วันที่ 23 ก.ย. – นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีที่ คณะรัฐมนตรี เห็นชอบร่าง พ.ร.ก แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ โรคติดต่อ 2558 พ.ศ. …. ว่า ทั้งนี้จากการพิจารณาพบว่า สาระสำคัญมีการแยกบริหารสถานการณ์โรคติดต่อกรณีปกติและกรณีที่มีความรุนแรง โดยรัฐบาลนำเอาบทบัญญัติบางประการจาก พ.ร.ก ฉุกเฉิน 2548 มาบัญญัติไว้ ทั้งนี้ การประกาศและการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุข โดยนายกรัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี จัดตั้งคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ โดยนายกฯ เป็นประธาน ทำหน้าที่คล้าย ศูนย์บริหารสถานการณ์ โควิด19 หรือ ศบค. กำหนดมาตรการต่างๆ ในการป้องกัน ระงับ ควบคุมหรือขจัดโรคติดต่อ ให้ยุติหรือบรรเทาลงโดยเร็ว การคุ้มครองเจ้าหน้าที่ของรัฐจากการถูกฟ้องทางปกครองและไม่ต้องชดเชยความเสียหายที่เกิดจากการบังคับใช้มาตรการควบคุมโรคในช่วงที่มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน
นายแพทย์ชลน่าน กล่าวด้วยว่า “คำถามที่ต้องถามรัฐไม่ต้องชดเชยความเสียหาย คุ้มครองเจ้าหน้าที่รัฐทุกคนทุกระดับหรือไม่ ฝ่ายบริหาร ฝ่ายการเมือง ที่ออกนโยบายผิดพลาด เป็นผลการดำเนินการเฝ้าระวัง ป้องกันหรือควบคุมโรค ทำให้เกิดความเสียหายได้รับการคุ้มครองหรือไม่ มีเจตนาที่จะนิรโทษกรรมให้กับฝ่ายการเมืองใช่หรือไม่ เพราะการเขียนกฎหมายเช่นนี้ครอบคลุมเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายอย่างเห็นได้ชัด การให้บริการในสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุข มีความไม่พร้อมหลายๆ ด้านอาจก่อให้เกิดความเสียหายได้ โดยหลักของสิทธิในชีวิตและร่างกาย ตามรัฐธรรมนูญแล้วทุกคนต้องได้รับการคุ้มครอง ความเสียหายที่เกิดขึ้น จากรัฐทั้ง ผู้ให้บริการและผู้รับบริการ ผู้ให้บริการที่ทำหน้าที่โดยสุจริต ไม่ประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง ไม่เลือกปฏิบัติ ต้องได้รับความคุ้มครองไม่มีความผิดทั้งทางแพ่ง ทางอาญาและทางวินัย ก่อนที่จะนำทูลเกล้าฯ หวังว่าผู้เกี่ยวข้องควรทบทวนในประเด็นเหล่านี้