“ผู้ประกันตน” เช็กด่วน 5 โรงพยาบาล รักษา “เข่าเสื่อม” ด้วย พลาสมา ฟรี

ข่าวดี “ผู้ประกันตน” มาตรา 33 และมาตรา 39 สำนักงานประกันสังคม เรักษา “เข่าเสื่อม” ด้วยวิธีการฉีด “พลาสมา” คุณภาพสูง วัตกรรมใหม่ 5 โรงพยาบาล ฟรี เช็กเงื่อนไขได้ที่นี่

 

รักษาเข่าเสื่อมฟรี

Top News รายงาน ภาวะ “เข่าเสื่อม” โดยปกติแล้วจะพบในผู้สูงอายุ หรือ คนที่มีอายุประมาณ 55 ปีขึ้นไป แต่ก็พบได้บ้างในคนที่อายุน้อย ที่ไม่ได้เกิดขึ้นเอง จากการใช้งานหนักมานาน ส่งผลให้มีอาการปวด ข้อติด ข้อบวม และทำให้คุณภาพชีวิตลดลง เรียกได้ว่าเป็นปัญหากวนใจกระทบการใช้ชีวิตประจำวันมาก รวมทั้ง การรักษาเข่าเสื่อม ก็ต้องใช้เงินเป็นจำนวนมากเช่นเดียวกัน แต่มีข่าวดี สำหรับ ผู้ประกันตนมาตรา 33 และ มาตงรา 39 ที่มีภาวะเข่าเสื่อม โดย สำนักงานประกันสังคม เปิดรักษาฟรี ใน 5 โรงพยาบาล

ข่าวที่น่าสนใจ

ผู้ประกันตน เช็กด่วน 5 โรงพยาบาล รักษา เข่าเสื่อม ด้วย พลาสมา ฟรี

 

เงื่อนไข ผู้ประกันตน มาตรา 33 และ มาตรา 39 รักษา “เข่าเสื่อม” ฟรี

 

1. เข้าสถานพยาบาลตามสิทธิและได้รับการวินิจฉัย ประเมินโดยแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญ
2. ผู้ป่วยข้อเข่าเสื่อมระดันและระยะปลายที่รักษาด้วยวิธีการพานยาแล้วไม่ใต้ผล
3. ผู้ป่วยที่รับประทานยาหรือทำกายภาพบำบัด และได้รับการฉีดยาสเตียรอยด์แล้วอาการไม่ดีขึ้น
4. ผู้ป่วยที่มีภาวะแทรกซ้อนจากยาระบทางเดินอาหารและไต และมีโรคที่รับประทานยาแก้อักเสบไม่ได้ เช่น โรคหัวใจ โรคไคตและโรคกระเพาะอาหาร
5. ผู้ป่วยต้องไม่มีพยาธิสภาพที่เป็นข้อห้ามที่ควรหลีกเลี่ยงการฉีด (Contraindication) เป็นต้น
6. สามารถเข้ารับบริการได้ฟรี ไม่เกิน 2 ครั้ง/ปี

 

5 โรงพยาบาล รักษา “เข่าเสื่อม” ผู้ประกันตน

1.โรงพยาบาลกลาง
2.โรงพยาบาลตำรวจ
3.โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์
4.โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่
5.โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 3 อินเตอร์

สามารถสอบถามข้อมูลประกันสังคมได้ที่ www.sso.go.go.th หรือโทรสายด่วน 1506 ให้บริการทุกวัน ตลอด 24 ชัวโมง

 

โรคเข่าเสื่อม รักษาฟรี

เข่าเสื่อม คือ

เข่าเสื่อม (Knee Ostecarthritis) เป็นภาวะที่เกิดวามเสื่อมสภาพของกระดูกอ่อนที่ข้อเข่า มักพบในวัยกลางคน หรือผู้สูงอายุ โดยมีสาเหตุหลักคือ อายุที่เพิ่มมากขึ้น แต่ในปัจจุบันสามารถพบในคนอายุน้อยเช่นกัน ซึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการเข่าเสื่อมก่อนวัย คือปัญหาน้ำหนักตัวมาก การเคลื่อนไหวผิดท่า การเกิดอาการบาดเจ็บบริเวณหัวเช่า รวมไปถึงกรรมธุ์ เมื่อไม่ได้รับการรักษาที่เหมาะสม จะส่งผลให้ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน

 

อาการเข่าเสื่อม มักแสดงออกมาเมื่อต้องเคลื่อนไหว หรือทำกิจกรรมบางอย่าง โดยจะมีอาการเจ็บปวด และรู้สึกฝืดที่ข้อเข่า ทำให้เคลื่อนไหวได้ไม่สะดวก รวมไปถึงเมื่อไม่ได้เคลื่อนไหวนานๆ ก็อาจทำให้เจ็บปวด และรู้สึกฝืดชัดชัดที่ข้อเข่าได้เช่นกัน รวมทั้งมีอาการอื่นๆ ดังนี้

