กฎหมายค้ำคอ “นายกฯ” ไม่กล้าพลิ้ว ตั้ง ผบ.ตร.ป้ายแดง

กฎหมายค้ำคอ "นายกฯ" ไม่กล้าพลิ้ว ตั้ง ผบ.ตร.ป้ายแดง

TOP News นัดวันเคาะ “ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ” คนใหม่ในวันที่ 7 ตุลาคมนี้ คนดังในยุทธจักรสีกากีฟันธงไปในทิศทางเดียวกัน  “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี (นายกฯ) ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร.  ทุบโต๊ะเลือก “บิ๊กต่าย” พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. อาวุโสลำดับ 1 ขึ้นเป็น “ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ” แทน “บิ๊กต่อ” พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ที่ปลดระวางไปแล้ว สำหรับ ผู้ท้าชิง 2 คนที่เหลือ ประกอบด้วย 1.พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง จเรตำรวจแห่งชาติ อาวุโสอันดับ 2 และ 2.พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. อาวุโสอันดับ 3 น่าจะต้องรอคิวถัดไป

 

ข่าวที่น่าสนใจ

สำหรับเหตุผลที่ “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี ต้องทำตามสเต็ปและไม่กล้าบิดพลิ้ว /เพราะกฎหมาย ค้ำคออยู่! ให้เลือก “ผบ.ตร.” นั้นคือ เป็นไปตามอาวุโส ความรู้ความสามารถงานสืบสวนสอบสวนและงานป้องกันปราบปรามที่กำหนดสเปคไว้ในกฎหมายใหม่ “พรบ.สำนักงานตำรวจแห่งชาติ” ปี 2565

ปิดประตูตายฝ่ายการเมืองเข้ามาล้วงลูกในการแต่งตั้งโยกย้าย “ผบ.ตร.” / ทวนความจำยุค “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี ถูกคดีฟ้องร้อง / เพราะ “ย้ายเอื้อญาติ” เด้ง “ถวิล เปลี่ยนศรี” อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ เลขาฯ สมช.เข้ากรุงมาเป็นที่ปรึกษาสำนักนายกรัฐมนตรี / เพื่อเปิดทางให้ตำแหน่ง “เลขาธิการ สมช.” ว่างลง เพื่อใช้ตำแหน่ง “เลขาธิกาาร สมช.” เป็นตำแหน่งปลอบใจแก่ “พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี” ที่พลาดเก้าอี้ “ผบ.ตร.”  เพราะต้องเปิดทางสะดวกให้ “พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ” ขึ้นแท่นเป็น ผบ.ตร. แทนจนกลายเป็นเหตุฟ้องร้องต่อ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” นายกรัฐมนตรีในยุคนั้น  แต่หากวันที่ 7 ตุลาคมนี้ เกิด “พลิกโผ” อาทิ เช่น แต่งตั้ง รองผบ.ตร. ที่อายุน้อยก้าวกระโดดเป็น ผบ.ตร. เพราะเป็นเด็กเส้นฝ่ายการเมือง  ไม่มีทางเป็นไปได้เพราะ กฎหมายใหม่ พรบ.สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปี 2565 ค้ำคออยู่! และอาจมีปัญหาฟ้องร้องและร้องเรียนตามมา

ดั่งเช่นคำให้สัมภาษณ์ของ “พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์” ผู้ทรงคุณวุฒิ ก.ตร. ไขข้อกังขาไว้น่าสนใจว่า มีคนถามกันมากว่า ถึงข่าวลือ จะแต่งตั้ง ผู้ช่วย ผบ.ตร.เป็น รอง ผบ.ตร.ก่อน  หรือ “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชรษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. จะได้กลับมาเป็นแคนดิเดต คั่วเก้าอี้ “ผบ.ตร.” หรือไม่  ประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยแต่งตั้งรอง ผบ.ตร.ผู้อาวุโสน้อยที่สุดแซงหน้าอีกได้หรือไม่ หรือ จะมีมาตราการใดป้องกันการใช้อำนาจโดยมิชอบแทรกแซงการแต่งตั้ง “ผบ.ตร.”

