หวั่นเศรษฐกิจหายนะ ดักคอรัฐบาล “พท.” อย่าคิดล้วงลูกแบงก์ชาติ

หวั่นเศรษฐกิจหายนะ ดักคอรัฐบาล "พท." อย่าคิดล้วงลูกแบงก์ชาติ

TOP News ข่าวลือสะเทือนความเชื่อมั่นการเงินการคลังของประเทศ  เมื่อจู่ ๆ เกิดข่าวโคมลอยว่า รัฐบาลเพื่อไทย(พท.)ของ “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี ล็อคสเปคให้ “กิตติรัตน์ ณ ระนอง” อดีตที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี  “เศรษฐา ทวีสิน” และอดีตรองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง สมัยรัฐบาล “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี เข้ามากุมบังเหียน “ประธานบอร์ดแบงก์ชาติ” หวั่นเกรงกันว่าการเมืองจะเข้ามาล้วงลูกการดำเนินนโยบายการเงิน

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี เคยจัดหนักชุดใหญ่ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ แบงก์ชาติ  “ความเป็นอิสระของแบงก์ชาติเป็นอุปสรรคต่อการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ” เพราะมีความขัดแย้งนโยบายการเงิน เพราะ แบงก์ชาติ ไม่ยอมตอบรับ “ใบสั่งการเมือง”  โดยเฉพาะการให้คณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง. เรื่อง ลดดอกเบี้ยนโยบาย และ การผ่อนคลายเรื่องเกณฑ์การปล่อยสินเชื่อ

จนกลายเป็นกระแสตีกลับมาถล่ม “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี กังขาว่า เข้าใจเศรษฐกิจแท้จริงหรือไม่? ทั้งเรื่อง  หนี้สาธารณะ, หนี้ครัวเรือน และข้อกฎหมายและหลักความเป็นอิสระของแบงก์ชาติในฐานะธนาคารกลางของประเทศ ยิ่งบรรดานักเศรษฐศาสตร์ที่เป็นกองเชียร์ “แบงก์ชาติ” ถึงขนาดออกมาโรงมางัดประวัติการศึกษาและประวัติการทำงานของ “เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ” ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เทียบกับ “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี ต่างกันแบบเทียบไม่ติด

ประเด็นรัฐบาลเพื่อไทย เตรียมดันก้นคนของตัวเองที่สามารถรับใบสั่งการเมืองได้  เข้ามากุมบังเหียน “แบงก์ชาติ” เป็นเหตุให้ “ธาริษา วัฒนเกส” อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ออกโรงมาปกป้อง “แบงก์ชาติ” โดยระบุว่า ในขณะนี้มีแต่จิตสำนึกของคณะกรรมการสรรหาประธานธนาคารแห่งประเทศไทยเท่านั้นที่จะยับยั้งหายนะทางเศรษฐกิจที่ผ่านมารัฐบาลได้แสดงความไม่พอใจอย่างชัดเจนต่อธนาคารแห่งประเทศไทย ทั้งในเรื่องไม่ลดดอกเบี้ย  และการคัดค้านนโยบายการแจกเงินหนึ่งหมื่นบาท เป็นต้น  ล่าสุดก็มีการคาดหมายว่ารัฐบาลจะส่งคนของตนเข้าไปเป็นประธานคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย  ซึ่งวัตถุประสงค์ก็เพื่อจะได้สามารถใช้ ธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นเครื่องมือในการสนองนโยบายของรัฐบาล  ซึ่งหากภาพนี้เกิดขึ้น หายนะของเศรษฐกิจไทยก็จะตามมาอย่างแน่นอน  เหมือนที่เราเห็นในต่างประเทศที่รัฐบาลเข้าไปแทรกแซงในธนาคารกลาง การกระทำดังกล่าวทำให้ความเชื่อมั่นของต่างประเทศต่อระบบเศรษฐกิจสั่นคลอน เพราะธนาคารกลางที่ถูกแทรกแซงจะไม่สามารถมีบทบาทในการดูแลเสถียรภาพทางเศรษฐกิจในระยะยาว เศรษฐกิจจึงเสี่ยงที่จะเสียหายจากนโยบายที่เน้นการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้นเพียงอย่างเดียว

ในกรณีของประเทศไทยนโยบายแจกเงิน 10,000 บาทซึ่งจะเป็นภาระทางการคลังอย่างมหาศาล ก็ได้สร้างความเสี่ยงที่ประเทศจะถูกลดอันดับความน่าเชื่อถืออยู่แล้ว หาก ธนาคารแห่งประเทศไทยถูกแทรกแซงจนขาดความเป็นอิสระ ความเสี่ยงของการ ถูกลดอันดับความน่าเชื่อถือจากนานาประเทศก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นอีก /ผลเสียต่อธุรกิจและเศรษฐกิจ ย่อมตามมาอย่างแน่นอน

