“บิ๊กต่าย” แถลงสรุปคดีไฟไหม้รถบัสนร. เผยติดตั้งแก๊ส 11 ถัง-ไม่จดแจ้ง 5 ถัง จ่อดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องเพิ่ม

รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นำตำรวจไว้อาลัยผู้เสียชีวิต เหตุรถบัสไฟไหม้ เผยรถติดแก๊ส 11 ถัง มี 5 ถัง ไม่จดแจ้ง เตรียมดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องเพิ่ม

“บิ๊กต่าย” แถลงสรุปคดีไฟไหม้รถบัสนร. เผยติดตั้งแก๊ส 11 ถัง-ไม่จดแจ้ง 5 ถัง จ่อดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องเพิ่ม – Top News รายงาน

บิ๊กต่าย

เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2567 เวลา 14.00 น.  พลตำรวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รรท.ผบ.ตร.) ได้เรียนเชิญทุกท่านร่วมยืนไว้อาลัยให้กับผู้เสียชีวิตจากเหตุเพลิงไหม้รถบัสรับส่งนักเรียนทัศนศึกษา จนมีผู้เสียชีวิต 23 ราย และบาดเจ็บ 3 ราย ที่ห้องประชุมอมรวิวัฒน์ ตำรวจภูธรภาค1 ก่อนเป็นประธานแถลงความคืบหน้าคดีอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น หลังเกิดเหตุสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ตั้งศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้า ที่บริเวณศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริและความมั่นคง ในการบริหารเหตุการณ์ฉุกเฉิน ควบคุม สั่งการ และประสานการปฏิบัติกับหน่วย เพื่อช่วยเหลือและดำเนินการต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง และได้สั่งการให้ทุกส่วนร่วมบูรณาการอย่างใกล้ชิด

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

โดยรถบัสคันเกิดเหตุ สำนักพิสูจน์หลักฐานตำรวจ (สพฐ.ตร.) ได้ร่วมกับกรมการขนส่งทางบก ตรวจสภาพ และรายละเอียดที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาสาเหตุที่เกิดไฟลุกไหม้ขึ้น ในเบื้องต้นพบว่า รถบัสคันดังกล่าวมีถังก๊าซเชื้อเพลิงจำนวน 11 ถัง พบเบื้องต้นจดทะเบียนถูกต้องเพียง 6 ถัง ส่วนที่เหลือ 5 ถัง ไม่อยู่ในรายการจดแจ้งกับเจ้าหน้าที่   ส่วนรายละเอียดอื่นๆ จะต้องตรวจสอบอย่างละเอียดทางนิติวิทยาศาสตร์ต่อไป หากพบว่ามีบุคคล หรือบริษัทใดเกี่ยวข้อง หรือมีส่วนในการกระทำความผิด สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะดำเนินคดีอย่างถึงที่สุด

ส่วนการตรวจพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลทั้ง 23 ราย นั้น ทางสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ได้ร่วมกับ สพฐ.ตร. ตรวจพิสูจน์เรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างออกรายงานรับรองการเสียชีวิต และใบมรณะบัตร โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้จัดรถตำรวจทางหลวง และตำรวจท่องเที่ยว นำขบวนและอำนวยความสะดวกตลอดเส้นทาง พร้อมส่งกลับภูมิลำเนาที่จังหวัดอุทัยธานี และจัดการดูแลอำนวยความสะดวกให้บริการ พร้อมดูแลสภาพจิตใจของครอบครัว และผู้ใกล้ชิดของผู้ประสบเหตุอย่างเต็มที่

สำหรับผู้ขับขี่ พนักงานสอบสวน สภ.คูคต ได้แจ้งข้อหา “กระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย  ขับรถประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย  ขับรถในทางก่อให้เกิดความเสียหาย  ไม่หยุดรถให้การช่วยเหลือ  ไม่แสดงตัวและไม่แจ้งเหตุต่อเจ้าพนักงาน เป็นเหตุให้บุคคลอื่นถึงแก่ความตาย” เบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ซึ่งทางพนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัวไปฝากขังแล้ว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"นายกฯ" ไข้กลับ หน้าซีด อ่อนเพลีย หลังลงพื้นที่นครพนม เรียกทีมแพทย์เช็กอาการด่วน
"CPF เคียงข้างยามวิกฤต" ชวนคนไทยส่งต่อพลังแห่งการให้ รพ.รามาธิบดี
"อธิบดีกรมอุทยานฯ" แจงยิบปมเงินรายได้ ยอมรับเตรียมปลด ‘ทราย สก๊อต’ พ้นที่ปรึกษา เหตุทัศนคติไม่ตรงกัน วอนรถทัวร์ดูข้อเท็จจริง
"พิพัฒน์" นำทีมเยี่ยมกลุ่มอาชีพอิสระ เครือข่ายแรงงาน นครพนม รับฟังปัญหา พร้อมเดินหน้ากองทุนหนุนพัฒนาอาชีพ
ATC ยื่นจม.ฉบับ 2 ขอ “นายกฯ” เร่งแจงข้อเท็จจริง ปมตึกสตง.ถล่ม ภายใน 15 วัน
สนามไชย 2 ชู "โครงการพระราชดำริ" มุ่งพัฒนาคน-ชุมชน ยกระดับคุณภาพชีวิต
"ดีเอสไอ" เตรียมเรียก "40 วิศวกร" ร่วมออกแบบ-ก่อสร้าง สอบข้อเท็จจริง ปมตึกสตง.ถล่ม
"นายกฯ“ กราบสักการะพระธาตุประสิทธิ์ นครพนม ขอปชช.มั่นใจ รัฐบาลพร้อมทำเต็มที่ ฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจ
"เสรีพิศุทธ์" เอาคืน "ทักษิณ" ชี้หน้าเครียดคดีรุม แฉหมดใครผิดสัญญา ลั่นเสียหมาเลย ถ้ายอมรับเก้าอี้รองนายกฯ
"นฤมล" ติดตามแก้ปัญหาค้าผลไม้ ไทย-จีน เน้นย้ำคุณภาพ พืชปลอดสารเคมี สร้างเชื่อมั่น มาตรฐานสินค้าเกษตรไทย

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น