The Times of Israel และรอยเตอร์สรายงานว่ากองกำลังอิสราเอลได้เพิ่มแรงกดดันฮิซบอลเลาะห์หลังเสียท่าถูกอิหร่านยิงขีปนาวุธเกือบ 200 ลูกโจมตีหลายพื้นที่ทั่วประเทศเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา (อังคารที่ 1 ตค.) ด้วยการระดมกำลังภาคพื้นดินจากหลายหน่วย รวมทั้งกองพลยานเกราะ, หน่วยพลร่มและหน่วยคอมมานโดเข้าสู่ทางใต้ของเลบานอน เพื่อเข้าไปเสริมกับกองกำลังที่ส่งเข้าไปก่อนหน้านี้
ขณะที่โฆษกกองทัพอิสราเอลก็ได้ส่งข้อความเป็นภาษาอาราบิกเตือนในชาวเลบานอนตามแนวพรมติดอิสราเอลให้อพยพเพิ่มเติมอีก 24 หมู่บ้านในวันนี้ (พุธทื่ 2 ตค.) โดยสั่งให้อพยพขึ้นเหนือโดยทันที ห้ามมุ่งหน้าลงใต้ โดยประกาศว่าบ้านใครที่ถูกฮิซบอลเลาะห์ใช้เป็นฐานปฏิบัติการจะตกเป็นเป้าโจมตี พร้อมกล่าวหาฮิซบอลเลาะห์ว่าเป็นต้นเหตุที่บีบบังคับให้อิสราเอลต้องเปิดปฏิบัติการโจมตีแบบนี้
การสั่งอพยพวันนี้มีขึ้นหลังจากที่เมื่อวานนี้สั่งอพยพไปแล้ว 28 หมู่บ้าน ซึ่งอยู่ทางใต้ของเลบานอนเช่นกัน เพื่อเคลียร์พื้นที่สำหรับเปิดปฏิบัติการภาคพื้นดิน โดยหวังทำลายโครงสร้างพื้นฐาน รวมทั้งอุโมงค์ใต้ดินที่อยู่ตามแนวพรมแดน
อิสราเอลบอกว่าปฏิบัติการภาคพื้นดินในเลบานอนจะอยู่ในวงจำกัดและครอบคลุมเฉพาะภาคใต้ และจะรีบทำรีบจบ โดยจะไม่มีแผนจะขยายแนวรบเข้าสู่เมืองใหญ่หรือกรุงเบรุตแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามการที่อิสราเอลสั่งเสริมกำลังพลทหารราบในวันนี้เป็นการส่งสัญญานว่าปฏิบัติการสู้รบภาคพื้นดินในเลบานอนไม่น่าจะอยู่ในวงจำกัดอย่างที่ประกาศเอาไว้ และล่าสุดยังมีการประกาศว่าค้นพบอุโมงค์ใต้ดินและคลังอาวุธจำนวนมากซุกซ่อนอยู่ที่ชั้นใต้ดินของบ้านเรือนประชาชน
ขณะที่นักรบฮิซบอลเลาะห์เผยว่าได้มีการเผชิญหน้ากับทหารราบอิสราเอลที่บุกรุกเข้ามาในดินแดนเลบานอน ทำให้เกิดการยิงปะทะกันที่หมู่บ้านอะเดย์เซห์ ทำให้ทหารอิสราเอลต้องล่าถอย
ขณะเดียวกันอิสราเอลก็ได้เปิดปฏิบัติการโจมตีทางอากาศที่ชานกรุงเบรุตอีกระลอกเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น (พุธที่ 2 ตค.) ทำให้เกิดควันไฟพวยพุ่งเต็มท้องฟ้า