วงการเศรษฐกิจของไทยได้ชี้ให้เห็นถึงผลเสียหายอันใหญ่หลวงของการแทรกแซงธนาคารแห่งประเทศไทย  แต่รัฐบาลก็ไม่ต้องการรับฟังคำเตือนเหล่านี้  ในขณะนี้ จึงมีเพียงแต่จิตสำนึกของคณะกรรมการสรรหาประธานธนาคารแห่งประเทศไทยเท่านั้น  ที่มีความสำคัญอย่างยิ่งยวดในการยับยั้งไม่ให้เกิดหายนะทางเศรษฐกิจนี้  อันที่จริง กฎหมายของธนาคารแห่งประเทศไทยก็ได้คำนึงถึงความเสี่ยงของการที่กรรมการสรรหาจะถูกแทรกแซงจากทางการเมืองหากกรรมการยังอยู่ในตำแหน่งหน้าที่ทางราชการ กฏหมายจึงได้  กำหนดให้กรรมการสรรหาเป็นอดีตข้าราชการระดับสูงของหน่วยงานสำคัญทางเศรษฐกิจที่เกษียณอายุแล้วทั้งสิ้น  เพื่อจะได้ปลอดภัยจากการถูกแทรกแซง ที่ผ่านมาคณะกรรมการสรรหาตำแหน่งสำคัญๆของธนาคารแห่งประเทศไทยก็ได้ปฎิบัติหน้าที่ด้วยความเป็นอิสระไม่ยอมรับการแทรกแซง ผู้ที่ได้รับการสรรหาจึงเป็นผู้ที่มีความเหมาะสมที่เข้าใจบทบาทของธนาคารกลาง  และสามารถปฎิบัติหน้าที่อย่างเหมาะสม เป็นที่ยอมรับของสังคม

“ธาริษา วัฒนเกส” อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวปิดท้ายว่า จึงได้แต่คาดหวังว่าคณะกรรมการสรรหาในครั้งนี้จะสามารถทำหน้าที่ที่สำคัญนี้ด้วยหลักการเดียวกัน  คงไม่มีท่านใดอยากจะถูกจารึกในประวัติศาสตร์ว่าท่านเป็นคนหนึ่งที่ต้องรับผิดชอบในการทำให้เศรษฐกิจไทยพลิกผันไปสู่ก้าวแรกของความหายนะ

เช่นเดียวกับ  คณะศิษยานุศิษย์ที่นัอมนำรรรรมองค์หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันปัน อย่านำการเมืองและอย่านำนำบุคคลที่มีหัวใจ ยึดโยงกับการเมืองเข้าแทรกแซงอำนาจหน้าที่แห่ง ธปท.โดยเด็ดขาด  ในฐานะประชาชนคนไทยที่เทิดทูนชาติ ศาสน์กษัตริย์เหนือศิรเกล้า ประการสำคัญ ได้ร่วมกันปกป้องทุนสำรองปราการดำนสุดท้ายของชาติอย่างหนักแน่นจริงจัง  ตามคำเตือนอย่างเข้มข้นขององค์หลวงตามหาบัว   ได้เห็นพ้องต้องกันว่า หาก “แบงก์ชาติ” ถูกการเมืองเข้าแทรกแซง ย่อมบังเกิดมหันตภัยขั้นร้ายแรงต่อระบบการเงินมั่นคงของชาติให้วินาศไปได้อย่างง่ายดาย เพื่อป้องกันมิให้เกิดพฤติการณ์เช่นนี้

พร้อมกับงัดคำสอนของ “หลวงตาพระมหาบัว” ที่เคยเทศน์ไว้ว่า  “อำนาจอันใดก็ตามต้องให้มีประชาชนเป็นผู้ควบคุมอำนาจนั้นไว้  ไม่ใช่กฎหมายของคนสองสามคนเข้ามาตั้งเป็นเจ้าอำนาจวาสนาใหญ่โตเหยียบย่ำทำทำลายชาติไทยของเรา  ก็เรียกรัฐบาลมหาภัยเท่านั้นเอง ไม่ใช่รัฐบาลที่ดีสมความมุ่งหมายของประชาชนที่ตั้งขึ้นมา”

วัดใจ “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี จะกล้าดัน “กิตติรัตน์ ณ ระนอง” เป็นประธานบอร์ดแบงก์ชาติหรือไม่ ท่ามกลางกระแสคัดค้านขวางลำไม่ให้รัฐบาลเพื่อไทย เข้ามาล้วงลูกแบงก์ชาติ!

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

เลือกตั้งนายกอบจ.นครศรีธรรมราช “น้ำ วาริน” คะแนนนำ “กนกพร” โค่นแชมป์เก่า
เล็ก ฝันเด่น มอบสิ่งของที่มีสารไอโอดีนให้ ทรภ.1 นำสู่น้อง ๆ สู่พื้นที่ภาคเหนือ
รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ จัดงานวันเบาหวานโลก “World Diabetes Day 2024”
เลือกตั้ง นายก ทต. ท่าพริกเนินทราย คึกคัก
รถบรรทุก 6 ล้อ ไหลลงเนินเขา เบรกไม่อยู่ พุ่งชนร้านค้า โชคดีไร้ผู้บาดเจ็บ
“ปานเทพ” แนะ “หมอบุญ” กลับไทยยังไม่สาย ลั่นหากคิดว่าตัวเองไม่ผิด ก็มาแสดงความบริสุทธิ์
"แสวง" เลขากกต.รับ ผู้มาใช้สิทธิ์เลือกนายกอบจ.อุดรธานี บางตา ย้ำรู้ผลคะแนนไม่เกิน 3 ทุ่มวันนี้
สดุดีทหารกล้า สละชีวิตเหตุคนร้ายซุ่มยิงทหารพราน ในพื้นที่ยะลา
"ชูศักดิ์" ชี้สัญญาณดี ศาลฯไม่รับคำร้องคดี "ทักษิณ-พท." ล้มล้างการปกครอง พร้อมแจงคดีครอบงำต่อกกต.
"ปานเทพ" ชี้ "ทนายตั้ม" ดิ้นยาก เปลี่ยนคดีฉ้อโกงเป็นแพ่ง ท้าแน่จริงรับสารภาพดีกว่า

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น