“ตร.-ฝ่ายปกครอง” บุกตรวจสอบ “ทุนจีน” สร้างคฤหาสน์หรูริมแม่น้ำเจ้าพระยา ขัดขืนคำสั่ง ป.ป.ง.ก่อสร้างรุกล้ำทางเดินเท้า

หลังใช้เวลาประชุมประมาณ 1 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่เทศบาลนครนนทบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตม.จ.นนทบุรี ได้ลงพื้นที่เข้าตรวจสอบโครงการก่อสร้างดังกล่าว พบว่า ภายในโครงการแห่งนี้ยังมีคนงานทำงานก่อสร้างกันอยู่เป็นจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่เป็นแรงงานต่างด้าวทั้งชาวจีนและชาวเมียนมา ที่ขออนุญาตเข้ามาทำงานถูกต้อง

เบื้องต้นวิศวกรที่ควบคุมงานก่อสร้างได้ชี้แจงกับทางเจ้าหน้าที่ให้ทราบว่า ป้ายคำสั่งที่เจ้าหน้าที่นำมาติดไว้ที่ประตูในครั้งแรกเกิดหลุดออก จึงได้ย้ายป้ายมาติดด้านหลังประตูทางเข้าออกแทน ส่วนที่ยังมีคนงานเข้ามาทำงานต่อเนื่องอยู่นั้น เป็นเพราะทางเจ้าของโครงการได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งอายัดของทาง ปปง.แล้ว หากสั่งหยุดดำเนินการก่อสร้างในตอนนี้จะส่งผลกระทบกับบริษัทผู้รับเหมาที่เข้ามาดำเนินงานก่อสร้าง ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับคำสั่งของทาง ปปง.

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบ พบว่า โครงการก่อสร้างแห่งนี้ได้ก่อสร้างรุกล้ำกินพื้นที่ทางเดินเท้า โดยอ้างว่ากำลังทำการปรับปรุง โดยนางจันทร์จิรา ลักษณะกุลบุตร ผู้อำนวยการสำนักช่าง เทศบาลนครนนทบุรี กล่าวในเรื่องนี้ว่า

เรื่องการก่อสร้างรุกล้ำขึ้นมาบนทางเดินเท้านั้น ผู้รับเหมาได้ยื่นขออนุญาตการปรับปรุงทางเดินเท้าหน้าไซด์งานก่อสร้างกับเทศบาลนครนนทบุรีไว้ แต่ทางเทศบาลกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาออกใบอนุญาต ยังไม่ทันได้อนุญาตให้ทำการปรับปรุง จึงได้สั่งการให้ทางผู้รับเหมาโครงการเร่งคืนพื้นที่ทางเดินเท้าให้เสร็จก่อนภายในวันที่ 11 ต.ค.นี้ หากฝ่าฝืนจะมีโทษปรับตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 มีโทษตามมาตรา 65 คือ จำคุก 3 เดือน และปรับไม่เกิน 60,000 บาท

ด้าน พ.ต.อ.พิสุทธิ์ จันทรสุวรรณ ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ กล่าวว่า จากกรณีที่มีข่าวว่าทุนจีนเข้ามาสร้างคฤหาสน์หรูริมแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งต่อมาทางเจ้าหน้าที่ ปปง. ได้นำป้ายคำสั่งอายัดมาติดในบริเวณที่ก่อสร้าง แต่มีกระแสข่าวว่าป้ายอายัดทรัพย์สินถูกปลดออก และยังมีการดำเนินงานก่อสร้างอยู่ ซึ่งเป็นที่สงสัยในทางสังคมว่า ในเมื่อ ปปง.มีการนำหมายอายัดมาปิดแล้ว ทำไมจึงยังมีการก่อสร้างอยู่ และเรื่องแรงงานผิดกฎหมายทำงานในพื้นที่ จึงได้เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเข้าร่วมประชุม