ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยัง ศูนย์สงเคราะห์บำบัดฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด วัดท่าพุราษฎร์บำรุง หมู่ 10 ต.ด่านมะขามเตี้ย อ.ด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี พบนายธวัช ภูมิผิว น้องชายอดีตเจ้าอาวาส พร้อมเปิดเผยถึงประเด็นต่างๆที่กำลังเป็นข่าวอยู่ ณ ขณะนี้ ว่า อยากให้ผู้เสพข่าว ผู้เสพโซเซียลต่างๆ ได้ดูสองด้านของในวัดไม่ได้ดูด้านเดียว
นายธวัช กล่าวอีกว่า ที่นี่จะมีกฎระเบียบมีไม้เรียวไว้ทำโทษ กรณีที่ผู้บำบัดทำผิดกฎที่กำหนดไว้ จะดูแลกันเหมือนพ่อแม่สอนลูก เหมือนครูสอนลูกศิษย์ ถ้าทำผิดก็มีการลงโทษ และมีบางคนพาผู้บำบัดมาส่งที่วัดแค่หนเดียว แล้วพอผ่าน 2 – 3เดือน หรือเป็นปี โทรไปไม่รับติดต่อไม่ได้หายไปเลย แล้วผู้บำบัดในบางส่วนที่ย้ายไปไว้ที่ รพ.สนาม (เขาชนไก่) ในค่ายฝึกนักศึกษาวิชาทหาร ต.ลาดหญ้า อ.เมืองกาญจนบุรี ถ้าไม่มีญาติติดต่อมารับพวกเขาจะอยู่อย่างไร ใครจะรับผิดชอบพวกเขา
ส่วนที่ต้องมีการควบคุมนั้น เนื่องจากคนหมู่มากเขาอยากกลับบ้าน ถ้าแอบหนีออกไป แล้วไปลักรถ ลักเสื้อผ้า ลักข้าวของของชาวบ้าน เกรงว่าจะไปสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านละแวกใกล้เคียงรวมทั้งวัดก็จะเกิดปัญหา
ด้านผู้บำบัดที่สมัครใจบวชพระ เปิดเผยถึงความเป็นอยู่ที่มาเข้ารับการบำบัดที่ศูนย์แห่งนี้ว่ามีลำบากบ้าง บางครั้งถ้าทำผิดเขาก็ทำโทษบ้าง แต่ก็ใช้ชีวิตอยู่แบบปกติ ในส่วนผู้บำบัดฯที่ไม่ได้บวชพระนั้น บางครั้งก็มีออกมาทำกิจกรรม ตัดหญ้าบ้าง ช่วยงานวัด หล่อพระบ้าง สำหรับท่านแล้วตัดสินใจอยู่ที่วัดนี้ต่อเพราะที่นี่ดีดูแลดี
ทั้งนี้บรรยากาศภายในวัดดูเงียบเหงาหลังจากพระครูปลัดประสิทธิ์ รตินฺธโร อดีตเจ้าอาวาสวัดท่าพุราษฎร์บำรุง ได้มรณภาพเมื่อวันที่ 20 กันยายน 2564 โดยชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณวัด กล่าวถึงพระครูปลัดประสิทธิ์ รตินฺธโร อดีตเจ้าอาวาสวัดท่าพุราษฎร์บำรุง ว่าท่านเป็นพระที่พูดตรง ดุบ้างถ้าทำผิด แต่ไม่มีการทำร้ายร่างกาย อาจจะลงโทษบ้างถ้าเราทำผิด เหมือนเราเป็นนักเรียนทำผิดก็ต้องโดนทำโทษโดนตีเหมือนกันมันเป็นเรื่องธรรมชาติ