“ทนายอนันต์ชัย” บุกเกาะเต่า สางปัญหา หลังชาวบ้านร้องถูก “ธนารักษ์” แย่งที่ทำกิน

จากกรณีชาวบ้านบนเกาะเต่า ร้องขอความเป็นธรรม หลังมีข้อพิพาทกับกรมธนารักษ์ อ้างสิทธิ์ แย่งที่ทำกิน ล่าสุด “ทนายอนันต์ชัย” ลงพื้นที่ตรวจสอบ พบหลักฐานว่าชาวบ้านได้เข้ามาทำกิน ก่อนที่กรมธนารักษ์อ้างสิทธิ์ครอบครอง

“ทนายอนันต์ชัย” บุกเกาะเต่า สางปัญหา หลังชาวบ้านร้องถูก “ธนารักษ์” แย่งที่ทำกิน – Top News รายงาน

ทนายอนันต์ชัย

 

เมื่อวานนี้ (5 ต.ค.67) นายอนันต์ชัย ไชยเดช เจ้าของฉายา “ทนายกระดูกเหล็ก” พร้อมคณะเดินทางลงพื้นที่เกาะเต่า อำเภอเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี ตามคำร้องเรียนของชาวบ้าน เพื่อช่วยเหลือ และพิสูจน์ความจริง ทันทีที่เดินทางถึงเกาะเต่า ก็มีนางปราณี เนียมปูน อายุ 64 ปี พร้อมชาวบ้านให้การต้อนรับ และพาทนายอนันต์ชัย ไปดูซากกระเบื้องหลังคา วัสดุก่อสร้าง และเศษซากไม้ของเรือนจำเก่า รวมถึงบ้านไม้โบราณหลังแรกของเกาะเต่า ซึ่งเป็นหลักฐานบางส่วนที่ยืนยันเป็นประจักษ์พยานต่อสู้เรียกร้องสิทธิ์จากกรมธนารักษ์ พร้อมทั้งพาสำรวจร่องรอยที่ตั้งของเรือนจำเกาะเต่าเมื่อครั้งอดีต บนพื้นที่ 25 ไร่ อ้างอิงจากทะเบียนราชพัสดุ แปลงเลขที่ 34 กรมธนารักษ์ และบันทึกบางส่วน จาก ลิขิตชีวิต สอ เสถบุตร

นาย กาโย บุญชัย อายุ 88 ปี และนางปราณี เนียมปูน อายุ 64 ปี ชาวบ้านบนเกาะเต่า เล่าว่า พ่อ และปู่ ย้ายเข้ามาอยู่อาศัยทำกินตั้งแต่ตนเองอายุ 13 ปี โดยย้ายมาจากเกาะสมุย ยึดอาชีพปลูกมะพร้าว ปลูกพืชผัก ทำประมง แต่ก่อนไม่มีใครมาร้องเรียนว่าเป็นที่ของกรมธนารักษ์ พอทำมาหากินมีความเจริญงอกงาม จึงมาแจ้งสิทธิ ว่าเป็นที่ของกรมธนารักษ์ ซึ่งชาวบ้านเกาะเต่าอยู่มาด้วยความยากลำบาก จริงๆ แล้ว ที่ดินของกรมธนารักษ์มีเพียง 25 ไร่ เมื่อมีการอ้างสิทธิ์ชาวบ้านทั้งเกาะได้รับความเดือดร้อน จึงให้ทนายอนันต์ชัย เข้ามาช่วยเหลือชาวบ้าน

