“นายกฯ” เสนอวิสัยทัศน์ 3 เรื่อง เน้นความยั่งยืน-มั่นคงของมนุษย์-ร่วมมือระดับภูมิภาค

นายกฯ แพทองธาร เสนอวิสัยทัศน์บนเวทีแรกเช้านี้3ประเด็น สำคัญ เน้นความยั่งยืนของสมาชิก-ความมั่นคงของมนุษย์-และการบูรณาการร่วมกันระดับภูมิภาค เพื่อเชื่อมโยงประเทศ อาเซียนที่แข็งแรงระหว่างกันนำไปสู่การ”กินดีอยู่ดี“ของประชากร กว่า 700 ล้านคนในภูมิภาค

“นายกฯ” เสนอวิสัยทัศน์ 3 เรื่อง เน้นความยั่งยืน-มั่นคงของมนุษย์-ร่วมมือระดับภูมิภาค – Top News รายงาน

นายกฯ

เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2567 เวลา 09.30 น. นายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร ได้เข้าร่วมการกล่าวถ้อยแถลงในการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 44 แบบเต็มคณะ เพื่อย้ำถึงความจำเป็นที่อาเซียนต้องมี “Collective Leadership” หรือการ ทำงานร่วมกันระหว่างชาติสมาชิก ในการแก้ไขปัญหาของประชาชน และส่งเสริมการกินดีอยู่ดีของประชาชนกว่า700 ล้านคนในภูมิภาค

ในการประชุมครึ่งเช้า วันนี้ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญดังนี้ นายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร ขอบคุณสำหรับการต้อนรับในครอบครัวอาเซียนอย่างอบอุ่นซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของนโยบายต่างประเทศของไทยในการมุ่งมั่นที่จะเดินหน้าพัฒนาประชาคมอาเซียน ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญนี้ที่ประเทศสมาชิกอาเซียนต้องเผชิญกับความท้าทายที่ยากและซับซ้อน ทั้งจากการแข่งขันทางภูมิรัฐศาสตร์ จนถึงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ความเสียหายจากพายุไต้ฝุ่น“ยางิ”ที่ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างในหลายประเทศของสมาชิกอาเซียน จึงเป็นสิ่งย้ำเตือนให้ประเทศไทยต้องให้ความสำคัญกับการพัฒนา โดยมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง นอกจากนี้จำเป็นที่จะต้องสร้างประชาคมอาเซียนที่เชื่อมโยงและยืดหยุ่นในแต่ละปัญหาให้มากยิ่งขึ้น

ข่าวที่น่าสนใจ

นายกรัฐมนตรีเชื่อว่าความเป็นผู้นำร่วมกัน (collective leadership) ที่พร้อมจะสร้างความแตกต่างและนำไปสู่การแก้ไขปัญหา และความเจริญร่วมกันได้ โดยประเทศไทยได้เสนอประเด็นสำคัญ ดังนี้

1.ประเด็นด้าน“ความยั่งยืน”นั้นประเทศไทยในฐานะผู้ประสานงานอาเซียนเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน เห็นว่าอาเซียนต้องร่วมกันดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศ และความเป็นกลางทางคาร์บอน การเปลี่ยนผ่านไปสู่ พลังงานสะอาด การเงินสีเขียว และเศรษฐกิจสีเขียว รวมถึงนวัตกรรมดิจิทัลเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน เพื่อให้มั่นใจได้ว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจในยุคสมัยใหม่นี้จะไม่กระทบสิ่งแวดล้อม หรือเกิดความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อม ในภูมิภาค

2. ประเด็นด้าน“ความมั่นคงของมนุษย์ ”นั้นประเทศไทยได้เสนอ ว่าอาเซียนต้องทำงานร่วมกัน ในการต่อสู้กับทุกวิกฤต เพื่อให้ประชาชนมี อาหาร พลังงาน และสิ่งจำเป็นพื้นฐาน และควรส่งเสริมการเกษตรอัจฉริยะไปพร้อมๆ กับเกษตรยั่งยืน เพื่อวางรากฐานที่มั่นคงสำหรับผลผลิตและความมั่นคงทางอาหารในระยะยาว ของภูมิภาค นอกจากนี้จะต้องเร่งเสริมสร้างกรอบการทำงานของอาเซียน ในด้านพลังงานเช่น การเชื่อมโยงโครงข่ายไฟฟ้าของอาเซียน เพื่อการยืดหยุ่นด้านพลังงานในภูมิภาค
ขณะเดียวกัน สมาชิกอาเซียน ควรร่วมกันส่งเสริมการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ที่มีพรมแดนระหว่างกัน รวมถึงเพิ่มศักยภาพในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเฉพาะการหลอกลวงออนไลน์ แกงค์คอลเซ็นเตอร์ และการปราบปรามการ ค้ายาเสพติด โดยเพิ่มความเข้มข้นในการควบคุม พื้นที่บริเวณชายแดนระหว่างกัน