 

  • เกิดเสียงลั่นในข้อเข่าเมื่อต้องเคลื่อนไหว
  • เมื่อกดบริเวณหัวเข่าแล้วรู้สึกเจ็บ
  • เข่าอ่อนแรง และสูญเสียมวลกล้ามเนื้อ
  • ข้อเข่าไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เต็มที่ เสียความยืดหยุ่น มีอาการข้อติด หรือขยับได้ยาก ซึ่งมักเกิดขึ้นเวลาเช้า หรือต้องนั่งเป็นเวลานาน รวมถึงส่งผลต่อการเดิน การขึ้นบันได หรือการลุกจากเก้าอี้

 

เข่าเสื่อม

 

เข่าเสื่อม มีกี่ระยะ

 

  • ระยะเริ่มแรก จะเริ่มมีการสูญเสียกระดูกอ่อนผิวข้อต่อเล็กน้อย เพียง 10% ร่วมกับเริ่มมีกระดูกงอกรอบๆ ขอบของข้อต่อ ในระยะนี้จะยังไม่มีอาการปวด แต่เริ่มมีอาการดึงรอบๆ ข้อเข่า
  • ระยะที่สอง เสื่อมเล็กน้อย กระดูกอ่อนจะเริ่มสึกกร่อนและบางลง เริ่มมีอาการปวดเล็กน้อย ข้อฝืด มีเสียงในข้อ และมีกระดูกงอกเป็นปุ่มบริเวณขอบของข้อ
  • ระยะที่สาม เสื่อมปานกลาง กระดูกอ่อนผิวลึกกร่อนและเกิดกระดูกงอกมากขึ้น ช่องว่างระหว่างเข่าแคบลง ข้อเสียดสีกัน และมีการอักเสบทำให้เข่าบวม ส่งผลให้เคลื่อนไหวแล้วมีอาการปวด ข้อติดฝืด และขัดขณะเดินร่วนร่วมกับมีเสียงในข้อ เริ่มเสียความมั่นคง และความคล่องตัวของข้อเข่า
  • ระยะที่สี่ เสื่อมรุนแรง สูญเสียกระดูกอ่อนรอบข้อต่อถึง 6016 กระดูกงอกมีขนาดใหญ่ขึ้น ข้อต่อชิดติดกัน และมีการอักเสบมากกว่าเดิมอย่างต่อเนื่อง น้ำในข้อลดลง ปวดเข่ามาก เข่าผิดรูป มีการจำกัดการเคลื่อนไหว ยืน เดิน ไม่มั่นคง กล้ามเนื้อรอบเช่าอ่อนแรงทำให้ล้มได้ง่าย

 

เข่าเสื่อม

 

เข่าเสื่อมรักษาอย่างไร

 

1. การปรับพฤติกรรมในการใช้ชีวิต 

  • ลดน้ำหนัก
  • บริหารกล้ามเนื้อข้อเข่าให้แข็งแรงเสมอ
  • ออกกำลังกาย ด้วยการปั่นจักรยาน, เดินเร็ว สัปดาห์ละอย่างน้อย 150 นาที

 

2. การรักษาด้วยยา

  • ยาแก้ปวดหรือยาแก้อักเสบ เช่น ยาอะเซตามิในเฟน (Acetaminophen) หรือยาโอบโพรเฟ่น (Ibyprofen) เพื่อช่วยบรรเทาอาการปวด แต่ไม่ควรใช้ยานานเกินไปเพราะอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงได้
  • ยาคอร์ติโคสเตียรอยด์ชนิดฉีด (Cortisone Injections) เพื่อช่วยลดการอักเสบและความเจ็บปวด โดยแพทย์จะฉีดยาชาและยาชนิดนี้เข้าไปปริเวณข้อเข่าของผู้ป่วย แต่จะฉีดแค่ 3-4 ครั้งต่อปีเท่านั้น เพราะหากฉีดมากเกินไปอาจทำให้เกิดความเสียหายกับข้อเข่าอย่างถาวร
  • กรดไฮยาลูโรนิค (Hyaluronic Acid) เนื่องจากกรดไฮยาลูโรนิกเป็นส่วนประกอบสำคัญของน้ำในข้อต่อ ซึ่งการฉีดกรดไฮยาอุโรนิกเข้าไปบริเวณข้อเข่าจะช่วยเพิ่มความหล่อลื่นให้กับข้อเข่าได้

 

