สหรัฐหวั่นเศรษฐกิจหยุดชะงัก ข้าวของขึ้นราคา หลังคนงานท่าเรือใหญ่ 14 แห่งตามแนวชายฝั่งตะวันออกเตรียมหยุดงานประท้วงขึ้นค่าแรงตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
สมาคมคนงานขนถ่ายสินค้าระหว่างประเทศ (ILA) ซึ่งเป็นตัวแทนพนักงานท่าเรือในสหรัฐได้ประกาศว่า คนงานท่าเรือขนาดใหญ่ 14 แห่งตามแนวชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯ และอ่าวเม็กซิโก หลายหมื่นคนได้ตกลงนัดหยุดงานหลังเที่ยงคืนวันจันทร์เป็นต้นไป หลังสัญญาจ้างงานเดิมที่มีระยะเวลา 6 ปีสิ้นสุดลง เว้นแต่จะมีความคืบหน้าที่ชัดเจนกว่านี้
การประกาศหยุดงานประท้วงครั้งนี้เกิดขึ้น หลังการเจรจาตกลงขึ้นค่าแรงกับกลุ่มธุรกิจขนส่งสินค้าทางทะเลสหรัฐ (USMX) ไม่บรรลุผล ทำให้สมาชิกราว 2 หมื่น 5 พันคนในท่าเรือขนาดใหญ่ 14 แห่งในสหรัฐ รวมถึงนิวยอร์ก/นิวเจอร์ซี บอสตัน ฟิลาเดลเฟีย ซาวันนา นิวออร์ลีนส์ และฮูสตัน ตัดสินใจเข้าร่วมประท้วง ซึ่งนับเป็นการนัดหยุดงานครั้งแรกของILA นับตั้งแต่ปี 1977 หรือในรอบ 47 ปี
ILA ต้องการเรียกร้องให้มีสัญญาคุ้มครองการสูญเสียตำแหน่งงานจากระบบขนส่งอัตโนมัติ และให้ปรับค่าจ้างขึ้น 77 เปอร์เซ็นต์ ภายในเวลา 6 ปี เพื่อชดเชยการทำงานอย่างหนักของคนงานท่าเรือในช่วงโควิดระบาด โดย ILA กล่าวหาว่า USMX ทำกำไรมากมายอย่างน่าละอายด้วยการเอาเปรียบคนงาน
ด้านทางการท่าเรือสหรัฐได้พยายามไกล่เกลี่ยการเจรจา ส่วนเจ้าหน้าที่ในนิวยอร์กและให้คำมั่นกับประชาชนว่าอาหารและสินค้าจำเป็นอื่นๆจะไม่ขาดแคลน เคธี่ โฮชุล ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ท่าเรือกำลังเร่งเคลียร์สินค้า ให้ได้มากที่สุดก่อนที่การหยุดงานจะเกิดขึ้น รวมถึงขยายเวลาการทำงานในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา
Oxford Economics ประเมินว่าการนัดหยุดงานครั้งนี้ จะทำให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมของสหรัฐลดลง 4 .5 – 7.5 พันล้านดอลลาร์ต่อสัปดาห์ ขึ้นอยู่กับระยะเวลาการหยุดงาน ส่วนนักวิเคราะห์คาด เหตุดังกล่าวจะทำให้การค้าของสหรัฐหยุดชะงัก และราคาสินค้าจะถีบตัวสูงขึ้นอีกครั้ง หลังจากเพิ่งลดลงจากภาวะเงินเฟ้อ อย่างไรก็ดี โฮชุล ยืนยันว่า สินค้าจำเป็นจะยังไม่ขาดแคลนในเร็วๆนี้ แต่การขนส่งรถยนต์และเซมิคอนดักเตอร์ จะได้รับผลกระทบเป็นลำดับแรก
ภายใต้พระราชบัญญัติพิเศษ ประธานาธิบดีโจ ไบเดนมีอำนาจสั่งให้ทั้งสองฝ่ายกลับมาเจรจากันอีกครั้ง ในช่วงระยะเวลาพักการเจรจา 80 วัน แต่ไบเดนกล่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่า เขาจะไม่เข้าไปแทรกแซง เพื่อสนับสนุนสิทธิในการต่อรองของแรงงาน