พร้อมกับงัดข้อกฎหมาย กำหนดหลักประกันการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจตามระบบคุณธรรม  ให้คำนึงถึงอาวุโสและความรู้ความสามารถ เพื่อให้ตำรวจปฏิบัติหน้าที่อิสระ  ไม่ตกอยู่ใต้อาณัติของบุคคลใด มีมาตราการป้องกันมิให้ผู้ใดใช้อำนาจหรือกระทำโดยมิชอบ  กำหนดกระบวนการแต่งตั้งให้ชัดเจน  ให้มีคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรมข้าราชการตำรวจ หรือ ก.พ.ค.ตร.  เพื่อวินิจฉัยอุทธรณ์หรือร้องทุกข์ เป็นที่พึ่งของตำรวจ หากการแต่งตั้งไม่เป็นไปตามกฏหมาย ผู้บังคับบัญชาอาจจะต้องรับโทษทั้งทางวินัยและโทษอาญา ดังนั้นหากมีรายการสอดไส้แต่งตั้งโดยไม่เป็นธรรม

นอกจากนี้ “พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์” ผู้ทรงคุณวุฒิ ก.ตร. ชำแหละปัญหาขององค์กรตำรวจ ไว้น่าสนใจว่า ปัญหาองค์กรตำรวจตั้งแต่ระดับปลายแถวจนถึงระดับบิ๊กนายพล  เกิดจากการแต่งตั้ง โยกย้าย ที่ ผิดฝา ผิดตัว ใช้คนไม่ตรงกับงาน การซื้อขายตำแหน่ง และ การโยกย้ายที่ไม่เป็นธรรม ดังนั้นผู้มีอำนาจและนักการเมือง  ซึ่ง มาจากการเลือกตั้งของประชานชน  รับทราบเป็นอย่างดี ดังนั้นการแต่งตั้ง ผบ.ตร. ในครั้งนี้ จะเป็นข้อ พิสูจน์ ผู้มีอำนาจ ว่า จะสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ หรือ สร้างซากปรักหักพังเพิ่มเติม

อย่างล่าสุด “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี สำนักนิด้าโพล ให้ขึ้นแท่นเรตติ้งอันดับ 1 มีความเป็นผู้นำและมีความพยายามในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน หรือ ก่อนหน้านี้ ดัชนีชี้วัดคะแนนนิยมทางการเมืองที่สำรวจโดย “Line Today” ยก “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี เป็นอันดับหนึ่งแซงหน้า คู่แข่งทางการเมืองอย่างพรรคก้าวไกลเดิม หรือ พรรคประชาชน ที่มี “เท้ง” ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ร่วงไปเป็นอันดับ 3 เพราะประชาชนกำลังเจ็บปวดกับปัญหาน้ำท่วม  แต่ “แก้วตา” ธิษะณา ชุณหะวัณ” สส.พรรคส้ม กลับเรียกร้องให้รัฐบาลไทยเข้าไปแทรกแซงกิจการภายในรัฐบาลเมียนมา  ด้วยการต้องเข้าไปช่วยเหลือ “อองซาน ซูจี” คว่ำบาตรรัฐบาลทหารเมียนม่า  ตามการชี้นำของชาติตะวันตก โดยไม่สนใจผลกระทบที่จะตามมา หรือมารยาทการเมืองระหว่างประเทศที่ต้องไม่แทรกแซงกิจการภายในประเทศอื่น  รวมไปถึงการรับรองอย่างเป็นระบบ ทั้งเรื่องการศึกษาให้เด็กข้ามชาติ  อนุญาตให้ใบอนุญาตชั่วคราวบุคคลกรทางการแพทย์ของเมียนมา เข้ามารักษาคนเมียนมาในไทย จนกลายเป็นกระแสสังคม มองว่า การเรียกร้องดังกล่าว กำลังสร้างภาระให้กับประเทศไทยมากเกินไปหรือไม่?

ในทางการเมืองจึงมองได้ว่า การแต่งตั้ง ผบ.ตร. คนใหม่ไม่น่าพลิกโผ “บิ๊กต่าย” พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์  เพราะกฎหมายค้ำคออยู่ และ ไม่กล้าพลิ้ว เพราะห่วงกระแสสังคมตีกลับ เพราะขณะนี้เรตติ้งของ “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี กำลังขาขึ้น! จึงไม่กล้าแหวกกระแสสังคมหรือข้อกฎหมาย นั้นเอง

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ
สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน
สถาปนาเขตพื้นที่คุ้มครองฯ ชาติพันธุ์ชุมชนชาวเลโต๊ะบาหลิว
ผบ.ตร.สั่งสอบคลิปแก๊งต่างด้าว แสดงพฤติกรรมเย้ยกม. กำชับคุมเข้ม ใช้ยาแรง

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น