เตือนฝ่ายการเมืองอย่าล้วงลูก “กรมปทุมวัน” เตะสกัด “ม้ามืด” ปาดหน้าเค้กแซงเข้าวิน

เตือนฝ่ายการเมืองอย่าล้วงลูก "กรมปทุมวัน" เตะสกัด "ม้ามืด" ปาดหน้าเค้กแซงเข้าวิน

ขTOP News ยังฝุ่นตลบศึกชิงเก้าอี้ “กรมปทุมวัน” ตราบใดที่ยังไม่ถึงวันที่ 7 ตุลาคม  วันนัดประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร.ที่มี “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี นั่งหัวโต๊ะเป็นประธาน ก.ตร.เคาะชื่อ “บิ๊กต่าย” พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ เป็น “ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ” ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ  “ม้ามืด” ที่มีคอนเน็กชั่นกับฝ่ายการเมืองย่อมมีสิทธิ์ปาดหน้าเค้กแซงเข้าวินได้ทุกเมื่อ

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ในยุทธจักรสีกากี “พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส” อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รู้ไส้รู้พุง “สำนักงานตำรวจแห่งชาติ” เป็นอย่างดี  จึงมักออกสื่อ ชำแหละปมแย่งเก้าอี้ “เจ้ากรมปทุมวัน” ล่าสุดแฉผ่านสื่อแห่งหนึ่งว่า ในยุทธจักรสีกากี เป็นที่รู้กันดีว่า “ฝ่ายการเมือง” พยายามเข้ามาล้วงลูก แต่งตั้ง “ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ” เหมือนเมื่อการแต่งตั้ง “ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ” ครั้งที่ผ่านมา  จนกลายเป็นชนวนเหตุเปิดศึกกันในกรมปทุมวัน  ระหว่าง “บิ๊กต่อ” พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล วิ่งสู้ฟัดกับ “บิ๊กโจ๊ก”พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล เปิดสงครามแย่งขึ้นแท่นเป็น “ผบ.ตร.” บานปลายจนทำให้ 2 ฝ่าย ออกมาสาวไส้กันเองเรื่องสีเทาหรือเรื่องฉาวของแต่ละฝ่าย เป็นเหตุให้ “เศรษฐา ทวีสิน” อดีตนายกรัฐมนตรี ต้องจับทั้งคู่เด้งเข้ากรุเพื่อไม่ให้ภาพลักษณ์องค์กรตำรวจเสียหายป่นปี้ไปมากกว่านี้  จนต้องแต่งตั้ง “บิ๊กต่าย” พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ มาคั่นเวลาเป็นรักษาการ “ผบ.ตร.” ขัดตาทัพไปพลางก่อน

แต่ใช่ว่า 2 ฝ่ายจะสงบศึก “บิ๊กโจ๊ก”พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ฟ้องต่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. กล่าวหา “เศรษฐา ทวีสิน” อดีตนายกรัฐมนตรี แต่งตั้ง “บิ๊กต่อ” พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล เป็นผบ.ตร.โดยมิชอบผิดตามมาตรา 157 จึงทำให้ปีที่แล้ว “กรมปทุมวัน” ในช่วงนั้น เละเป็นโจ๊ก!

เพราะอย่าลืมว่าในขณะนั้น “บิ๊กต่อ” พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร.อาวุโสลำดับ 4 แต่กลับได้ขึ้นแท่นเป็น “ผบ.ตร.”  มีความเชื่อมโยงกับ “ดีลลับพานายใหญ่กลับบ้าน” ใช่หรือไม่?  ชนวนเหตุให้ “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ในตอนนั้น ออกมาเปิดศึกแตกหักดับเครื่องชนกับ “บิ๊กต่อ” พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ลามไปจนถึงขั้นฟ้องร้องคดียังคาอยู่ในศาลปกครองสูงสุด จึงทำให้ “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล กลับมาชิงเก้าอี้ผบ.ตร.ไม่ทัน ส่วนอนาคต “บิ๊กโจ๊ก” แมวเก้าชีวิตนายตำรวจดาวรุ่ง จะได้กลับมาผงาดในยุทธจักรสีกากีได้อีกหรือไม่นั้น  ในสายตา “พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์” เชื่อว่า เป็นไปได้ เพราะคำตอบสุดท้ายอยู่ที่ศาลปกครองสูงสุด “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ต้องพิสูจน์ตัวเองให้ได้ว่า คำสั่งปลดออกจากราชการ ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่?