3. การรักษาทางเลือก

  • การใช้ครีมยาเฉพาะที่ เช่น ยาแคปไซซิน (Capsaicin) เพื่อบรรเทาอาการปวดข้อเข่าจากเข่าเสื่อม
  • การใช้ครีมยาเฉพาะที่ เช่น ยาแคปไซชิน (Capsaicin) เพื่อบรรเทาอาการปวดข้อเข่าจากเข่าเสื่อม
  • การประคบร้อนหรือประคบเย็น
  • การใช้ที่รัดเข่า
  • การใช้อุปกรณ์ช่วยพยุงเดิน หรืออุปกรณ์เสริมรองเท้า เพื่อช่วยลดแรงกดและรองรับน้ำหนักที่ข้อเข่า
  • การฝังเข็ม (Acupuncture) เป็นวิธีรักษาตามศาสตร์การแพทย์แผนจีน ซึ่งเชื่อว่าสามารถช่วยกระตุ้นความสมดุลให้มวลกระดูกและกระตุ้นการสร้างน้ำหล่อเลี้ยงที่ข้อได้
  • การรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เช่น คอนดรอยติน (Chondroitin)

 

4. การผ่าตัด

สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงและรักษาด้วด้วยวิธีอื่นๆ ไม่ได้ผล การผ่าตัดมักเป็นทางเลือกสุดท้ายที่แพย์จะใช้ในการรักษา

 

5. รักษาเข่าเสื่อมด้วย พลาสมา 

 

สำนักงานประกันสังคม ให้สิทธิผู้ประกันตน คือ การรักษาเข่าเสื่อม ด้วยพลาสมา หรือ PRP(Platelet Rich Plasma) คือการรักษาเพื่อบรรเทาอาการบาตเจ็บ และอาการอักเสบของโรคข้อเช่าเสื่อม เอ็นกล้ามเนื้อ เอ็นกระดูกและเนื้อเยื่ออ่อนต่างๆ โดยไม่ต้องผ่าตัด การรักษาด้วยพลาสมาเกล็ดเลือดเข้มชั้น เป็นการผสานการเยียวยาตามธรรมชาติของร่างกายกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ โดยการนำตัวอย่างเลือดของผู้ป่วยเพียงเล็กน้อยมาปั่นเพื่อแยกเกล็ดเลือดและพลาสมาออกมา หลังจากนั้น แพทย์จะนำเกล็ดเลือดและพลาสมาที่ได้มาปันจนเข้มชั้นและฉายแสง (Photoactivation) ก่อนฉีดกลับเข้าไปในบริเวณที่บาดเจ็บ ช่วยลดอาการเจ็บปวดและเร่งการฟื้นฟูร่างกาย ซึ่งการนำเกล็ดเลือดและพลาสมา มาปั่นทำให้ให้ได้เกล็ดเลือดที่มีความเข้มข้นสูงขึ้น ช่วยเพิ่มความสามารถของเกล็ดเลือดไนการซ่อมแซมร่างกายบริเวณที่บาดเจ็บและช่วยลดอาการเจ็บปวด

 

 

 

ขอบคุณข้อมูล : สำนักงานประกันสังคม, โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์, pobpad

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"แกนนำภูมิใจไทย" ผนึกกำลังหาเสียง หนุน "ไสว" ชิงเก้าอี้ เลือกตั้งซ่อมสส.นครศรีฯ มั่นใจผลงานพรรค
"ดีเอสไอ" จ่อเรียกสอบ 40 วิศวกร คดีตึกสตง.ถล่ม
"ฉก.ลาดหญ้า" ยันเหตุปะทะในประเทศเมียนมา ยังไม่มีผลกระทบชายแดนไทย
บางจาก ศรีราชา และ GISTDA ผนึกกำลังกับสวนสัตว์เปิดเขาเขียว ร่วมสร้างอนาคต นกกาฮัง และ การฟื้นฟูความหลากหลายทางชีวภาพ
“กรมอุตุฯ” เตือนรับมือ "พายุฤดูร้อน" ฉบับ 2 ถล่มไทยตอนบน 26 เม.ย.- 1 พ.ค.นี้
“ดร.เฉลิมชัย” ลงพื้นที่ติดตามโครงการศึกษา สำรวจและพัฒนาแหล่งน้ำบาดาลในพื้นที่เสี่ยงกร่อยเค็ม ตำบลอุ่มเม้า อำเภอธวัชบุรี จังหวัดร้อยเอ็ด แก้ปัญหาให้ประชาชน 15 หมู่บ้าน กว่า 7,200 คน มีน้ำกินน้ำใช้ตลอดปี
"ผอ.สปภ." เผย ตึกสตง.ถล่ม ลดซากเหลือ 7 เมตร จนท.ตัดเหล็กขนย้ายได้เร็วขึ้น คาดเสร็จสิ้นเดือนเม.ย.นี้
แฉกลโกงออนไลน์! ใช้ชื่อ ‘ธนินท์’ ลวงซ้ำ – ซีพีเอาผิดไม่เว้น
DITP โชว์ผลงานจัดกิจกรรมส่งออก 7 เดือน สร้างรายได้เข้าประเทศ 36,921 ล้าน ผู้ประกอบการได้ประโยชน์ 42,409 ราย
"กระทรวงยุติธรรม" เปิดตัวโครงการ "รวมพลังอาสาสมัครราชทัณฑ์ คืนคนดีสู่สังคม"

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น