“สส.จุฬาลักษณ์” พรรคปชน. ชี้แจงปมดราม่าของบริจาค น้ำท่วมเชียงราย ขอให้ดูข้อเท็จจริง อย่าบั่นทอนคนทำงาน
"สส.จุฬาลักษณ์" พรรคปชน. ชี้แจงปมดราม่าของบริจาค น้ำท่วมเชียงราย ขอให้ดูข้อเท็จจริง อย่าบั่นทอนคนทำงาน
ข่าวที่น่าสนใจ
4 ต.ค.67 น.ส.จุฬาลักษณ์ ขันสุธรรม สส.เชียงราย เขต 6 พรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี ที่เพจ “วันนี้พรรคส้มโกหกอะไร” ออกมาเปิดเผย ว่าได้นำป้ายชื่อตัวเองร่วมกับทีมบริจาคราชบุรี ไปติดที่อาคารเทศบาลตำบลแม่จัน อ.แม่จัน จ.เชียงราย ทั้งที่ของบริจาคดังกล่าวไม่มีสิ่งของที่มาจาก สส.จุฬาลักษณ์ ว่า ข้อเท็จจริงอยู่ที่เจ้าของเรื่อง ไม่มีอะไรต้องชี้แจง ไปสืบดูหลักฐานได้ เพราะท็อปนิวส์ทำได้อยู่แล้วเรื่องนี้ และเรื่องนี้ไม่มีประเด็นอะไรเลย เพราะว่าในพื้นที่เรารู้ดีอยู่แล้ว ว่ามันเป็นยังไง แล้วก็สถานการณ์หน้างาน คือเรารู้เลยว่าไม่มีข้อเท็จจริง ข้อเท็จจริงบางส่วนเขาพูดไม่หมด
เมื่อถามถึงกรณีที่ทางทีมงานผู้ช่วยสส.ของตนเองนั้นเหมือนจะมีปัญหากัน ในเรื่องของที่จะบริจาค กับทีมบริจาคราชบุรี น.ส.จุฬาลักษณ์ กล่าวว่า อยู่ดี ๆ มีปัญหาไม่ได้ ต้องมีเหตุผล มีที่มาที่ไป คนที่เป็นผู้ประสานงานกับทีมงานของตนมีข้อมูลข้อเท็จจริงทั้งหมด แต่ไม่อยากออกมาพูดอะไร แต่ข้อมูลเท่าที่จริงทั้งหมดต้องไปคุยกับผู้ประสานงานที่เขาประสานงานกับทีมจะชัดเจนที่สุด รวมไปถึงสอบถามไปยังน.ส.มณีรัฐ เขมะวงค์ สว.ได้ ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร
“คิดว่าการแก้ต่างมันไม่น่าจะเป็นเหตุผลที่ดี ถ้าสมมติคนรับฟังก็จะสามารถเข้าใจได้ ในสิ่งที่มันเกิดขึ้น แต่ถ้าเราพูดไปแล้วมันเหมือนการแก้ตัวมากกว่า ก็ไม่ใช่การแก้ต่างในมุมมองของสังคม เพราะว่าตอนนี้ข่าวที่ปั่นออกมา มันไม่จริง ทั้งหมด ทำให้เราเสียหายไปแล้ว เพราะฉะนั้น ถ้าเราอยากได้ข้อเท็จจริงทั้งหมดและหลักฐานก็ปรากฏอยู่กับทุกๆ คนที่เขาทำงานด้วยหมดเลย”
ส่วนยืนยันว่าไม่ได้เป็นเหมือนที่เกิดดราม่าขึ้นใช่หรือไม่ น.ส.จุฬาลักษณ์ ระบุว่า เรื่องดราม่ามันมีหลายประเด็นมากที่ไม่สามารถชี้จะชี้แจง ว่าประเด็นไหนมันถูกประเด็นไหนเอาไปตีข่าว เพราะทุกครั้งที่เราชี้แจงก็ไม่มีใครเอาข้อเท็จจริงของเราไปพูดต่อ เป็นการไปตีตรา ด่าเราต่อว่าเราออกมาแก้ตัวแล้ว
ตนก็รู้สึกว่าไม่น่าจะเป็นอะไรที่ดีต่อสังคม และต่อการทำงานร่วมกัน จึงอยากจะเน้นย้ำในการสื่อสารจริยธรรมของผู้สื่อข่าว ว่าข้อเท็จจริงที่นิ่งแล้วเราไปสื่อสารจะดีกว่า ถ้าไม่ใช่ข้อเท็จจริงแล้วมาพูดในวงกว้าง ดูเหมือนมีศาลเตี้ยที่สังคมตัดสินไปแล้ว ทำให้ลดทอนคนที่ทำงานจริง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
