“คู่รักต่างชาติ” ร้องปกองปราบฯ ถูก “ค่ายมวยดัง” ภูเก็ต หลอกเรียกเงินแสนแลกวีซ่า

นายวิท เปิดเผยผ่านล่ามแปลภาษาว่า ภรรยาชาวจีนของตน ได้เห็นโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ค เชิญชวนให้มาเรียนมวยไทยที่ประเทศไทย ในจังหวัดภูเก็ต ระบุว่า สามารถต่อวีซ่าให้ได้ด้วย ตนกับภรรยาจึงสนใจ เพราะตนมาเที่ยวอยู่ในประเทศอยู่แล้ว และขณะนั้นพาสปอร์ตของตนกับภรรยาก็ใกล้จะหมดอายุ จึงเข้าไปคุยกับโรงเรียนสอนมวยดังกล่าว โดยเจ้าของโรงเรียนสอนมวยเป็นคนไทยแต่มีภรรยาเป็นชาวจีน ชาติเดียวกับภรรยาของตน จึงพูดคุยตกลงกัน โดยคิดค่าเรียนมวยเดือนละ 8,000 บาท ทดลองเรียนฟรีได้ 1 วัน แต่ถ้าจะต่อวีซ่า 1 ปี มีค่าใช้จ่าย 100,000 บาท แถมวีซ่าให้อีก 3 เดือน ตนกับภรรยาจึงตกลงยอมจ่ายเงินค่าต่อวีซ่าไปก่อน 100,000 บาท แล้วมอบพลาสปอร์ตให้กับเจ้าของโรงเรียน จากนั้นไม่นานเจ้าของโรงเรียนได้นำพาสปอร์ตมาคืนให้ แต่ไม่ได้มีการแสตมป์ อะไรกลับมา แต่ตนก็ไม่ได้ติดใจอะไร คิดว่าเรียบร้อยแล้ว เพราะเห็นว่า สถานที่เรียนมวยดูใหญ่โต น่าเชื่อถือ

แต่หลังอยู่ไทยได้ไม่กี่วัน ตนก็ถูกจับดำเนินคดี ข้อหา overstayไป 7 วัน ต้องเสียค่าปรับไป 7,000 บาท จึงรีบออกไป ประเทศมาเลเซียเพื่อขอความช่วยเหลือจากสถานทูตเช็กที่มาเลเซีย ทางสถานทูตจึงช่วยออกวีซ่านักเรียน 3 เดือนแทนให้ แต่กว่าจะออกวีซ่าให้ก็ปาเข้าไป 2 อาทิตย์ ตนกับภรรยาต้องหมดค่าใช้จ่ายไปอีกหลายแสนบาท หลังเสร็จเรื่องจึงเดินทางกลับมาที่ไทย แล้วเดินทางไปโรงเรียนสอนมวยที่ภูเก็ต เพื่อสอบถามว่า เกิดอะไรขึ้น พร้อมขอเงินคืน แต่ 2 ผัวเมียเจ้าของโรงเรียนสอนมวยกับบ่ายเบี่ยง ไม่รับผิดชอบ แถมยังขู่ว่า จะเอาตำรวจมาจับส่งกลับประเทศ ตนจึงเดินทางไปแจ้งความที่ตำรวจท่องเที่ยว และตำรวจ สภ.วิชิต จ.ภูเก็ต แต่ผ่าน 3 เดือนคดีไม่มีความคืบหน้า