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

จากนั้นในเวลา 14.00 น. วันเดียวกัน ทนายอนันต์ชัย พร้อมด้วย ดร.ประยุทธ ประเทศเสนา ได้เดินทางไปร่วมการประชุมกับนาย กอบชัย เสาวลักษณ์ อดีตกำนันตำบลเกาะเต่า พร้อมด้วยนางชไมพร เสาวลักษณ์ รองนายกเทศมนตรีตำบลเกาะเต่า และตัวแทนชาวบ้านกว่า 20 คน ที่เทศบาลตำบลเกาะเต่า ภายหลังการประชุมทนายอนันต์ชัย กล่าวว่า ตนเองได้รับการร้องเรียนจากนางปราณี เกี่ยวกับเรื่องที่ราชพัสดุบนเกาะเต่า ซึ่งชาวบ้านทำกินก่อนกรมราชทัณฑ์ ต่อมา กรมธนารักษ์จะมาครอบครอง โดยเฉพาะเป็นเรือนจำเก่ามี 25 ไร่ แต่หลังจากเลิกเรือนจำปี 2490 มีการออก หนังสือ สค.1 จำนวน 15,000 ไร่ ประมวลที่ดินใช้บังคับ 2497 ให้ราษฎรที่ทำกินไปแจ้งสิทธิครอบครอง

แต่กรมธนารักษ์ไปแจ้ง จำนวน 15,000 ไร่ แทนที่จะแจ้งแค่ 25 ไร่ ตามที่เคยครอบครอง แต่ไม่ได้ครอบครองจริง ตามคำนิยามที่ราชพัสดุ ถ้าหากครอบครองอยู่แล้ว ก็ถือว่าเป็นที่ราชพัสดุ แต่ที่ดินซึ่งไม่ได้ครอบครอง เป็นที่รกร้างว่างเปล่า จึงกลายเป็นว่า กรมธนารักษ์มาแย่งสิทธิครอบครองของชาวบ้าน ซึ่งเป็นสิทธิที่มีอยู่จริง การขอโฉนดต้องสืบสิทธิถึงออกโฉนดได้ แต่กฎกระทรวงฉบับที่ 43 จะต้องมีหนังสือเอกสารถึงออกโฉนดได้ เมื่อกรมธนารักษ์แจ้งออกแล้ว ชาวบ้านจึงออกไม่ได้ในปี 2498 จึงเป็นข้อพิพาทตั้งแต่วันนั้นถึงวันนี้

จนกระทั่ง กอ.รมน. และตั้งคณะกรรมการ กปล. และกรรมาธิการ 2 หน่วยที่เข้ามาทุกคนลงความเห็นว่า กรมธนารักษ์ ราชพัสดุ ออกที่ดินเกินกว่าที่ตนเองครอบครองจำนวน 25 ไร่ ซึ่งเป็นเรือนจำเก่า แต่ติดอยู่ที่กฎกระทรวงฉบับที่ 43 ว่าต้องมีหลักฐาน ชาวบ้านจึงไม่สามารถออกโฉนดได้เลย ขณะนี้อยู่ในการฟ้องร้องศาลปกครอง จึงยื่นคำร้องต่อทนายอนันต์ชัย เนื่องจากว่าต่อสู้มานานกว่า 60 ปี

ทั้งนี้ ทีมทนายอนันต์ชัย จะเสนอข้อเท็จจริงข้อกฎหมาย ซึ่งรวบรวมโดย กอ.รมน. และแม่ทัพภาคที่ 4 ซึ่งถือว่ามีคุณูปการกับชาวเกาะเต่ามาก เอาพยานหลักฐานเสนอผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อยกเลิก เพิกถอนแก้ไขกฎกระทรวงฉบับที่ 43 ในส่วนที่บอกว่าจะต้องมีหลักฐานเป็น สค.1 และให้มีการสืบสิทธิตามข้อเท็จจริง โดยจะใช้มาตรา 59 ทวิ มาเป็นหลักในการออกสิทธิแก้เฉพาะบางส่วน โดยให้ผู้ตรวจการแผ่นดินยื่นศาลปกครอง หรือศาลรัฐธรรมนูญ ตามมาตรา 230 ,231 ซึ่งเป็นแนวทางที่ไม่มีใครทำมาก่อน หากว่ามีการแก้ไขกฎกระทรวงฉบับที่ 43 แล้ว จะเป็นคุณูปการกับที่อื่นๆด้วย ที่ไม่มีหลักฐาน แต่สืบสิทธิมาตั้งแต่บรรพบุรุษ ถ้าแก้ตรงนี้ก็น่าจะไปต่อได้

