดง’ โดสแรกเมื่อ 15 พ.ค. 2566 โดสที่ 2 เมื่อ 23 พ.ค.2566 โดสที่ 3 เมื่อ 30 พ.ค.2566 และโดสที่ 4 เมื่อ 7 มิ.ย. 2566 ปรากฏว่ามีอาการดีขึ้นดังนี้

 

1. ดวงตา น้องสามารถลืมตาเปิดได้มากขึ้นจนตาข้างขวาสามารถลืมตาได้โตเป็นปกติ ส่วนตาข้างซ้ายซึ่งเคยลืมตาเปิดแทบไม่ได้เลยก็สามารถลืมตาได้มากกว่าครึ่งของการลืมตาปกติ และจากที่ดวงตาเคยไร้แววตาก็สามารถมองเห็นแววตาได้

2. น้ำตา เดิมช่วง 8 เดือนไม่มีน้ำตาไหล หลังจากได้รับยามีน้ำตาไหลออกมา 1 ถึง 2 หยด และช่วงสัปดาห์ที่ 4 มีน้ำตาไหลออกมาต่อเนื่อง นานประมาน 15 ถึง 20 นาที พร้อมทั้งบีบมือแรงมากขึ้น

3. ตื่นได้เร็วขึ้น เมื่อมีการเรียกในขณะที่หลับ สามารถตอบสนองต่อเสียงเรียก หรือเมื่อแตะตัวเบาๆ ก็ลืมตาและขยับปากแสดงถึงอาการรับรู้

4. การรับรู้ ด้วยการพยายามมองตามเสียงพูดของบรรดาผู้ที่มาเยี่ยม และมีการเอียงคอหันตามเสียงพูด แสดงว่า สามารถรับรู้เสียงและภาพได้

5. สีผิว สีผิวทั้งใบหน้าและแขน เปลี่ยนจากช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา จากที่ผิวเคยมีสีคล้ำเป็นขาวใสขึ้น เป็นสัญญาณที่ดีที่แสดงถึงระบบไหลเวียนของเลือดดีขึ้น

6. การเอียงคอสามารถเอียงได้ตามเสียงของเพื่อน ๆ ที่มาเยี่ยมเรียกหา

7. มือ ปลายมือทั้ง 2 ข้างจากที่จับ และรู้สึกเย็น กลายเป็นอุ่นขึ้นเช่นเดียวกับเท้าทั้ง 2 ข้าง ปลายมือและเล็บมือที่เคยมีสีม่วงคล้ำเปลี่ยนเป็นสีขมพู แสดงให้เห็นว่า ระบบไหลเวียนของหลอดเลือดส่วนปลายดีขึ้น

8. การบีบมือและกำมือ ในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมาไม่สามารถขยับแต่หลังจากรับยาสามารถกำมือ และแบมือได้

9. การเหยียดขาและขยับเท้า ในช่วง 8 เดือนก่อนรับยาไม่สามารถเหยียดขาและขยับเท้าได้เลย แต่หลังจากรับยา สามารถเหยียดขาและขยับเท้าได้บ้าง

10. การยกศีรษะ ยกตัว และยกแขน ในช่วง 8 เดือนที่ยังไม่ได้รับยา ไม่สามารถทำอาการเหล่านี้ได้ แต่หลังจากได้รับยาแล้ว ตั้งแต่สัปดาห์ที่ 2 ถึง 3 เมื่อมีการทำกายภาพบริหารแขนให้ สามารถยกศีรษะ ยกตัว และยกศีรษะและเอียงศีรษะด้วยตัวเองได้มากขึ้น

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ศาลอาญา" ไต่สวนคำร้องฝากขัง "เเม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์" ด้าน "ผู้เสียหาย" แห่ยื่นค้านประกันตัว
น่าห่วง แพทย์แถลงอาการ นักเรียน รถบัสไฟไหม้ เสี่ยงตาบอด 1 ราย
ซีพีคว้าโล่ประกาศเกียรติคุณ 'ผู้นำการจัดการก๊าซเรือนกระจก'
กินเจอย่างไร ให้อิ่มบุญ และมีสุขภาพดี
“กฟผ.” แสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้สูญเสีย เหตุไฟไหม้รถบัสนักเรียน หน้าเซียร์รังสิต
ผจก.สื่อปลอดภัยฯ พร้อมร่วมผลิตคอนเทนต์กับตปท. ผลักดันซอฟต์พาวเวอร์
TSB คว้ารางวัล นวัตกรรมด้านการขนส่งและโลจิสติกส์แห่งปี
สาวโชคร้าย ขี่ จยย. ถูกสายเคเบิ้ลขาดเกี่ยวลูกไนตาเลือดทะลัก
"ขนส่ง สิงห์บุรี" ยันรถบัสไฟไหม้ เพิ่งตรวจสภาพเมื่อ พ.ค.67 เบื้องต้นส่งทีมนายช่างลงพื้นที่ร่วมหาสาเหตุ
ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 1 ตุลาคม 2567

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น