ขณะเดียวกัน “พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส” ยังแฉว่า การเมืองพยายามเข้ามาล้วงลูก กล่าวคือ ฝ่ายการเมืองพยายามดัน “ม้ามืด” วิ่งเข้าวิน ด้วยการแต่งตั้งผู้ช่วย ผบ.ตร.มาเป็นรอง ผบ.ตร.  จากนั้นค่อยขึ้นเป็น ผบ.ตร. หากทำเช่นได้กรมปทุมวันพังแน่ และ รัฐบาลอยู่ยาก  พร้อมกับฟันธงต้อง “บิ๊กต่าย” พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ เท่านั้น  เพราะมีสิทธิ์เป็นไปตามระเบียบข้อกฎหมาย เป็น “ผบ.ตร.” เพราะเป็นรอง ผบ.ตร.อาวุโส ลำดับ 1 ทั้งยังเป็น รักษาการ ผบ.ตร.อีกต่างหาก คุณสมบัติครบเครื่อง! หากไม่ได้เป็น “ผบ.ตร.” เรื่องใหญ่แน่! ดังนั้น 2 ตัวเต็ง คู่ชิงเก้าอี้ ผบ.ตร. นั้นคือ พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง จเรตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. ตัดออกไปจากสมการชิงเก้าอี้ “เจ้ากรมปทุมวัน” ไปได้เลย

“พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์” ฟันเปรี้ยงว่า หากรัฐบาลเขี่ยชื่อ “บิ๊กต่าย” ทิ้ง ไม่ยึดหลักอาวุโส รับรองเกิดปัญหาตามมาแน่ ดังนั้นต้องยอมรับในกฎกติ หากไปดัน “ม้ามืด” วิ่งเข้าวิน รับรองภาพลักษณ์ “กรมปทุมวัน” เสียหายแน่  พร้อมกับปราม “ม้ามืด” ที่เป็น “บิ๊กนายพลตำรวจ” ที่มือไม่ถึงคุณสมบัติไม่ครบเครื่อง แต่อยากเป็น “เจ้ากรมปทุมวัน” หยุดวิ่งเข้าหาฝ่ายการเมือง  และ ถึงเวลาแล้วในการปฏิรูปองค์กรตำรวจ โดยเฉพาะ การยกเครื่องระบบการสืบสวนสอบสวนในคดีอาญา ยกระดับพนักงานสอบสวนให้มีความรู้ความสามารถ และคุณวุฒิเทียบเท่าเจ้าหน้าที่อัยการ และ ผู้พิพากษา เพื่อสร้างความเป็นธรรมให้กับกระบวนการยุติธรรมไทย  เป็นสิ่งสำคัญมากกว่าปัญหาแย่งเก้าอี้ “ผบ.ตร.” เสียด้วยซ้ำ

ปิดท้าย “พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส” เตือนฝ่ายการเมืองอย่าคิด ดันก้น “ม้ามืด” ปาดหน้าเค้กแซงเข้าวิน อาจทำให้เป็นไฟท์บังคับต้องฟ้อง “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรีในฐานะประธาน ก.ตร. เหมือนที่เคยฟ้อง “เศรษฐา ทวีสิน” อดีตนายกรัฐมนตรี แต่งตั้ง “บิ๊กต่อ” พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล มาแล้ว เพราะรับไม่ได้ถือเป็นการทำลายองค์กรตำรวจที่ตนรักและห่วงแหน ขอให้ฝ่ายการเมืองปล่อยมือให้ การแต่งตั้ง “ผบ.ตร.” เป็นไปตามกฎหมายและระบบ อย่าเข้าไปล้วงลูก!

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“นิกร” เสียใจสุดซึ้ง เหตุรถบัสนักเรียนไฟไหม้ จ่อถก 25 ต.ค.นี้ ย้ำ รัฐบาลประกาศนโยบาย ส่งเสริมให้เกิดความปลอดภัยทางถนน
"คู่รักต่างชาติ" ร้องปกองปราบฯ ถูก "ค่ายมวยดัง" ภูเก็ต หลอกเรียกเงินแสนแลกวีซ่า
มูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ จับมือ TSB มอบรถวีลแชร์แก่ผู้ด้อยโอกาส จ.อยุธยา
สรชาติ วิชย สุวรรณพรหม รองประธานคณะกรรมาธิการพลังงาน คนที่ 1 พร้อมลุยงาน ขับเคลื่อน ส่งเสริม สนับสนุน การใช้พลังงานทดแทน
"ผู้ประกอบการ" โวยเหมาเข่ง "รถเก่า" เข้าข่าย "บัสมรณะ" ทั้งที่ผ่านการตรวจสอบจาก "กรมการขนส่งฯ"
"ศาลเจ้าแม่หน้าผา" นครสวรรค์  จัดสถานที่-โรงทาน "รับเทศกาลกินเจ" พร้อมเตรียม 8 เมนูเจ ล้างท้องวันนี้
"แพทย์สุขภาพจิต" เผยอาการจิตใจญาติผู้เสียชีวิต เหตุรถบัสไฟไหม้
จังหวัดตราดประชุมด่วนคุมมาตรการทัศนศึกษาของนักเรียนคุมไม่ให้เกิดเหตุ ขณะ ผอ.โรงเรียนหลายแห่งงดเดินทางทัศนศึกษาชั่วคราว รักษาความรู้สึกผู้ปกครอง
"ผู้ว่าฯปทุมธานี" เยี่ยมให้กำลังใจ "2 นร.-ผู้ปกครอง" เหยื่อรถบัสไฟไหม้ 
“สมศักดิ์​” เผย​อาการ​ 2 นร.​แอดมิท​ยังน่าห่วง​ ส่งทีมจิตแพทย์ประกบเด็ก-​ครอบครัว​

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น