นอกจากนี้ ทนายอนันต์ชัย จะยื่นหนังสือแก่สภาผู้แทนราษฎร ตั้งกระทู้ถามว่า แนวทางแก้ไขที่เสนอนั้นจะเป็นอย่างไร หลังจากนี้จะรวบรวมรายชื่อชาวบ้านบนเกาะเต่าทั้งหมด ทำหนังสือถึงผู้ตรวจการแผ่นดินยื่นศาลปกครองวินิจฉัย ว่ากฎกระทรวงฉบับที่ 43 ขัด หรือแย้งกับมาตรา 59 ทวิ ในส่วนที่ต้องสืบสิทธิตามข้อเท็จจริง ถ้าทำได้ เกาะเต่าจะเป็นโมเดลให้กับพื้นที่อื่น ซึ่งไม่มีหนังสือหลักฐานเป็น สค.1 เพื่อจะเอา พ.ร.บ.ไปหักล้างกฎกระทรวงได้อย่างไร

         

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

‘แอ็คมี่’ นักธุรกิจนักลงทุนหมื่นล้าน หนุนประเทศไทยใช้ Bitcoin เป็นกองทุนสำรอง
อย่ากระพริบตา... ตามไปดูสนามเลือกตั้ง นายก อบจ. เมืองคอนกระแสน้ำวาริน ชิณวงศ์ สร้างปาฏิหาริย์ล้มบ้านใหญ่ ได้จริงหรือไม่-ในขณะที่คอการเมืองชี้บ้านใหญ่"เดชเดโช กนกพร"นอนมากำชัยชนะเป็นนายก อบจ. รอบ 2 อย่างแน่นอน
มติสภากทม.ไฟเขียว งบรายจ่ายเพิ่มปี 68 กว่า 1.4 หมื่นล้าน นำใช้คืนหนี้ BTS
“อี้ แทนคุณ” รัวบาลีใส่ไม่ยั้ง “พระปีนเสา” อ้าปากหวอ-แปลไม่ถูก แถขับรถบิณฑบาตไม่ผิด
ชื่นชมน้องรดายอดกตัญญูขายข้าวไข่เจียวหน้าโรงเรียนเพื่อส่งตนเองเรียนและเลี้ยงแม่ที่เป็นโรคไตระยะสุดท้าย
ชื่นชม 2 นร. ม. 2 เก็บกระเป๋าเงินได้ โร่ แจ้ง ตร. ส่งคืนเจ้าของ
คอหวยไม่พลาด!! แห่ทุ่มแทงเลข 711 ป้ายทะเบียนรถหน่วยกู้ภัยเพชรเกษมเมืองคอน-หลังช่วยทำคลอดฉุกเฉินบนรถกู้ภัย - ชี้ สถิติหวย 6 งวด ที่ผ่านมา เลขท้าย 3 ตัวรางวัลที่ 1 ออกเลขคู่เลขหามถึง 5 งวดเชื่องวดวันที่ 1 ธันวาคมยัง มีความเป็นไปได้สูงที่จะออกเลขคู่เลขหามอีกครั้ง
"อัจฉริยะ" เข้าให้การตำรวจกองปราบ แฉพฤติกรรม "ทนายตั้ม" สร้างพยานเท็จนาน 6 ปี
รองผู้ว่า ฯเมืองคอนสั่งลุยหารือคณะทำงานร่วมพิจารณารับรองคุณภาพสถานพยาบาลยาเสพติดและสถานฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดเพื่อให้เป็นศูนย์คัดกรองและศูนย์ฟื้นฟูก่อนลงพื้นที่ตรวจกองร้อย อสจ.นครศรีธรรมราชที่ 1 เปิดดำเนินการสถานพยาบาลฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดเพิ่มอีก 1 แห่ง
กรมที่ดิน ชี้แจงรายละเอียดที่มาและอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการสอบสวน ตามความในมาตรา ๖๑ แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น