3.สำหรับประเด็นเรื่อง“การบูรณาการระดับภูมิภาคที่ลึกซึ้ง “นั้น นายกรัฐมนตรีแพทองธาร ได้กล่าวถึงการสนับสนุนในความพยายามของอาเซียน ในการปรับปรุงและยกระดับ FTA กับคู่เจรจา และในฐานะที่ไทยเป็นประธานคณะกรรมการเจรจา ASEAN Digital Economy Framework Agreement (DEFA) จะผลักดันการเจรจาให้แล้วเสร็จภายในปีหน้านี้ ( พ.ศ.2568) เพื่อสร้างเครื่องยนต์กลไก เพื่อกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจใหม่ ๆในอาเซียนนอกจากนี้ยังส่งเสริมการพัฒนาทักษะดิจิทัลสำหรับ ธุรกิจขนาดกลางขนาด ย่อม และ ขนาดย่อย หรือ MSMEs เพื่อเพิ่มการเข้าถึงแหล่งเงินทุน เพื่อช่วยสร้างการเติบโตในเศรษฐกิจของโลกที่ผันผวนอยู่ในขณะนี้

 

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงการสร้างความเชื่อมโยงในทุกๆด้านที่จะเป็นกุญแจสำคัญ อาทิ ขอให้อาเซียนส่งเสริมความเชื่อมโยงระหว่างประชาชนต่อกันเป็นพิเศษ เช่นการเพิ่มเที่ยวบินและขยายระยะเวลาการยกเว้นวีซ่า (visa-free) ระหว่างประเทศอาเซียน การส่งเสริมการค้าและการท่องเที่ยว รวมทั้งความร่วมมือกับประเทศพันธมิตรอื่นๆ เพื่อเสริมสร้างความเป็นแกนกลางและความสามัคคี ที่จะทำให้การมีส่วนร่วมของอาเซียนกับประเทศพันธมิตรภายนอก มียุทธศาสตร์ที่เกี่ยวข้องมากขึ้น

ทั้งนี้ สมาชิกอาเซียน ควรหลีกเลี่ยงการเป็นตัวแทนของอำนาจใดๆ หรือปล่อยให้ภูมิภาคนี้กลายเป็นเวทีแห่งการแข่งขัน ทั้งนี้เพื่อสร้างสมดุลเชิงยุทธศาสตร์ และไทยจะทำหน้าที่ส่งเสริมสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองร่วมกันอย่างแข็งขันเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการพัฒนาในภูมิภาค

นายกรัฐมนตรีกล่าวเสริมว่า ประเทศไทยจะรอ การสถาปนาความเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์แบบรอบด้านระหว่างอาเซียน-สาธารณรัฐเกาหลี และอาเซียน-นิวซีแลนด์ และประเทศไทยพร้อมสนับสนุนข้อริเริ่มของประเทศมาเลเซียในการจัดการประชุม ASEAN-GCC-China Summit ในปีหน้า

นายจิรายุ กล่าวต่อไป ว่า “ทั้งนี้ ในช่วงท้ายการประชุมช่วงเช้า นายกรัฐมนตรีได้กล่าวแสดงความยินดีกับ สปป.ลาว สำหรับความสำเร็จของการเป็นประธานอาเซียนครั้งนี้ และพร้อมสนับสนุนมาเลเซียในการเป็นประธานอาเซียนวาระถัดไปซึ่งมั่นใจว่าจะพาประเทศสมาชิกอาเซียนให้พัฒนามในมุกๆด้านต่อไปในอนาคตอันใกล้นี้”

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ทางด่วน ฟรี" วันหยุด วันนวมินทรมหาราช เส้นทางไหนบ้าง เช็กเลย
“พิชัย” นำทัพพาณิชย์ ถกภาคธุรกิจไทยรายใหญ่ในลาว ชูใช้ประโยชน์ เส้นทางรถไฟไทย-ลาว-จีน ทำเงินเข้าประเทศ
ชาวบ้านร้องสถานบันเทิง ทรงอิทธิพล ไม่มีใบอนุญาต เปิดดำเนินกิจการ ฝ่าฝืนคำสั่ง เจ้าหน้าที่สั่งหยุดดำเนินกิจการแต่ก็เพิกเฉย แถมเอาคอนเสิร์ตลงทุกอาทิตย์ เย้ยหน่วยงานภาครัฐ
สรุป 10 ภารกิจ นายกฯ ประชุมสุดยอดอาเซียน วันที่ 2 “ทำไทยแลนด์เนื้อหอม” หลายประเทศคู่เจรจา พร้อมขยายการค้า ลงทุน
มูลนิธิกระจกเงารับ “อาสาล้างบ้าน” น้ำท่วมเชียงราย บินฟรีพร้อมที่พัก ค่าอาหาร
"กบ ไมโคร" ท้าเดือด กลุ่ม "บอสนักแสดง" ควรปิดห้องคุยปม "ดิ ไอคอน" จะได้รู้ ทำไมเหยื่อถึงอยากฆ่าตัวตาย
“สมาคมการขายตรงไทย” แจงรูปแบบธุรกิจที่ถูกต้อง ยันแบรนด์ธุรกิจดัง ไม่ได้เป็นสมาชิก
ชุ่มฉ่ำทั่วไทย อุตุฯ เตือน ฝนถล่ม 43 จังหวัด กทม.ฝน 70 % ภาคใต้โดนเต็ม ๆ
เทวาลัยมหากาลีอวตารจักรวาลชนนี ร่วม สมาคมอินเดียชลบุรี จัดพิธีอัญเชิญองค์เทวรูปพระแม่ทุก ๆ พระองค์ แห่รอบเมืองพัทยา เนื่องในงาน “นวราตรี”
สว.รจนา เพิ่มพูล ร่วมพิธี ปลุกเสกวัตถุมงคล 120 ปี มรภ.พระนครศรีอยุธยา นิมนต์ “หลวงปู่ศิลา” พร้อม 33 เกจิดังจากทั่วสารทิศ นั่งปรกอธิฐานจิต

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น