เรตติ้ง “แพทองธาร” พุ่ง ตัดกำลัง “พรรคส้ม” ร่วง

เหตุผลที่ “จักรภพ เพ็ญแข” ท้าดวลเพราะต้องการวัดกึ๋น กับพรรคที่ตั้งตนเป็น “พรรคปฏิวัติ” พร้อมกับตั้งคำถามแรง ๆ ว่า การใช้โซเซียลมิเดียเป็นเครื่องมือ ปั่นกระแส เขียนหรือการพูดที่เชือดเฉือนให้เจ็บใจ หรือ การมีแนวคิดสุดโต่งโดยไม่ยอมรับความคิดของอีกฝ่าย ไม่ใช่ “วิถีทางประชาธิปไตย” ใช่หรือไม่?  ทั้งยังต้องการดวลฝีปากกันให้สะเด็ดน้ำในประเด็นที่ “พรรคส้ม” นำมาตรา 112 มาเป็นสัญลักษณ์แห่งการต่อสู้ทางการเมือง ขณะที่ “จักรภพ เพ็ญแข”ประกาศชัดคัดค้านนิรโทษกรรมล้างผิดคดี 112 ดังนั้นในทางการเมืองจึงมองได้ว่าการเคลื่อนไหวของ “จักรภพ เพ็ญแข” ช่วยตัดกำลังคะแนนนิยม “พรรคส้ม” พร้อมกับช่วยเติมคะแนนนิยมให้ “พรรคเพื่อไทย”จากฝ่ายอนุรักษ์นิยม “แดงเฉดเหลือง” ที่ไม่เอา “พรรคส้ม”

เช่นเดียวกับการสะสมชัยชนะของฝ่ายพรรคร่วมรัฐบาล ในการเลือกตั้งท้องถิ่น 11 สนามเลือกตั้งนายกอบจ. “พรรคส้ม” แพ้ไป 6 สนาม ไล่ตั้งแต่ สนามที่ 1 จังหวัดพระนครศรีอยุธยา , สนามที่ 2 จังหวัดชัยนาท , สนามที่ 3 จังหวัดพะเยา , สนามที่ 4 จังหวัดพิษณุโลก , สนามที่ 5 จังหวัดราชบุรี และ  สนามที่ 6 เลือกตั้งซ่อม สส.จังหวัดพิษณุโลก “จเด็ศ จันทรา” ค่ายเสื้อแดงพรรคเพื่อไทย ชนะศิษย์ก้นกุฏิของ “หมออ๋อง” ปดิพัทธ์ สันติภาดา แกนนำพรรคก้าวไกลเดิม ที่ต้องหลุดตำแหน่ง สส.เพราะถูกยุบพรรคคดีล้มล้างการปกครอง ชัยชนะของ “พรรคเพื่อไทย” ตอกย้ำ วาทกรรมที่ว่า ยิ่งยุบยิ่งโต ตายสิบเกิดแสน หรือ ยักไหล่แล้วไปต่อ ? เสื่อมมนต์ขลังไปแล้วใช่หรือไม่ เพราะเป็นความพ่ายแพ้ถึง 6 สนามซ้อน! ทั้งที่ส่งตัวแทนในนามพรรคอย่างเป็นทางการและส่งในนามพรรคอย่างไม่เป็นทางการ

รวมไปถึง “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี เข้าใจกระแสสังคมและความรู้สึกสังคม  ทำให้ได้รับคะแนนนิยม อย่างล่าสุดเหตุการณ์เศร้าสลด จนเกิด ดราม่า เรื่อง “ยกเลิกทัศนศึกษา” “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พูดในฐานะหัวอกคนเป็นแม่ ที่มีลูกถึง 2 คน มองว่า การทัศนศึกษาไม่ได้ทำร้ายเด็ก แต่รถที่ไม่ได้ถูกดูแลหรือถูกตรวจคือสิ่งที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน ซึ่งต้องมาแก้ปัญหาในส่วนกระทรวงคมนาคมจะวางกฎและกรอบอย่างไร  ดังนั้นจึงใช้โอกาสนี้ที่จะสามารถวางระบบให้ชัดเจนขึ้นได้ หรือแม้แต่ “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี จับทิศทางกระแสสังคมออก  ไม่ต้องการ “ลดมาตรฐานจริยธรรม” ปล่อยนักการเมืองสีเทาเข้ามามีอำนาจ จึงยอมถอยกรูดไม่แก้รัฐธรรมนูญลดมาตรฐานจริยธรรม  เพราะขืนดันทุรังทำไปจะถูกมองได้ว่าทำเพื่อประโยชน์นักการเมือง  ขณะที่ประชาชนกำลังทุกข์ระทมกับปัญหาน้ำท่วมในทางภาคเหนือหลายจังหวัดและปัญหาปากท้องอยู่ในขณะนี้

ดังนั้นทั้งพลานุภาพ “แจกเงิน1หมื่นบาท” ปัดฝุ่นโครงการคนละครึ่ง ผลงานชิ้นโบว์แดง ยุค”บิ๊กตู่” ซื้อใจประชาชนได้เต็ม ๆ  ผนวกกับผลพวงแห่งการสะสมชัยชนะการเลือกตั้งท้องถิ่นเหนือพรรคส้ม ได้ถึง 11 สนาม  หรือ การที่พรรคเพื่อไทย ไฟเขียว “จักรภพ เพ็ญแข” นักการเมืองสมองเพชรฝีปากกล้า เปิดศึกวัดกึ๋นกับ 2 ผู้นำจิตวิญญาณ “พรรคส้ม” ช่วยตัดกำลัง “พายุส้ม” คะแนนนิยมคู่แข่งทางการเมืองในทางอ้อมไม่มากก็น้อย  ทั้งหมดอาจเป็นปัจจัยหนึ่งที่ช่วย ดันเรตติ้ง “แพทองธาร ชินวัตร” ออกตัวแรงขึ้นนำ ทำ “พรรคส้ม”ร่วงนั้นเอง!